“พล.ต.ท.ฐิติราช” เตรียมเรียกแม่ข่ายในทีม “โชกุน” มาสอบสวน

กองปราบปราม 13 เม.ย.-“โชกุน” ยังยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาฉ้อโกง ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยเตรียมเรียกแม่ข่าย 30 คนมาสอบสวนทั้งหมด


หลังตำรวจจับกุมนางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ โชกุน ที่หลอกลวงประชาชนลูกกว่า 2 พันคนไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อนลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ และควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองปราบปรามตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา หลังหลอกลวงประชาชนกว่า 2 พันคนให้ซื้อทัวร์ญี่ปุ่น ก่อนลอยแพที่สนามบินสุวรรรภูมิ

โดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ในคดีนี้เบื้องต้นมีการประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท จึงต้องประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้อายัดบัญชีและทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อตรวจสอบหาที่มา ก่อนจะนำเงินทยอยคืนให้กับผู้เสียหายทุกคนแต่อาจได้ไม่เต็มจำนวน ก่อนควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว


พล.ต.ต.สุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่ระบุว่าจะมีการนำสมาชิกไปเข้าเฝ้าฯ และเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังมาเป็นประธานเปิดงานของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 นั้น พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีความชัดเจนก็สามารถดำเนินคดีได้ สำหรับเครือข่ายโชกุนอีก 8 คนที่เหลือนั้น ขณะนี้ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาแต่อยู่ในความควบคุมที่มณฑลทหารบกที่ 11  โดยอาศัยคำสั่ง คสช.

ขณะที่นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เดินทางเข้าเยี่ยมและพูดคุยกับโชกุน พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้รับการติดต่อจากโชกุนในเรื่องคดี ซึ่งเมื่อตนเดินทางไปถึงจังหวัดระนอง พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวโชกุนแล้ว จากการพูดคุยโชกุนยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาที่จะฉ้อโกง ส่วนเรื่องเงินนั้น ก็ระบุว่าจะคืนเช่นกัน ทั้งนี้ ตนได้ให้คำแนะนำกับโชกุนตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 เม.ย.) ไปว่า หากจะยืนยันในความบริสุทธิ์ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะหลบหนี แต่ที่เดินทางไปจังหวัดระนอง เพื่อไปตั้งหลักและหาหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว

นายนิติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตนนั้นยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะรับเป็นทนายความในคดีนี้หรือไม่ แต่ที่เดินทางมาวันนี้เพื่อดูแลสิทธิ์เบื้องต้นของผู้ต้องหา ส่วนคดีอื่น ๆ ที่เคยเป็นทนายความให้คือคดีเช็ค ศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว แต่คดีนี้ ยังไม่ได้พูดคุยว่าจะหาทางออกอย่างไร ส่วนที่โชกุนว่ามีแม่ข่ายไปแอบอ้างเรื่องการขายทัวร์นั้นโชกุนยืนยันว่ามีการแอบอ้างจริง ตนจึงให้นำหลักฐานมาแสดง


ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า จากการติดตามเรื่องทรัพย์สินของผู้ต้องหาพบว่ามีเงินสด 3,000,000 บาท และส่วนอื่น ๆ ผู้ต้องหาก็ได้ใช้จ่ายไปในหลายเรื่อง ซึ่งก็เป็นขั้นตอนตามกฏหมายของทาง ปปง.ในการดำเนินการยึดทรัพย์ ส่วนการที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหานั้น ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่คือแสวงหาหลักฐานให้ได้มากที่สุด และตำรวจมีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอต่ออัยการให้มีความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง และขั้นตอนจากนั้นก็เป็นการใช้ดุลพินิจของศาลต่อไป ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ซึ่งต้องดำเนินการโดยเร็ว

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีดังกล่าวจะต้องคัดค้านการประกันตัวอยู่แล้ว ส่วนคลิปการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 นั้น ผู้ต้องหายังคงใช้ชั้นเชิงอยู่ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องติดตามต่อไป ล่าสุดได้รายชื่อของแม่ข่ายในทีมมา 30 คนแล้ว เตรียมเรียกมาสอบสวนทั้งหมด แต่แม่ข่ายที่พบนั้นไม่ถึงขนาดเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีญาติโชกุนเดินทางเข้ามาเยี่ยมด้วย

นางเรวดี แกสเปอร์ พร้อมด้วย นางพัชราภรณ์ ตระโกภู่ ผู้เสียหายจากคดีดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความ พร้อมเปิดเผยว่า มีเพื่อนที่สนิทกันมานาน ชื่อว่า วัลยา เป็นแม่ทีม มาชักชวน ว่าสามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยมีค่าใช้จ่ายแค่คนละ 10,000 บาท พร้อมกับส่งโปรแกรมเที่ยวมาให้ดู ซึ่งแม่ทีมที่สนิทกันได้ไปจริงมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ตัวเองเชื่อว่าจะได้ไปจริง จึงตัดสินใจโอนเงินให้ทั้งที่ลูกก็คัดค้านเพราะเกรงว่าจะถูกหลอกลวง ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้เข้าอบรมกับบริษัท เพราะไม่ได้อยากขายของเพียงแต่ต้องการไปเที่ยว ในขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะได้รับเงินคืนหรือไม่ แต่เชื่อว่าแม่ทีมที่สนิทกันไม่มีส่วนรู้เห็นกับการหลอกลวงครั้งนี้ และจนถึงขณะนี้ก็ยังสามารถติดต่อแม่ทีมคนดังกล่าวได้ และไม่ได้มีการข่มขู่จากแม่ทีมแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังได้ฝากถึงประชาชนที่ถูกหลอกลวงให้มาแจ้งความร้องทุกข์จะดีกว่า ส่วนตัวก็หวังว่าจะได้เงินคืนหากมีการอายัดทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