ทำเนียบรัฐบาล 10 เม.ย.-นายกฯ ระบุพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกไปญี่ปุ่น ขณะที่สคบ.เผย บริษัทหลอกทัวร์เข้าข่ายฉ้อโกง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีบริษัทขายตรงลอยแพนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นกว่า 2,000 คน ว่าสั่งการให้ตรวจสอบผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบทั้ง 2,000 คนแล้ว
“ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต้องตรวจสอบให้ดี เพราะคนไทยเป็นคนเชื่อคนง่ายและอาจถูกหลอกได้ รัฐบาลต้องการเข้าไปดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายที่มี ซึ่งกรณีนี้คงต้องเป็นไปตามกระบวนการฟ้องร้องและไปต่อสู้คดีในชั้นศาล” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านพ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงกล่าวภายหลังเข้าพบนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า มาชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือและเยียวยาตามหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ซึ่งบริษัทที่ก่อเหตุไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรงกับสคบ. อีกทั้งรูปแบบการดำเนินการไม่ได้มีสินค้ามาจำหน่าย เป็นเพียงนำสินค้ามาทำแผนธุรกิจตลาดออนไลน์ เพื่อจูงใจให้หลงเชื่อ ซึ่งต้องพิจารณารูปแบบของการดำเนินการของบริษัทดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดใด เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน
“สคบ.ทำได้เพียงเร่งตรวจสอบบริษัทดังกล่าว พบว่าจดทะเบียนวันที่ 5 มกราคม 2560 มีที่ตั้งที่จังหวัดนครสวรรค์ เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5 – 6 ครั้ง ถูกออกหมายจับมาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากได้ความคืบหน้าจะรายงานให้รัฐมนตรีรับทราบ และหากพบว่าเป็นบริษัทขายตรงจริงจะดำเนินการตามกฎหมายของ สคบ. ทั้งนี้ สคบ.ทำได้เพียงให้คำปรึกษากับบริษัทและผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งการจะดำเนินการใดๆ ต้องเข้าข่ายความผิดที่อยู่ในอำนาจของสคบ.เท่านั้น” พ.ต.อ.ประทีป กล่าว
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนว่าควรตรวจสอบบริษัทนั้นว่าจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ และหากมีการอ้างว่าจดทะเบียนขายตรงเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบมายังสคบ.ได้ หรือหากเป็นบริษัทนำเที่ยวจะต้องมีมัคคุเทศก์ ซึ่งรูปแบบการดำเนินธุรกิจลักษณะนี้จะพบเห็นบ่อยครั้งและเกิดขึ้นได้ง่ายในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี.-สำนักข่าวไทย