ลอนดอน 13 ม.ค. – แอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน เผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามชี้ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในระดับสูงขึ้น รวมถึงสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น เบตา เดลตา อัลฟา และแกมมา เมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเข็มกระตุ้น
แอสตราเซเนการะบุในแถลงการณ์ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ แวกเซฟเรีย (Vaxzevria) ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดระดับสูงขึ้นในกลุ่มผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสของแอสตราเซเนกาหรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ บริษัทจะยื่นข้อมูลนี้ต่อหน่วยงานกำกับดูแลของหลายประเทศทั่วโลกเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยถือเป็นครั้งแรกที่แอสตราเซเนกาออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นเข็มกระตุ้น
เซอร์แอนดรูว์ พอลลาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวัคซีน สังกัดภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการศึกษาข้างต้นชี้ว่า การฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังได้รับวัคซีนสองโดสขนานเดียวกันหรือวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดได้สูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ผลวิจัยยังระบุว่า วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอที่พัฒนาโดยไฟเซอร์และโมเดอร์นา ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเชื้อโควิดในระดับสูงเช่นกัน เมื่อได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเข็มกระตุ้น.-สำนักข่าวไทย