กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – กรมขนส่งทางบกดีเดย์ 5 พ.ค.บังคับรถตู้โดยสารหมวด 1 กรุงเทพฯ-ปริมณฑลต้องมี 13 ที่นั่ง หลังผ่อนผันควบคุมผู้โดยสารเทศกาลสงกรานต์ ส่วนปัญหาบรรทุกผู้โดยสารในกระบะท้ายหลายหน่วยงานเตรียมถกหารือแนวทางบังคับใช้กฎหมาย 21 เม.ย.นี้
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายในส่วนของรถตู้สาธารณะประเด็นกำหนดเบาะที่นั่งภายในรถ หลังจากเทศกาลสงกรานต์เจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนที่เกี่ยวข้องมีการผ่อนผันโครงสร้างภายในรถ โดยรถตู้แม้จะมีที่นั่งมากกว่า 13 ที่นั่ง แต่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกิน 13 คน ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือด้วยดีจากผู้ประกอบการรถตู้ โดยปฏิบัติตามกฎหมายเกือบ 100 % หลังจากนี้จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเฉพาะโครงสร้างตัวรถเริ่มจากรถตู้โดยสารหมวด 1 กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเริ่มบังคับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ต้องมี 13 ที่นั่ง หลังจากนั้นวันที่ 5 มิถุนายนจะมีการบังคับใช้กฎหมายรถตู้ระหว่างจังหวัดหมวด 2 และ 3 ต่อไป
นายสนิท กล่าวถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายจราจรเกี่ยวข้องกับการบรรทุกผู้โดยสารกระบะท้ายของรถกระบะทั่วไป ว่า เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่อนผันให้มีการโดยสารท้ายกระบะได้ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต ยืนยันว่าจะบังคับใช้กฎหมายตามกรอบกฎหมายที่มีในปัจจุบัน โดยจะไม่เพิ่มกฎหมายที่จะทำให้เกิดภาระหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มแก่ผู้ใช้รถ หรือออกกฎหมายบังคับให้ติดอุปกรณ์ส่วนควบเพิ่ม แต่จะใช้แนวทางของกฎหมายที่มี เช่น กำหนดจำนวนผู้โดยสารท้ายกระบะว่าจะต้องไม่เกินเท่าใด และต้องโดยสารลักษณะเกิดความปลอดภัย รวมถึงจำกัดความเร็วที่มีการบรรทุกผู้โดยสารด้านหลัง ซึ่งบนถนนหลวงกำหนดอัตราความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.อยู่แล้ว
สำหรับความชัดเจนของการบังคับใช้กฎหมายท้ายกระบะวันที่ 21 เมษายนนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งกรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตำรวจ หารือร่วมกันและกำหนดกรอบบังคับใช้กฎหมายการโดยสารท้ายกระบะ.-สำนักข่าวไทย