นักวิชาการเตือน ส.ว.-กกต.อย่าเป็นชนวนสร้างวุ่นวาย

มธ. ท่าพระจันทร์ 11 พ.ค.-นักวิชาการ จี้ ส.ว.ทำสัญญาประชาคม ยึดเสียงส่วนใหญ่จากการเลือกตั้ง โหวตนายกฯ เตือน กกต.ทำหน้าที่ให้เรียบร้อย ยกชุด “พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ” ให้คิด หวั่นเป็นชนวนเหตุวุ่นวายจนรัฐประหารอีกรอบ


นักวิชาการจาก 5 สถาบันการศึกษา ในนามเครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชน แถลงข่าวเปิดโหวตเสียงประชาชน หัวข้อ “ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ที่สมาชิกวุฒิสภาควรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร”  ซึ่งจะเปิดให้โหวต ตั้งแต่ 12.00 น.ของวันที่ 15 พ.ค.ถึงเวลา 12.00 น. วันที่ 18 พ.ค. และจะแถลงผลโหวตในวันเดียวกัน(18 พ.ค.)

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งกับซองเหมือนเป็นบัตรโหล ซองโหล จึงกังวลใจและขอเรียกร้องให้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม โดยไม่ต้องคำนึงว่าใครเป็นคนเลือกเข้ามา ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ให้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ อยากให้ประชาชนช่วยส่งเสียงไปยังส.ว. แม้ว่าเสียงข้างมากในสภาจะเป็นอย่างไร อยากให้เสียงข้างมากเป็นผู้ตั้งรัฐบาล ให้ส.ว.เคารพตรงนี้ และกลไกอำนาจส.ว. ยังอยู่ถึงปีหน้า


“สภาชุดที่แล้ว เป็นสภาที่มี ส.ส.งูเห่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมีการใช้เงินเพื่อจูงใจในการย้ายข้าง ย้ายฝั่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ต้องการปฏิรูปประเทศไม่ใช่ความสุขที่ประชาชนคนไทยต้องการ ขนาดเสียงปริ่มน้ำยังมีปัญหาขนาดนี้ ถ้าเป็นเสียงข้างน้อย ปัญหาจะมากขนาดไหน” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา เสนอไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ให้ใช้วิธีการในการลงมติตามข้อบังคับของที่ประชุมรัฐสภากำหนดไว้ว่าให้การลงคะแนนออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามมาตรา 56 ( 2 )ที่ให้ออกเสียงลงคะแนนโดยเปิดเผยเรียงลำดับตามอักษรโดยส.ส.และ ส.ว.คละกัน อาจทำให้ส.ว.บางคนเกิดความกังวล ซึ่งใน( 3 )สามารถที่จะเปลี่ยนวิธีการลง คะแนนได้ จึงเสนอให้ส.ส.ลงก่อนและให้ส.ว. ลงทีหลัง พื่อให้ส.ว.ทราบว่าเสียงของประชาชนนั้นไปทางไหน

ส่วนข้อกังวลที่จะเป็นสุญญากาศทางการเมือง หากเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรกไม่ได้ เพราะต้องตั้งรัฐบาล 376 เสียง ซึ่งส.ว.อาจงดออกเสียง เลือกนายกฯไม่สำเร็จ นายปริญญา กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเกิดการต่อรอง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น ที่ร้ายกว่าคือจะมีการใช้วรรค 2 ของมาตรา 172 คือนายกฯ คนนอกบัญชี ถ้าเลือกตามวรรค 1 ไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ผลดี เพราะหลักการง่ายมากแค่ประชาชนเจ้าของอำนาจเลือกไปทางไหนก็ให้ส.ว.โหวตไปตามนั้น ระหว่างเลือกคนที่เลือกท่านมากับฟังเสียงประชาชนขอให้เลือกประชาชน


นายปริญญา กล่าวว่า รู้สึกกังวลใจว่าการเลือกตั้งอาจเป็นโมฆะ เพราะมีพูดกันถึงกกต. ชุดนายวาสนา เพิ่มลาภที่เคยถูกจำคุกมาแล้ว และยกกรณีเชียงใหม่เขต 8 ที่กกต.ให้ใบส้มไม่ถูกต้อง เพราะไม่ใช่การซื้อเสียง และสั่งให้กกต.ชดใช้ ไม่อยากให้เกิดการรัฐประหารอีก อยากให้สังคมไทยก้าวพ้นจากจุดนี้ ม่ควรจะเกิด อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เรียบร้อย เพราะหากมีปัญหาจนโมฆะ อาจถูกฟ้องร้องและมีค่าเสียหายสำหรับการจัดการเลือกตั้ง 6,000 ล้านบาท ส่วนการเมืองหลังการเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชน

นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  กล่าวว่า เสียงประชาชนต้องมาก่อน อยากให้ส.ว.ตอบสนองความต้องการของประชาชนทั่วไป ทิ้งมรดกที่ดีให้แก่ลูกหลาน คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะ มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 75 – 80% พร้อมขอส่งสารไปยังกกต.ที่มาจาก ส.ว. ที่มาจาก คสช. ที่ทำให้เลี่ยงไม่ได้ว่าตนและประชาชนจะสงสัยว่าบางพรรคการเมืองมีอิทธิพลเหนือกกต. และหลายเหตุการณ์ทำให้คนตั้งข้อสงสัยถึงการทำหน้าที่ของกกต.

“โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดเรื่องการยิงเลเซอร์สะพานพระราม 8 ขณะที่การพิมพ์บัตรเลือกตั้งระบบเขตไม่มีชื่อผู้สมัคร ไม่มีชื่อพรรคที่ไม่อำนวยความสะดวก ให้ประชาชน และป้ายหน้าหน่วยเลือกตั้งบางจุดไม่มีชื่อผู้สมัคร จนทำให้ประชาชนเคลื่อนไหวในโซเชียลล่าชื่อขับกกต. สะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจในการทำงานของกกต. ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความรุนแรง บานปลายจนกระทบระบอบประชาธิปไตยโดยรวม จนทำให้กกต.กลายเป็นคนบาป เพราะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดชนวนความรุนแรงขัดแย้งของสังคม” นายพิชาย กล่าว

นายพิชาย ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมามีกกต.ชุดแรกชุดเดียวที่สังคมไว้วางใจ นอกจากนั้นมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน จึงอ่อนแอ แต่ระยะเวลาที่เหลือไม่กี่วัน ยังคงมีความหวังว่ากกต.จะเปลี่ยนวิธีคิด สลัดจากบ่วง บุญคุณที่ไร้ความชอบธรรม ยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง ในการรักษาและสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ทหารที่ฉวยโอกาสทำรัฐประหารอีกครั้ง จนทำให้การเลือกตั้งถูกยกเลิก กกต.อาจถูกยุบไปด้วย ที่สำคัญคือจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองไทยขึ้นมา หวังว่าตั้งแต่ 14 พ.ค.จะเห็นกกต.โฉมใหม่ และขอให้ประชาชนจับตาการทำงาน ให้กกต.ทำงานเพื่อรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว จากมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ขอส่งเสียงไปยังส.ว.ให้เคารพเสียงของประชาชน พร้อมขอให้เคารพเสียงของประชาชน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวมากที่สุด ด้วยความคาดหวังอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้ ขณะนี้มีสัญญาณนรกจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ไม่สมควรทำแต่ทำได้ ทั้งยังอยากให้ส.ว.มีมติในช่วงที่เปิดสมัยวิสามัญว่าจะมีท่าทีอย่างไรกับผลการเลือกตั้ง

“ถ้าประชาชนคิดเห็นเป็นอย่างไร ส.ว.จะเคารพเสียงประชาชนออกมาเป็นมติหรือสัญญาประชาคมกับประชาชนทั้งประเทศ เพื่อคลายความกังวลใจ และสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้ดีขึ้น อย่าให้องค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่สร้างความคลุมเครือ ส่วนข้อกังวลว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ หวังว่าเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นจำนวนเยอะ ซึ่งเมื่อมารวมกันก็เป็นมวลใหญ่ของปัญหาและนำไปสู่ความไม่เป็นธรรมกับผลการเลือกตั้ง” นายโอฬาร กล่าว

นายวันวิชิต บุญโปร่ง มหาวิทยาลัยรังสิต ยอมรับว่า มีอคติกับส.ว.เพราะรู้อยู่แล้วถึงที่มาที่ไป ขณะที่การจัดการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้ชี้แจงกระบวนการในการนับคะแนนให้ชัดเจน และกังวลที่สุดว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการนับคะแนน ถ้าวันที่ 14 พ.ค.  จัดการเลือกตั้งแล้วยังมีปัญหา กกต.จะเท่ากับย่อมาจาก “กูใกล้ตาย” และหลายคนคาดการณ์ว่าหลังเลือกตั้งอาจจะมีปัญหา เพราะตอนนี้มีสมรภูมิทางความคิด มีอคติในใจในแต่ละมุมมองของคนเป็นพื้นฐาน

“ไม่อยากให้กกต.ถูกกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความขัดแย้งในสังคมไทย ไม่อยากให้ถูกตีตราเช่นนี้ แต่อยากให้เป็นผู้สร้างสันติภาพในการเมืองไทยหรือ PeaceMaker ไม่ใช่ warmaker ไม่อยากให้กังวลว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะยิ่งประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์มากขึ้น ยิ่งมากเท่าไหร่ ด้วยฉันทามติและเสียงประชาชนจะเป็นเสียงที่ล่วงละเมิดไม่ได้ ที่ใครคนใดคนหนึ่งจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ” นายวันวิชิต กล่าว

นายธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่ววว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่พีคที่สุด เท่าที่เคยพบมามีการยิงปูพรมมากกว่า1 รอบ จากที่ส่วนใหญ่ยิงรอบแรก แล้วยิงเฉพาะจุด แต่เป็นที่สังเกตว่าครั้งนี้มีการยิงปูพรม มากกว่า 2 รอบและขนาดกระสุนไม่ใช่จุด 22 อาจเกินกว่าเทียบเท่าจรวดฮาพูนที่ยิงข้ามทวีปและล็อคเป้าได้ ซึ่งเป็น Pattern การเมืองในสนามจริง ทำให้คู่ต่อสู้ไม่กล้าจะบอกว่าใครจะชนะกันแน่

“ส่วนหลังเลือกตั้งประเด็นเรื่องแจกกล้วย อย่าเชื่อว่าส.ว.ไม่หิวกล้วย เชื่อว่ารัฐสภาจะกลายเป็นสมรภูมิ Banana politic  สถานการณ์แย่พอกันทั้งสองฝ่าย ส.ส.และ ส.ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]