สำนักข่าวไทย 7 พ.ย.-ผอ.สถาบันราชานุกูล ชี้คลิป ดารา สั่งกราบรถ เป็นการส่งต่อความรุนแรง แนวโน้มทำให้สังคมไทยใช้ความรุนแรงมากขึ้น ส่วนพฤติกรรมดาราคนดัง เป็นเพราะต้นทุนทางสังคมทำให้รถสำคัญกว่าคน แนะวิธีลดความโมโหให้ตั้งสติ
พญ.อัมพร เบญจพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวถึงกรณีกระแสการแชร์ภาพดาราบังคับเจ้าหน้าที่สรรพากร กราบรถ ว่า ในรอบ 4-5 ปี ที่ผ่านมา พบว่าสังคมไทย มีคนอารมณ์รุนแรงมากขึ้น ใช้อารมณ์และความรุนแรงตัดสินปัญหา ยิ่งมีเทคโนโลยีก้าวหน้า ใช้เทคโนโลยี เป็นพยานหลักฐาน มากขึ้น เมื่อมีการแชร์ภาพกันจน ชาชิน ก็กลายเป็นต้นแบบการลุแก่โทสะ ใช้อารมณ์ตัดสิน ประกอบกับมีความเครียด สะสมความเครียด จึงเกิดการเลียบแบบ ทั้งนี้ห่วงสภาพสังคมไทย ลุแก่โทสะ กลายเป็นลูกโซ่ ใช้ศาลเตี้ยลงโทษกันเอง สร้างความเกลียดชัง ทำให้สังคมเกิดความยอมรับไปโดยปริยาย พร้อมเตือนงดแชร์ส่งต่อความรุนแรง ควรแชร์และส่งต่อข้อความอย่างสร้างสรรค์
พญ.อัมพร กล่าวว่า พฤติกรรมใช้ความรุนแรง ต่อย ตี หรือแม้แต่การต่อว่า กลางที่รโหฐาน ทำไมยิ่งมีคนดูสนใจมาก ถึงยังกล้าทำความรุนแรง ต้องเข้าใจว่า เรื่องราวที่มีความแปลกดึงความสนใจคนง่าย ประกอบกับอารมณ์โมโห ทำให้คนขาดสติ แสดงความรุนแรง ส่วนการเห็นสิ่งของสำคัญ กว่าชีวิตคน ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างของ ต้นทุนชีวิต การมีความเครียดสูง อาจทำให้มีข้อจำกัดในการเห็นใจผู้อื่น นึกถึงแต่ตัวเอง ความสูญเสียของตัวเอง เห็นใจคนอื่นน้อย ยิ่งเป็นคนมีชื่อเสียง ก็ทำให้ต้องเผชิญกับสิ่งที่สูญเสียตามมา ทั้งชื่อเสียง การยอมรับในสังคม แต่หากเป็นคนทั่วไป ก็ใช่ว่าจะไม่เผชิญกับการความสูญเสีย เพราะความดีอยู่กับใครก็ยังเป็นความดี ความชั่วอยู่กับใครก็เป็นความชั่ว ไม่ใช่อยู่กับคนมีชื่อเสียงจะรุนแรง หรืออยู่กับคนทั่วไปความชั่วจะน้อยลงก็ไม่ใช่ เพียงแต่คนมีชื่อเสียงง่ายแก่การรับรู้ของสังคม
ขณะที่วิธีลดความโมโห อันดับแรกต้องมีมีสติ รู้ทันอารมณ์ ตัวเอง ต้องเติมความเข้าใจผู้อื่น เห็นใจผู้อื่น และพยายามควบคุมแสดงออกของตนเอง พยายามคิดถึงผลที่จะตามมา.-สำนักข่าวไทย