เศรษฐกิจ

ปักกิ่ง 3 มี.ค.- นักวิเคราะห์คาดว่า สภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือเอ็นพีซี (NPC) จะรับรองให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจีน แม้ว่าเขาถูกวิจารณ์เรื่องมาตรการรับมือโควิด-19 และเศรษฐกิจขยายตัวต่ำ เอ็นพีซีจะเปิดการประชุมในวันอาทิตย์นี้ คาดว่าจะดำเนินไปเป็นเวลา 10 วัน โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้แทนการประชุม 3,000 คนจะลงนามรับรองให้ประธานาธิบดีสี วัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี เป็นสมัยที่ 3 หลังจากดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2556 นักวิเคราะห์มองว่า เรื่องนี้มีความแน่นอน เพราะเขาเพิ่งได้รับการต่ออายุเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลาง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพ วาระ 5 ปีเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ส่วนนายหลี่ เฉียง วัย 63 ปี คนสนิทของนายสีจะได้รับการรับรองเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนนายหลี่ เค่อเฉียงที่ดำรงตำแหน่งครบ 2 สมัยรวม 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 ดร. อัลเฟรด มู่ล่วน […]

เคียฟ 28 ก.พ.- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐไปเยือนกรุงเคียฟของยูเครนโดยไม่ประกาศล่วงหน้าเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอกย้ำเรื่องสหรัฐให้การสนับสนุนแก่ยูเครนที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย และประชาสัมพันธ์ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่สหรัฐให้แก่ยูเครน นางเยลเลนเดินทางไปยูเครนด้วยวิธีเดียวกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐนั่งเครื่องบินทหารไปลงจอดที่โปแลนด์แล้วนั่งรถไฟเที่ยวกลางดึกเข้าไปในยูเครนเมื่อไม่กี่วันก่อนถึงวันครบ 1 ปีที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เธอกล่าวว่า สหรัฐจะเคียงข้างยูเครนตราบเท่าที่ยูเครนต้องการ เธอยกย่องประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนระหว่างหารือกันเป็นการส่วนตัวว่า มีความเป็นผู้นำและมีความเด็ดเดี่ยวในการเผชิญหน้ากับการทำสงครามของรัสเซียที่ผิดกฎหมายและเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการยั่วยุ เธอสนับสนุนการที่เขาสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การบริหารปกครองและแก้ปัญหาทุจริต เพราะจำเป็นต้องทำให้สหรัฐมั่นใจว่าความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจของสหรัฐถูกนำไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ด้านผู้นำยูเครนเผยผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมในภายหลังว่า สหรัฐให้การสนับสนุนยูเครนอย่างจริงจังตั้งแต่วันแรก ๆ ของสงคราม โดยไม่เพียงให้อาวุธ แต่ยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินด้วย ทั้งนี้สหรัฐให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและงบประมาณแก่ยูเครนจนถึงขณะนี้แล้วมากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 456,508 ล้านบาท) และประกาศให้ความช่วยเหลือล่าสุดอีก 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 347,648 ล้านบาท) ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีเดนีส ชมีฮัล ของยูเครนแถลงว่า เขาและรัฐมนตรีคลังสหรัฐได้หารือกันเรื่องเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่น ริบทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดเพื่อนำมาใช้ฟื้นฟูยูเครน อย่างไรก็ดี เยลเลนเผยกับสื่อว่า การยึดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.53 ล้านล้านบาท) ยังคงมีอุปสรรคสำคัญทางกฎหมาย และเตือนให้ใช้ความรอบคอบในการจำกัดภาคพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียครั้งใหม่.-สำนักข่าวไทย

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าววันนี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียเผชิญอยู่ในขณะนี้ มีผลกระทับกับรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งระบุว่า การรุกรานยูเครนเป็นความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ของประธานธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

