สธ.แนะอากาศร้อน ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร

กรมสบส.17 เม.ย.-สบส.แนะวิธีคลายร้อน ดื่มน้ำมากๆ วันละ2 ลิตร ช่วยควบคุมระดับอุณหภูมิร่างกาย  พร้อมย้ำหลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงอากาศร้อน เสี่ยงช็อกเสียชีวิต


นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศร้อนอบอ้าวมาก โดยเฉพาะช่วงกลางวัน บางแห่งอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเกินระดับอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส อาจส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วย เนื่องจากความร้อนทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและต่อมเหงื่อมากขึ้น โดยทั่วไปร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ในแต่ละวันจะมีการสูญเสียน้ำออกจากร่างกายทางเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ การหายใจ รวมกันประมาณ 2 ลิตร ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกวัยดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ให้ได้วันละประมาณ 2 ลิตร ซึ่งน้ำจะทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติ จุความร้อนได้สูง จึงทำให้อุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ช้าและเปลี่ยนแปลงไม่มาก ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ      


นพ.ภัทรพลกล่าวว่า เครื่องดื่มที่ประชาชนไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ได้แก่เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ สาโท กระแช่ น้ำตาลเมา เป็นต้น ไม่ว่าจะดื่มโดยใส่น้ำแข็งเพิ่มความเย็นหรือไม่ใส่ก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น มีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม ประการสำคัญการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหัวใจทำงานหนักขึ้น อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ หากผู้ดื่มมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก จะเพิ่มแรงดันโลหิตให้สูงขึ้น อาจเกิดปัญหาเส้นเลือดแตกเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตได้      


สำหรับการดื่มน้ำให้ได้ตามปริมาณที่กำหนด ขอแนะนำให้ดื่มทีละนิดหรือจิบบ่อยๆ เพื่อให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพิ่มภาระให้ระบบขับถ่าย เช่น ไต ระบบย่อยอาหาร เนื่องจากการดื่มน้ำครั้งละมากๆ ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ไม่ทันและจะถูกขับออกมาเป็นปัสสาวะแทน ปริมาณน้ำที่ประชาชนควรดื่มนั้น กลุ่มประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ที่ทำงานในที่ร่ม ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรือผู้ที่ออกกำลังกาย  ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน การประเมินว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอหรือไม่ มีวิธีสังเกตง่ายๆ โดยดูจากสีของน้ำปัสสาวะ หากมีสีเหลืองจางๆ แสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้าปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มคล้ายน้ำชาและปัสสาวะออกน้อย แสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะต้องเพิ่มการดื่มน้ำให้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น