“ชัยวุฒิ” วอนหยุดหาเสียงแบบโจมตี

จ.สิงห์บุรี 2 พ.ค.- “ชัยวุฒิ” ปราศรัย ชี้นักการเมืองโกงมีปัญหา ประเทศไม่ได้มีปัญหา ตั้งคำถามถ้าเศรษฐกิจไม่ดีทำไมอสังหาริมทรัพย์ถึงมีกำไร วอนหยุดดราม่า โจมตีหาเสียง ย้ำจุดยืน พปชร.รักชาติ รักเเผ่นดิน      


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ลงพื้นที่ปราศรัย อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อหาเสียงช่วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์   ผู้สมัคร ส.ส. หมายเลข7 พรรคพลังประชารัฐ 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า  ทุกวันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการ พูดจาดราม่า เข้าใจคําว่าดราม่าไหม พูดจริงบ้าง ใส่สีปรุงแต่ง บิดเบือนเพื่อหาเสียง อะไรก็ไม่ดีประเทศไทยเสียหายเศรษฐกิจตกต่ำ เพราะปฏิวัติรัฐประหาร มันไม่ใช่ พอเขาปฏิวัติผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว 8 ปีแล้ว วันนี้มันไม่เกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารแล้ว  มันเป็นเรื่องของการเลือกตั้งตามบอกประชาธิปไตย แต่ที่สําคัญประเทศไม่ได้เสียหาย


“บางคนทำธุรกิจ เขาเรียกว่าอสังหาริมทรัพย์ พูดชื่อเลย บริษัท แสนศิริ กําไรปีที่แล้วประมาณสองพันล้าน ปีนี้กําไรสี่พันล้าน กําไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว แปลว่าอะไร เศรษฐกิจดี ขายบ้านได้ เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีเขาไม่ซื้อบ้านกัน บ้านหลังก็หลายสิบล้านด้วยในกรุงเทพ ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ เติบโตทุกปี ช่วงสิบปีมาแล้วไม่มีตกเลย มีโควิดที่ยังส่งออกได้ อุตสาหกรรมเติบโต ให้โบนัสพนักงาน 8-9 เดือน ต่อเนื่องมาเป็นสิบปี ปฏิวัติแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ ธุรกิจก็ไม่ได้มีปัญหา การออกมาพูด ปฏิวัติแล้วเศรษฐกิจตกต่ำมากประชาชนเดือดร้อน  มันไม่ได้มีปัญหาอย่างนั้น มันเป็นการสร้างวาทกรรม สร้างภาพเพื่อให้คนเกลียดชังกันและคิดว่าจะสร้างคะแนนนิยมให้กับนักการเมืองเท่านั้น ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐไม่ทํา” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การข้ามความขัดแย้ง คือไม่ทะเลาะกัน ไม่โจมตีกัน พูดแต่สิ่งที่จะมาทําให้ประชาชน  วันนี้จึงควรพูดแต่เรื่องที่อยากจะมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะเรื่องใหญ่พี่น้องเข้าใจอยู่แล้ว คือก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่ออะไร เพื่อให้มีรัฐบาลที่ดีมีเสถียรภาพ บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนจะได้ทํามาหากินได้ อันนี้อันดับแรกที่เราต้องทํา แต่หลังจากบ้านเมืองเดินหน้าได้แล้ว วันนี้ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือ ปัญหาเศรษฐกิจ น้ํามันแพง แก๊สหุงต้มอยากให้ลดราคาไหม  ใช้ทุกบ้านอยู่แล้ว พอลดค่าแก๊ส เราก็เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น เราจะได้มีเงินไปซื้อของไปดูแลลูกหลานเรา แต่ว่าบางพรรคบอก เรามาเอาแบบนี้ เราจะเติมเงินดิจิทัลให้คนละหนึ่งหมื่นบาท ใช้ไม่เป็น คนใช้ก็ไม่เป็น ร้านค้าตอนรับมา เขาบอกว่าเงินดิจิทัลจะได้ตรวจสอบได้ จะได้เก็บภาษีได้ ร้านค้านี้ไม่เข้าโครงการ  ผมก็งงว่าจะให้เงิน 10,000 บาท ทําไมต้องทําให้ยาก ก็ใส่แอปเป๋าตังค์ก็ได้ โอนเข้าบัญชีก็ได้ มีบัญชีทุกคน

“วันนี้ทุกคนมี โอนเงินเป็นสดใช่ไหมครับ โอนเงินมาเลยดีกว่าไหม  แต่ทํายากทําไมก็ไม่รู้  มันทําไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้คนไทยก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ การสร้างราคาพลังงานที่ในอดีตทํามา มาเจอค่าแก๊สมันขึ้น ค่าไฟก็ขึ้นตาม  เราก็ต้องไปแก้ปัญหาที่ค่าแก๊สและปรับโครงสร้าง เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าราคาถูกลง เราตั้งเป้าไว้ว่าครอบครัวหนึ่งต้องเสียค่าไฟหน่วยละ สองบาทห้าสิบจากเดิมเกือบห้าบาท เพราะงั้นเราต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์37” นายชัยวุฒิ กล่าว


นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เราต้องช่วยกันพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 เบอร์นี้ไม่ใช่เลือกนายกรัฐมนตรี หรือเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ  บางคนบอกเลือก “ลุงตู่  ผมก็รักลุงตู่”  แต่ “ลุงตู่” ไม่ได้อยู่พลังประชารัฐแล้ว เราต้องเลือกพลังประชารัฐ พรรคเราชนะ รักชาติรักแผ่นดิน อยากให้บ้านเมืองมั่นคงเข้มแข็ง ให้คนไทยปลอดภัยอยู่อย่างสงบสุข นี่คืออุดมการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ เราคิดว่าปัญหาของประเทศ นักการเมืองชอบพูด บางคนบอกว่า อยากเปลี่ยนประเทศ เพราะประเทศมันมีปัญหา วุ่นวายมาก ต้องแก้ที่ต้นตอ ต้นตอนั้นคือต้นไม้ใหญ่ ที่มีรากแก้ว ปกคลุมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น มีร่มเงาของต้นไม้ที่ทําให้คนไทยรักกันสามัคคีกัน เป็นราชอาณาจักรไทยอันเป็นหนึ่งเดียว อยู่ได้ทุกวันนี้ แล้วเราจะเปลี่ยนประเทศแบบเขาทําไม นี่คือเรื่องอุดมการณ์

“วันนี้แทนที่จะพูดเรื่องเปลี่ยนประเทศ เรามาเปลี่ยนนักการเมืองเลวๆ ออกจากระบบดีกว่า พรรคการเมืองไหนที่มันโกงมันทําให้บ้านเมืองฉิบหายแล้วอย่าไปเลือก ในอดีตทําไมไม่พูด พรรคบางพรรคพูดถึงแต่ปัจจุบัน ด่าแต่ทหาร ทําอะไรก็ไม่ดี และนักการเมืองชั่วๆ ไม่พูดบ้าง บางครั้งนายไม่อยากพูดเรื่องจํานําข้าว เขาบอก เรื่องจำนําข้าว ผมอยู่กับพวกเราที่สิงห์บุรีเป็นชาวนาเยอะ โครงการจํานําข้าวทํามาหลาย10ปี ไม่ใช่เพิ่งมาเคยทำในสมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่ทำไปแล้วมีปัญหา มีการโกง มีการทุจริตคอรัปชั่น ผมไม่ได้ใส่ร้าย เพราะมันพิสูจน์แล้วว่ามันโกงจริง แล้วติดคุกกันหมดแล้ว แล้วเขาต้องยกเลิกโครงการไปทําไม่ได้ เพราะมันเสียหายประเทศเป็นหนี้เป็นแสนล้าน มันไม่ได้เลิกเพราะลุงตู่ลุงป้อม บางคนรู้ว่าจำนําข้าวยกเลิกเพราะลุงตู่ลุงป้อมมันไม่ใช่มันยกเลิกเพราะมันโกงกันมันทําบ้านเมืองเสียหายไปแล้วมันเลยทําไม่ได้” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ประเทศชาติของเราเจริญก้าวหน้าแล้ว จะมาทะเลาะกันทําไม นี่คือเป้าหมายที่ลุงป้อมพูดมาตลอด ซึ่งบางคนไม่เข้าใจ ก้าวข้ามความขัดแย้ง คืออะไร ก็คือสิ่งนี้เลิกด่ากัน เลิกทะเลาะกัน หลังเลือกตั้ง เรามาคุยกัน ทุกพรรคทุกกลุ่มทุกฝ่าย คุณมีปัญหาอะไรมานั่งคุยกัน เจรจากัน หาทางออกกัน พล.อ.ประวิตร เป็นคนใจดี เป็น soft power ประนีประนอม คุยทุกคน เปิดบ้าน ถึง 5 โมงเย็น รับแขกทุกคน ใครเดือดร้อนจะจังหวัดไหน ฝ่ายไหน กลุ่มไหน ท่านไม่เคยเลือกปฏิบัติ    “เราจะได้ทํางานก้าวข้ามความยากจน ให้ประชาชนอยู่ดี ๆ ให้ได้ นี่คือคอนเซ็ปต์ของการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะถ้าเราเลือกตั้งไปแล้ว ได้พรรคการเมืองที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ ทําอะไรสุดโต่งเลย เอาแค่เรื่องง่าย ๆ ผมไม่อยากพูดจริง ๆ แก้มาตราร้อยสิบสอง มีหลายเรื่องที่เค้าจะแก้ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่เราเกณฑ์ทหาร เพราะทหารต้องปกป้องดูแลประเทศ สร้างค่านิยม ความเสียสละ ให้กับ ถ้าไม่มีทหารประเทศมีคนรุกรานคุณจะไปรบมั้ย” นายชัยวุฒิ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]