ผู้นำเกาหลีใต้สั่งใช้มาตรการใหม่รับมือโอไมครอนทันที

โซล 24 ม.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลเปลี่ยนไปใช้มาตรการใหม่ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนโดยทันที พร้อมเตือนว่าเกาหลีใต้อาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอีกไม่นาน ประธานาธิบดีมุนกล่าวว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ได้รวดเร็วมาก และได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้วในขณะนี้ คาดว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่นาน ดังนั้นขอให้หน่วยงานรัฐบาลเปลี่ยนไปใช้ระบบรับมือโอไมครอนที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าโดยทันที ภายใต้ระบบนี้ศูนย์ตรวจหาเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะได้รับแจกชุดตรวจแอนติเจนให้ผลรวดเร็วหรือเอทีเค (ATK) เพื่อให้ทราบผลตรวจได้อย่างรวดเร็ว ส่วนชุดตรวจแบบพีซีอาร์ (PCR) ที่มีความแม่นยำสูงกว่าจะสงวนไว้สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ผู้นำเกาหลีใต้ยังได้ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รับการฉีดวัคซีน และงดเดินทางช่วงวันหยุดตามปฏิทินจันทรคติที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะหยุดไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์  รัฐบาลเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นสายพันธุ์โอไมครอนถึงร้อยละ 50.3 แสดงว่าเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้แล้ว ส่วนในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 7,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เกาหลีใต้มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 741,400 คน เสียชีวิตมากกว่า 6,500 คน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกคาดยุโรปใกล้สิ้นสุดการระบาดของโอไมครอน

เจนีวา 24 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 เข้าสู่ระยะใหม่ และอาจทำให้การระบาดของโรคดังกล่าวในทวีปยุโรปสิ้นสุดลง แต่เตือนว่าอาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นอีกในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ นพ. ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป เผยเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทวีปยุโรปมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่จุดสิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีชาวยุโรปร้อยละ 60 ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนภายในเดือนมีนาคม และเมื่อการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวในทวีปยุโรปลดลง คนทั่วโลกก็จะมีภูมิคุ้มกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจากการฉีดวัคซีนโควิดและการมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อ รวมถึงการสิ้นสุดฤดูหนาวในทวีปยุโรป เขาคาดการณ์ว่า ทวีปยุโรปจะมีการระบาดลดลงก่อนที่จะกลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว แต่การระบาดดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นอีกก็ได้ อย่างไรก็ดี นพ. คลูเกอ เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินให้โรคโควิด-19 เป็นโรคเฉพาะถิ่น เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจให้ทั่วโลกมากแล้วหลายครั้ง ทุกคนจึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัวเองต่อไป ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า อาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นอีกในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอยู่. -สำนักข่าวไทย

3 จังหวัดของญี่ปุ่นจ่อขอใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินคุมโควิด

โอซากา 20 ม.ค. – จังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโกะ ของญี่ปุ่น เตรียมพิจารณาว่าจะขอรัฐบาลให้อนุมัติใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินหรือไม่ในวันนี้ หลังนายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ได้ประกาศใช้มาตรการดังกล่าวในกรุงโตเกียวและอีกหลายสิบพื้นที่เมื่อวันพุธ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นายฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอซากาของญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า จังหวัดโอซากาจะจัดประชุมในวันนี้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการขอใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินที่ทำให้ผู้ว่าราชการมีสิทธิสั่งให้ร้านอาหารและบาร์ลดระยะเวลาเปิดบริการให้สั้นลง รวมถึงการหยุดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เขากำลังประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเกียวโตและเฮียวโกะเกี่ยวกับการขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติการใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินร่วมกัน และคิดว่าทั้งสามจังหวัดอาจจะยื่นคำร้องต่อรัฐบาลในวันนี้ เขายังคาดการณ์ว่า โอซากาจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงถึง 6,000 คนในวันนี้ ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดเมื่อวันพุธ ในขณะเดียวกัน บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานวันนี้ว่า ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กว่า 41,000 คน ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.9 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 18,400 คน ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้ตัดสินใจใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีกหลายสิบพื้นที่เมื่อวันพุธ หากจังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโกะ ได้รับอนุมัติให้ใช้มาตรการดังกล่าว ก็จะทำให้มีชาวญี่ปุ่นเกือบ 80 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 63 จากประชากรทั้งหมดต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน.-สำนักข่าวไทย

ยูเออีไม่ให้เข้าเมืองหลวงถ้าไม่ฉีดเข็มวัคซีนโควิดเข็ม 3

อาบูดาบี 18 ม.ค.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) กำหนดให้ผู้เดินทางเข้ากรุงอาบูดาบี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่ 3 แล้วเท่านั้น หลังจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ แอปพลิเคชันสุขภาพของรัฐบาลยูเออีกำหนดว่า ผู้เดินทางเข้ากรุงอาบูดาบีจะต้องแสดง “บัตรผ่าน” ที่ยืนยันสถานะการฉีดวัคซีนครบโดส ซึ่งหมายถึงการฉีดเข็มที่ 3 แล้วเท่านั้น โดยฉีดห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 6 เดือน และต้องมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางเข้ามา ส่วนผู้อยู่ในกรุงอาบูดาบีจะต้องแสดง “บัตรผ่าน” ก่อนเข้าสถานที่ราชการและสถานที่สาธารณะ สาธารณสุขของยูเออีอ้างว่า ทั้งประเทศมีคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่าร้อยละ 90 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงในเดือนธันวาคม แต่ขณะนี้กลับมาเพิ่มขึ้นอีกเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ยอดติดเชื้อสะสมจนถึงขณะนี้มากกว่า 808,200 คน เสียชีวิตมากกว่า 2,100 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโควิดทำสถิติสูงสุด

ซิดนีย์ 18 ม.ค. – ออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น 74 คน ทำสถิติสูงสุดของประเทศนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรก ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนยังคงทำให้อัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แม้ออสเตรเลียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลงเล็กน้อยก็ตาม ทางการออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 74 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นสามรัฐที่มีประชากรมากสุดของออสเตรเลีย ทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าที่มีผู้เสียชีวิต 57 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แม้ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 67,000 คน ใน 4 รัฐใหญ่ ลดลงจากสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุด 150,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดีก่อนก็ตาม ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 1.6 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อมากถึง 1.3 ล้านคนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดกว่า 2,700 คน ในขณะเดียวกัน นายโดมินิก เพอร์รอตเทต มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก แถลงว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 36 คน ทำสถิติสูงสุดของรัฐ ทั้งยังยืนยันว่า […]

ผลวิจัยอิสราเอลชี้วัคซีนเข็ม 4 สร้างภูมิไม่พอต้านโอไมครอน

ผลวิจัยเบื้องต้นของอิสราเอลชี้ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สี่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้อยู่ในระดับสูงกว่าเข็มที่สาม

ปักกิ่งวอนงดสั่งของจากต่างประเทศหวั่นปนเปื้อนโอไมครอน

ปักกิ่ง 18 ม.ค.- ทางการกรุงปักกิ่งของจีนแนะนำประชาชนงดการสั่งของที่ส่งมาจากต่างประเทศ หลังจากระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนในชุมชนคนแรก ติดเชื้อหลังจากเปิดพัสดุที่ส่งมาจากต่างประเทศ ทางการกรุงปักกิ่งเผยว่า สตรีที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในปักกิ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของเชื้อไวรัสบนพัสดุที่เธอได้รับ บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) อ้างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนว่า พบร่องรอยเชื้อไวรัสบนซองจดหมายที่ส่งมาจากแคนาดา รวมทั้งในตัวจดหมายที่สตรีรายนี้ยังไม่ได้เปิดอ่าน และเมื่อตรวจจดหมายที่ส่งมาพร้อมกันก็พบร่องรอยเชื้อไวรัสอีก 5 ตัวอย่าง ขณะที่ศูนย์ควบคุมโรคปักกิ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สตรีรายนี้ติดเชื้อจากพัสดุชิ้นหนึ่งที่ส่งมาจากต่างประเทศ จึงขอแนะนำประชาชนให้เปิดพัสดุนอกบ้าน สวมถุงมือขณะเปิด และทำลายบรรจุภัณฑ์พัสดุด้วย บีบีซีระบุว่า คำแนะนำล่าสุดนี้ตอกย้ำทฤษฎีที่จีนอ้างว่า เชื้อไวรัสโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สามารถแพร่ข้ามประเทศผ่านอาหารแช่แข็ง ขณะเดียวกันจีนประกาศว่า จะไม่จำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ให้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการป้องกันโรคโควิด-19 ผู้ที่จะเข้าชมได้ต้องได้รับเชิญเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

เผย บ. ยาอินเดียกำลังพัฒนาวัคซีนโควิดต้านโอไมครอน

นิวเดลี 17 ม.ค. – เจนโนวา ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์ บริษัทเวชภัณฑ์ของอินเดีย กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ โดยคาดว่าวัคซีนขนานดังกล่าวอาจพร้อมใช้ภายใน 1-2 เดือนหน้า แหล่งข่าวใกล้ชิดที่ไม่เผยนามกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เจนโนวากำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ และอาจจำเป็นต้องผ่านการทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครขนาดเล็กก่อนยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนเพื่อใช้เป็นเข็มกระตุ้นหรือวัคซีนเข็มเดี่ยว นอกจากนี้เจนโนวายังได้ยื่นข้อมูลผลการทดลองทางคลินิกระยะที่สองของวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอสูตรดั้งเดิมที่พัฒนาขึ้นเองต่อหน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียเมื่อวันศุกร์ หากได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินก็จะเป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็มเอที่อินเดียพัฒนาเองขนานแรก ขณะที่รัฐบาลอินเดียเผยเมื่อปีก่อนว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นชี้ว่าวัคซีนขนานดังกล่าวปลอดภัย มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี และสร้างภูมิต้านทานได้ อย่างไรก็ดี ตัวแทนของเจนโนวา ซึ่งอยู่ในเครือเอ็มเคียว ฟาร์มาซูติคัลส์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอินเดียและมีสำนักงานในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจพร้อมใช้ภายในเดือนมีนาคม. -สำนักข่าวไทย

