ซิดนีย์ 13 ม.ค. – ออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 147,000 คน ทำสถิติสูงสุดของประเทศ ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้มีอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานจนทำให้บางรัฐต้องผ่อนคลายข้อกำหนดกักตัวในกลุ่มแรงงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อ
ออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 147,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย มากถึง 92,000 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและในแผนกผู้ป่วยหนักก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียระบุว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศยังคงรับมือกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 53 คน โดยพบผู้เสียชีวิตมากสุดที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ 22 คน อย่างไรก็ดี อัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนยังอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดก่อนหน้านี้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 คน
ในขณะเดียวกัน นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก เผยวันนี้ว่า รัฐวิกตอเรียจะผ่อนคลายข้อกำหนดกักตัวในกลุ่มแรงงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด โดยจะอนุญาตให้พนักงานของหน่วยงานบริการฉุกเฉิน สถาบันการศึกษา และการขนส่งมวลชน สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติหากไม่มีอาการป่วย ส่วนรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีนครบริสเบนเป็นเมืองเอก ตัดสินใจเปิดพรมแดนระหว่างรัฐอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี โดยที่ผู้เดินทางไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารผ่านพรมแดนและใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ.-สำนักข่าวไทย