นักวิชาการเตือน ส.ว.-กกต.อย่าเป็นชนวนสร้างวุ่นวาย

มธ. ท่าพระจันทร์ 11 พ.ค.-นักวิชาการ จี้ ส.ว.ทำสัญญาประชาคม ยึดเสียงส่วนใหญ่จากการเลือกตั้ง โหวตนายกฯ เตือน กกต.ทำหน้าที่ให้เรียบร้อย ยกชุด “พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ” ให้คิด หวั่นเป็นชนวนเหตุวุ่นวายจนรัฐประหารอีกรอบ


นักวิชาการจาก 5 สถาบันการศึกษา ในนามเครือข่ายนักวิชาการเสียงประชาชน แถลงข่าวเปิดโหวตเสียงประชาชน หัวข้อ “ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ที่สมาชิกวุฒิสภาควรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร”  ซึ่งจะเปิดให้โหวต ตั้งแต่ 12.00 น.ของวันที่ 15 พ.ค.ถึงเวลา 12.00 น. วันที่ 18 พ.ค. และจะแถลงผลโหวตในวันเดียวกัน(18 พ.ค.)

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งกับซองเหมือนเป็นบัตรโหล ซองโหล จึงกังวลใจและขอเรียกร้องให้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม โดยไม่ต้องคำนึงว่าใครเป็นคนเลือกเข้ามา ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ให้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ อยากให้ประชาชนช่วยส่งเสียงไปยังส.ว. แม้ว่าเสียงข้างมากในสภาจะเป็นอย่างไร อยากให้เสียงข้างมากเป็นผู้ตั้งรัฐบาล ให้ส.ว.เคารพตรงนี้ และกลไกอำนาจส.ว. ยังอยู่ถึงปีหน้า


“สภาชุดที่แล้ว เป็นสภาที่มี ส.ส.งูเห่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมีการใช้เงินเพื่อจูงใจในการย้ายข้าง ย้ายฝั่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ต้องการปฏิรูปประเทศไม่ใช่ความสุขที่ประชาชนคนไทยต้องการ ขนาดเสียงปริ่มน้ำยังมีปัญหาขนาดนี้ ถ้าเป็นเสียงข้างน้อย ปัญหาจะมากขนาดไหน” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา เสนอไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ให้ใช้วิธีการในการลงมติตามข้อบังคับของที่ประชุมรัฐสภากำหนดไว้ว่าให้การลงคะแนนออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามมาตรา 56 ( 2 )ที่ให้ออกเสียงลงคะแนนโดยเปิดเผยเรียงลำดับตามอักษรโดยส.ส.และ ส.ว.คละกัน อาจทำให้ส.ว.บางคนเกิดความกังวล ซึ่งใน( 3 )สามารถที่จะเปลี่ยนวิธีการลง คะแนนได้ จึงเสนอให้ส.ส.ลงก่อนและให้ส.ว. ลงทีหลัง พื่อให้ส.ว.ทราบว่าเสียงของประชาชนนั้นไปทางไหน

ส่วนข้อกังวลที่จะเป็นสุญญากาศทางการเมือง หากเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรกไม่ได้ เพราะต้องตั้งรัฐบาล 376 เสียง ซึ่งส.ว.อาจงดออกเสียง เลือกนายกฯไม่สำเร็จ นายปริญญา กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเกิดการต่อรอง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น ที่ร้ายกว่าคือจะมีการใช้วรรค 2 ของมาตรา 172 คือนายกฯ คนนอกบัญชี ถ้าเลือกตามวรรค 1 ไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ผลดี เพราะหลักการง่ายมากแค่ประชาชนเจ้าของอำนาจเลือกไปทางไหนก็ให้ส.ว.โหวตไปตามนั้น ระหว่างเลือกคนที่เลือกท่านมากับฟังเสียงประชาชนขอให้เลือกประชาชน


นายปริญญา กล่าวว่า รู้สึกกังวลใจว่าการเลือกตั้งอาจเป็นโมฆะ เพราะมีพูดกันถึงกกต. ชุดนายวาสนา เพิ่มลาภที่เคยถูกจำคุกมาแล้ว และยกกรณีเชียงใหม่เขต 8 ที่กกต.ให้ใบส้มไม่ถูกต้อง เพราะไม่ใช่การซื้อเสียง และสั่งให้กกต.ชดใช้ ไม่อยากให้เกิดการรัฐประหารอีก อยากให้สังคมไทยก้าวพ้นจากจุดนี้ ม่ควรจะเกิด อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เรียบร้อย เพราะหากมีปัญหาจนโมฆะ อาจถูกฟ้องร้องและมีค่าเสียหายสำหรับการจัดการเลือกตั้ง 6,000 ล้านบาท ส่วนการเมืองหลังการเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชน

นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  กล่าวว่า เสียงประชาชนต้องมาก่อน อยากให้ส.ว.ตอบสนองความต้องการของประชาชนทั่วไป ทิ้งมรดกที่ดีให้แก่ลูกหลาน คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะ มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 75 – 80% พร้อมขอส่งสารไปยังกกต.ที่มาจาก ส.ว. ที่มาจาก คสช. ที่ทำให้เลี่ยงไม่ได้ว่าตนและประชาชนจะสงสัยว่าบางพรรคการเมืองมีอิทธิพลเหนือกกต. และหลายเหตุการณ์ทำให้คนตั้งข้อสงสัยถึงการทำหน้าที่ของกกต.