มอสโก 23 ก.พ.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า เศรษฐกิจรัสเซียสามารถต้านทานมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกใช้กับรัสเซียตั้งแต่รุกรานยูเครนเมื่อ 1 ปีก่อน แต่จะใช้เวลานานในการกลับไปเฟื่องฟูดังเดิม เนื่องจากรัฐบาลทุ่มเทงบประมาณไปกับการทหาร สำนักงานสถิติแห่งชาติของรัสเซียประเมินว่า เศรษฐกิจรัสเซียน่าจะหดตัวร้อยละ 2.1 ในปี 2565 น้อยกว่าที่มีการประเมินภายในประเทศหลังจากรัสเซียส่งทหารไปยูเครนได้ไม่นานว่า เศรษฐกิจรัสเซียน่าจะหดตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 แต่มากกว่าช่วงหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายและช่วงวิกฤตการเงินปี 2541 ราคาพลังงานส่งออกที่ปรับสูงขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งโดดเดี่ยวเศรษฐกิจรัสเซีย ประกอบกับการถูกปิดกั้นการนำเข้าทำให้รัสเซียมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มาตรการควบคุมเงินทุนส่งผลให้รูเบิลของรัสเซียแข็งค่าที่สุดในรอบ 7 ปี อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า รัสเซียเสียโอกาสค่อนข้างมากและมีผลกระทบยาวนาน จากการทำสงครามในยูเครนที่รัสเซียเรียกว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ เพราะก่อนทำสงคราม รัฐบาลรัสเซียประเมินไว้ว่า เศรษฐกิจปี 2565 น่าจะขยายตัวร้อยละ 3 รัสเซียอาจต้องรอจนถึงปี 2568 เศรษฐกิจจึงจะกลับไปมีขนาดเท่าปี 2564 และการที่เศรษฐกิจจะขยายตัวเท่ากับที่ควรจะเป็นหากไม่ทำสงครามอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 10 ปี นอกจากนี้การที่รัสเซียเร่งเพิ่มงบประมาณทางทหารด้วยการโยกงบประมาณมาจากการศึกษาและการรักษาพยาบาลจะกระทบต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย

สื่อทางการอิหร่านรายงานวันนี้ว่า ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน จะเยือนจีนเป็นเวลา 3 วัน เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ลอนดอน 10 ก.พ.- ข้อมูลของทางการอังกฤษระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษรอดพ้นจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเฉียดฉิว หลังจากเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ไม่หดตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน คำนิยามทางเทคนิคของภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึงเศรษฐกิจที่หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษแถลงวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ไตรมาส 4 ของปี 2565 ขยายตัวที่ร้อยละ 0 สอดคล้องกับที่ตลาดคาดหมาย หลังจากหดตัวร้อยละ 0.3 ในไตรมาส 3 ของปีเดียวกัน ขณะที่เศรษฐกิจปี 2565 ทั้งปีขยายตัวร้อยละ 4.1 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ยังคงขยายตัวน้อยกว่าปี 2564 ทั้งปีที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษยินดีต่อรายงานข่าวเรื่องเศรษฐกิจอังกฤษรอดพ้นจากภาวะถดถอย แต่เตือนว่าเศรษฐกิจยังไม่พ้นจากวิกฤต โดยเฉพาะเรื่องอัตราเงินเฟ้อสูงที่ทำให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพและการเคลื่อนไหวของคนทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ อย่างไรก็ดี เขามองว่าเศรษฐกิจอังกฤษมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่หลายฝ่ายกังวล.-สำนักข่าวไทย

อิสลามาบัด 10 ก.พ.- คณะตัวแทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) เดินทางออกจากปากีสถานแล้วในวันนี้ โดยที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลปากีสถานที่จะช่วยปกป้องเศรษฐกิจปากีสถานไม่ให้พังทลาย คณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางถึงปากีสถานเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อเดินหน้าการเจรจากับรัฐบาลที่หยุดชะงักมาหลายเดือน ไอเอ็มเอฟแถลงว่า มีความคืบหน้าพอสมควรเรื่องมาตรการเชิงนโยบายที่จะแก้ไขความไม่สมดุลภายในและภายนอกปากีสถาน ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือทางออนไลน์ในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องรายละเอียดการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ ด้านนายอิสฮัก ดาร์ รัฐมนตรีคลังของปากีสถานแถลงหลังจากคณะตัวแทนของไอเอ็มเอฟเดินทางกลับในเช้าวันนี้ว่า การเจรจาได้ข้อสรุปด้วยดี และไอเอ็มเอฟได้นำเสนอร่างบันทึกนโยบายที่เห็นพ้องกันอย่างกว้าง ๆ ให้แก่รัฐบาลแล้ว เศรษฐกิจปากีสถานตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เนื่องจากเผชิญวิกฤตเรื่องดุลการชำระเงิน อันเป็นผลจากการที่มีหนี้ต่างประเทศในระดับสูง ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองเต็มไปด้วยวุ่นวาย และสถานการณ์ความมั่นคงเลวร้ายลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยาน เงินรูปีปากีสถานอ่อนค่า และไม่มีเงินนำเข้าสินค้าแล้ว ธนาคารกลางปากีสถานแจ้งว่า เหลือทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพียง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 97,585 ล้านบาท) นับจนถึงวันศุกร์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถานกล่าวถึงเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟในการปล่อยเงินกู้จำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,380 ล้านบาท) ว่า ยากเกินกว่าที่จะคาดคิดได้ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ไอเอ็มเอฟต้องการให้ปากีสถานปรับขึ้นฐานภาษีที่ต่ำมาก ยกเลิกการยกเว้นภาษีให้ภาคการส่งออก ขึ้นราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซที่ต่ำกว่าความเป็นจริง คงปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลางให้มีความยั่งยืนด้วยการขอความสนับสนุนจากพันธมิตรอย่างซาอุดีอาระเบีย จีน […]