หลายเมืองของจีนเฝ้าระวังโควิดระดับสูงช่วงตรุษจีน

ปักกิ่ง 17 ม.ค. – หลายเมืองของจีนเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับสูง เนื่องจากผู้คนเริ่มเดินทางช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนตั้งแต่วันนี้ ด้วยการกำหนดให้ผู้เดินทางชาวจีนต้องแจ้งข้อมูลต่อทางการท้องถิ่นก่อนออกเดินทาง ในขณะที่จีนพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นในอีกหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงปักกิ่ง ทางการเมืองลั่วหยาง ทางตอนกลางของจีน และทางการเมืองเจียหยาง ทางตอนใต้ของจีน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ให้ผู้เดินทางจำเป็นต้องแจ้งข้อมูลการเดินทางต่อชุมชน นายจ้าง หรือโรงแรม ล่วงหน้า 3 วันก่อนออกเดินทาง ขณะที่เมืองยู่หลิน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ประกาศเมื่อวันเสาร์ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองกรอกข้อมูลล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันผ่านระบบออนไลน์ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและข้อมูลการเดินทาง ในขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่งและเมืองเสิ่นเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางใต้ของจีน พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชนแห่งละ 1 รายเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้จีนมีมณฑลและเมืองอย่างน้อย 5 แห่งที่พบการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวในชุมชน และมีอีก 14 แห่งที่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศ ส่วนทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศ 163 คนเมื่อวันอาทิตย์ เพิ่มขึ้นจากวันเสาร์ที่มีเพียง 65 คน และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 105,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน. -สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงห้ามเที่ยวบินจากกว่า 150 ประเทศแวะพัก สกัดโควิด

ฮ่องกงจะไม่อนุญาตให้เที่ยวบินจากกว่า 150 ประเทศและดินแดนที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 สูง เดินทางมาแวะพักเครื่องที่ฮ่องกง เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดที่ทำให้ฮ่องกงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น

ชี้วัคซีนของแอสตราเซเนกากระตุ้นภูมิต้านโอไมครอนได้ดี

ลอนดอน 13 ม.ค. – แอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน เผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามชี้ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในระดับสูงขึ้น รวมถึงสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น เบตา เดลตา อัลฟา และแกมมา เมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเข็มกระตุ้น แอสตราเซเนการะบุในแถลงการณ์ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แวกเซฟเรีย (Vaxzevria) ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดระดับสูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสของแอสตราเซเนกาหรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ บริษัทจะยื่นข้อมูลนี้ต่อหน่วยงานกำกับดูแลของหลายประเทศทั่วโลกเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยถือเป็นครั้งแรกที่แอสตราเซเนกาออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นเข็มกระตุ้น เซอร์แอนดรูว์ พอลลาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวัคซีน สังกัดภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการศึกษาข้างต้นชี้ว่า การฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังได้รับวัคซีนสองโดสขนานเดียวกันหรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดได้สูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ผลวิจัยยังระบุว่า วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอที่พัฒนาโดยไฟเซอร์และโมเดอร์นา ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดในระดับสูงเช่นกัน เมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเข็มกระตุ้น.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงสุด

ซิดนีย์ 13 ม.ค. – ออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 147,000 คน ทำสถิติสูงสุดของประเทศ ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้มีอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานจนทำให้บางรัฐต้องผ่อนคลายข้อกำหนดกักตัวในกลุ่มแรงงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อ ออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 147,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย มากถึง 92,000 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและในแผนกผู้ป่วยหนักก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียระบุว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศยังคงรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 53 คน โดยพบผู้เสียชีวิตมากสุดที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ 22 คน อย่างไรก็ดี อัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนยังอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดก่อนหน้านี้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 คน ในขณะเดียวกัน นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก เผยวันนี้ว่า รัฐวิกตอเรียจะผ่อนคลายข้อกำหนดกักตัวในกลุ่มแรงงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด โดยจะอนุญาตให้พนักงานของหน่วยงานบริการฉุกเฉิน สถาบันการศึกษา และการขนส่งมวลชน สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติหากไม่มีอาการป่วย ส่วนรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีนครบริสเบนเป็นเมืองเอก ตัดสินใจเปิดพรมแดนระหว่างรัฐอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี […]

1 2 3 4 5 10
...