“โดยเฉพาะประเด็นล่าสุดเรื่องการยิงเลเซอร์สะพานพระราม 8 ขณะที่การพิมพ์บัตรเลือกตั้งระบบเขตไม่มีชื่อผู้สมัคร ไม่มีชื่อพรรคที่ไม่อำนวยความสะดวก ให้ประชาชน และป้ายหน้าหน่วยเลือกตั้งบางจุดไม่มีชื่อผู้สมัคร จนทำให้ประชาชนเคลื่อนไหวในโซเชียลล่าชื่อขับกกต. สะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจในการทำงานของกกต. ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความรุนแรง บานปลายจนกระทบระบอบประชาธิปไตยโดยรวม จนทำให้กกต.กลายเป็นคนบาป เพราะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดชนวนความรุนแรงขัดแย้งของสังคม” นายพิชาย กล่าว

นายพิชาย ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมามีกกต.ชุดแรกชุดเดียวที่สังคมไว้วางใจ นอกจากนั้นมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน จึงอ่อนแอ แต่ระยะเวลาที่เหลือไม่กี่วัน ยังคงมีความหวังว่ากกต.จะเปลี่ยนวิธีคิด สลัดจากบ่วง บุญคุณที่ไร้ความชอบธรรม ยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง ในการรักษาและสร้างสรรค์ประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ทหารที่ฉวยโอกาสทำรัฐประหารอีกครั้ง จนทำให้การเลือกตั้งถูกยกเลิก กกต.อาจถูกยุบไปด้วย ที่สำคัญคือจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองไทยขึ้นมา หวังว่าตั้งแต่ 14 พ.ค.จะเห็นกกต.โฉมใหม่ และขอให้ประชาชนจับตาการทำงาน ให้กกต.ทำงานเพื่อรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว จากมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ขอส่งเสียงไปยังส.ว.ให้เคารพเสียงของประชาชน พร้อมขอให้เคารพเสียงของประชาชน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนตื่นตัวมากที่สุด ด้วยความคาดหวังอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้ ขณะนี้มีสัญญาณนรกจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ไม่สมควรทำแต่ทำได้ ทั้งยังอยากให้ส.ว.มีมติในช่วงที่เปิดสมัยวิสามัญว่าจะมีท่าทีอย่างไรกับผลการเลือกตั้ง

“ถ้าประชาชนคิดเห็นเป็นอย่างไร ส.ว.จะเคารพเสียงประชาชนออกมาเป็นมติหรือสัญญาประชาคมกับประชาชนทั้งประเทศ เพื่อคลายความกังวลใจ และสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้ดีขึ้น อย่าให้องค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่สร้างความคลุมเครือ ส่วนข้อกังวลว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ หวังว่าเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นจำนวนเยอะ ซึ่งเมื่อมารวมกันก็เป็นมวลใหญ่ของปัญหาและนำไปสู่ความไม่เป็นธรรมกับผลการเลือกตั้ง” นายโอฬาร กล่าว

นายวันวิชิต บุญโปร่ง มหาวิทยาลัยรังสิต ยอมรับว่า มีอคติกับส.ว.เพราะรู้อยู่แล้วถึงที่มาที่ไป ขณะที่การจัดการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้ชี้แจงกระบวนการในการนับคะแนนให้ชัดเจน และกังวลที่สุดว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการนับคะแนน ถ้าวันที่ 14 พ.ค.  จัดการเลือกตั้งแล้วยังมีปัญหา กกต.จะเท่ากับย่อมาจาก “กูใกล้ตาย” และหลายคนคาดการณ์ว่าหลังเลือกตั้งอาจจะมีปัญหา เพราะตอนนี้มีสมรภูมิทางความคิด มีอคติในใจในแต่ละมุมมองของคนเป็นพื้นฐาน

“ไม่อยากให้กกต.ถูกกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความขัดแย้งในสังคมไทย ไม่อยากให้ถูกตีตราเช่นนี้ แต่อยากให้เป็นผู้สร้างสันติภาพในการเมืองไทยหรือ PeaceMaker ไม่ใช่ warmaker ไม่อยากให้กังวลว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะยิ่งประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์มากขึ้น ยิ่งมากเท่าไหร่ ด้วยฉันทามติและเสียงประชาชนจะเป็นเสียงที่ล่วงละเมิดไม่ได้ ที่ใครคนใดคนหนึ่งจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ” นายวันวิชิต กล่าว

นายธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่ววว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่พีคที่สุด เท่าที่เคยพบมามีการยิงปูพรมมากกว่า1 รอบ จากที่ส่วนใหญ่ยิงรอบแรก แล้วยิงเฉพาะจุด แต่เป็นที่สังเกตว่าครั้งนี้มีการยิงปูพรม มากกว่า 2 รอบและขนาดกระสุนไม่ใช่จุด 22 อาจเกินกว่าเทียบเท่าจรวดฮาพูนที่ยิงข้ามทวีปและล็อคเป้าได้ ซึ่งเป็น Pattern การเมืองในสนามจริง ทำให้คู่ต่อสู้ไม่กล้าจะบอกว่าใครจะชนะกันแน่

“ส่วนหลังเลือกตั้งประเด็นเรื่องแจกกล้วย อย่าเชื่อว่าส.ว.ไม่หิวกล้วย เชื่อว่ารัฐสภาจะกลายเป็นสมรภูมิ Banana politic  สถานการณ์แย่พอกันทั้งสองฝ่าย ส.ส.และ ส.ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย