นายกฯ ชี้ต้องรักษาเศรษฐกิจภายในให้เข้มแข็ง รับความผันผวน

ทำเนียบรัฐบาล 18 ก.พ.- นายกฯ ย้ำรัฐบาลติดตามและขับเคลื่อนการลงทุน ดูแลภาคการท่องเที่ยว การใช้จ่ายในประเทศเต็มที่แม้เป็นช่วงปลายรัฐบาล ชี้ต้องรักษาเศรษฐกิจภายในให้เข้มแข็งตั้งรับความผันผวนจากต่างประเทศ หลังข้อมูลไตรมาส 4/65 สะท้อนทั่วโลกไม่แน่นอนสูง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ถึงข้อมูลเศรษฐกิจปี 65 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 2.6 โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี65 ข้อมูลได้ชี้ให้เห็นผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชัดเจน


โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าแม้จะเป็นช่วงปลายของรัฐบาลและกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งแต่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่เพื่อดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง สามารถรับกับผลความผันผวนและความไม่แน่นอนสูงของเศรษฐกิจโลก ทั้งการติดตามเร่งรัดขับเคลื่อนการการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ผ่านการอนุมัติ มีการผูกพันงบประมาณตามขั้นตอนไปแล้วให้ดำเนินไปตามแผนงาน เบิกจ่ายงบประมาณทั้งรายจ่ายประจำและลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยในปีงบประมาณ 66 มีงบประมาณที่เป็นงบลงทุนถึง 6.64 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 จากปี 65 ที่พร้อมจะถูกผลักดันเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

รวมถึงสนับสนุนให้เอกชนที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนเริ่มการลงทุนให้เร็วที่สุด โดยในปี 65 ที่ผ่านไปสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้การออกบัตรส่งเสริมซึ่งหมายถึงโครงการที่พร้อมจะลงทุนสูงถึง 1,490 โครงการ มูลค่า 489,088 ล้านบาท ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการบริโภคและใช้จ่ายในประเทศให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการการรักษาแรงส่งของภาคการท่องเที่ยวที่ขณะนี้กำลังฟื้นตัวได้ดี โดยเร่งแก้ไขในจุดที่ยังเป็นปัญหา ให้เกิดความพร้อมรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยดำเนินการไปพร้อมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

“นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกหน่วยงานดูแลเรื่องการเบิกจ่ายการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะเม็ดเงินจากภาครัฐจะมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยข้อมูลของ สศช. ชี้ให้เห็นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ปี 66 ยังมีปัจจัยบวกทั้งการท่องเที่ยว การลงทุนรัฐ เอกชน การบริโภคในประเทศ หากขับเคลื่อนทุกส่วนเป็นไปตามเป้าหมายเศรษฐกิจไทยก็ยังสามารถเติบโตได้แม้อยู่ในช่วงรอยต่อของการเลือกตั้ง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีข้อกังวลว่าระหว่างมีการเลือกตั้งและรอการจัดตั้งรัฐบาลชุดถัดไปอาจจะส่งผลให้กระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 และการเริ่มมีผลบังคับของ พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 ล่าช้ากว่ากรอบเวลาปกตินั้น กรณีจะไม่กระทบต่องบประมาณรายจ่ายประจำและงบประมาณที่เป็นส่วนดูแลสวัสดิการกลุ่มเปราะบางต่างๆ เนื่องจาก พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ได้กำหนดไว้ว่าหากเกิดกรณีล่าช้าให้สามารถใช้งบประมาณของปีก่อนหน้าไปพลางก่อนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกำหนด ดังนั้นแม้จะมีความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบฯปี 67 ส่วนของงบรายจ่ายประจำก็ไม่มีปัญหาสะดุดแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