อนามัยโลกเตือนโอไมครอนอันตรายต่อคนไม่ฉีดวัคซีนโควิด

เจนีวา 13 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า แม้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่สายพันธุ์โอไมครอนก็ยังคงจัดเป็นเชื้อไวรัสระดับอันตราย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นในสวิตเซอร์แลนด์ว่า มีอีกกว่า 90 ประเทศทั่วโลกที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมดในแต่ละประเทศ และมีประชากรกว่าร้อยละ 85 ในทวีปแอฟริกาที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแม้แต่เข็มเดียว ทั่วโลกต้องไม่ยอมให้เชื้อโควิดแพร่ระบาดได้อย่างอิสระหรือยอมแพ้ต่อการควบคุมโรคนี้ โดยเฉพาะในขณะที่ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ดร. ทีโดรส ยังระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลกเป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ทั้งนี้ หากทั่วโลกยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิดได้ ก็มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้เกิดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งอาจรุนแรงกว่าสายพันธุ์โอไมครอน ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานอัปเดตสถานการณ์ด้านระบาดวิทยารายสัปดาห์เมื่อวันอังคารว่า ทั่วโลกพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 15 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ในช่วงรอบสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 9 มกราคม ซึ่งทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดเมื่อเทียบกับหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้.-สำนักข่าวไทย

รัฐใหญ่สุดของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนถึง 90%

ซิดนีย์ 12 ม.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั้งหมด ในขณะที่ออสเตรเลียมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นช้ากว่าเดิม เคอร์รี ชานต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก เผยวันนี้ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้แผนกผู้ป่วยหนักทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์มีอัตราครองเตียงสูงราวร้อยละ 67 ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์โควิดของทางการออสเตรเลียระบุวันนี้ว่า ออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 90,847 คน แต่ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่ทางการรายงาน เนื่องจากระบบตรวจหาเชื้อโควิดของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัว ยอดผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นถึง 33 เท่าเมื่อเทียบกับวันที่ 14 ตุลาคมปีก่อนที่มีเพียง 2,752 คนและเป็นช่วงที่ออสเตรเลียเผชิญกับการระบาดสูงสุดของสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คน.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นซ้ำไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี

คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกเตือนว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มกระตุ้นที่เป็นวัคซีนต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมซ้ำไปมาไม่ใช่กลยุทธ์ที่ได้ผลในการรับมือเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่

เตือนชาวยุโรปครึ่งหนึ่งจะติดเชื้อโอไมครอนเร็ว ๆ นี้

เจนีวา 12 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ประชากรครึ่งหนึ่งของทวีปยุโรปจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนภายใน 6-8 สัปดาห์หน้า ในขณะที่การระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวเหมือนคลื่นยักษ์ที่ซัดจากภูมิภาคตะวันตกไปสู่ตะวันออกจนแพร่ระบาดไปทั่วทวีปยุโรปแทนที่สายพันธุ์เดลตา นพ. ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป แถลงเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ตอนนี้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่ซัดจากภูมิภาคตะวันตกไปสู่ตะวันออกจนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปแทนสายพันธุ์เดลตาที่ประเทศในยุโรปสามารถควบคุมการระบาดได้จนถึงช่วงปลายปีก่อน เขายังอ้างการคาดการณ์ของสถาบันชี้วัดและประเมินผลสุขภาพ (IHME) ของมหาวิทยาลัยวอชิงตันที่ตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเทิลของสหรัฐว่า ประชากรในทวีปยุโรปกว่าร้อยละ 50 จะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนภายใน 6-8 สัปดาห์หน้า ทั้งนี้ คาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7 ล้านคนทั่วทวีปยุโรปในช่วงสัปดาห์แรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า นพ. คลูเกอ ยังระบุว่า ประเทศในยุโรปและเอเชียกลางยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดอย่างหนัก เนื่องจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดจากประเทศในภูมิภาคตะวันตกมาสู่คาบสมุทรบอลข่านที่อยู่ในภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ละประเทศต้องหาทางรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยคำนึงถึงสถานการณ์ระบาดของโรค ทรัพยากรที่มีอยู่ สถานะการฉีดวัคซีนโควิด รวมถึงบริบททางเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ดี ผลวิจัยล่าสุดชี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีแนวโน้มทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อมีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ แต่เชื้อโอไมครอนยังคงแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสติดเชื้อโควิดได้ นอกจากนี้ ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้ระบบสาธารณสุขเผชิญกับภาวะตึงตัว.-สำนักข่าวไทย

จีนล็อกดาวน์เพิ่มอีกเมืองคุมโอไมครอนระบาด

ปักกิ่ง 11 ม.ค. – สื่อของทางการจีนรายงานว่า จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองอันหยางในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน และห้ามประชาชนออกนอกบ้านตั้งแต่วันนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ทางการท้องถิ่นของเมืองอันหยาง ซึ่งมีประชากรราว 5 ล้านคน ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ โดยสั่งห้ามประชาชนออกนอกบ้านหรือขับรถบนท้องถนน นอกจากนี้ ยังสั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นและเร่งตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนเป็นวงกว้างเพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาดรุนแรงและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอย่างเข้มงวด ในขณะเดียวกัน สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางของจีน หรือซีซีทีวี รายงานวันนี้ว่า เมืองอันหยางพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในชุมชน 58 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งหมด 84 คนนับตั้งแต่วันเสาร์ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าผู้ป่วยโควิดติดสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมดหรือไม่ ทั้งนี้ มณฑลเหอหนานมี 3 เมืองเป็นอย่างน้อยที่กำลังเผชิญกับการระบาดของโรคโควิดครั้งใหม่ โดยที่เมืองเจิ้งโจวได้สั่งปิดโรงเรียนและไม่อนุญาตให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้าน ส่วนเมืองหยูโจว ซึ่งมีประชากรราว 1 ล้านคน ได้สั่งห้ามประชาชนออกนอกบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 103,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นคุมเข้มพรมแดนถึงสิ้นเดือน ก.พ. สกัดโอไมครอน

โตเกียว 11 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะยังคงใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มงวดไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่อาจพิจารณายกเว้นให้ผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม นายกรัฐมนตรีคิชิดะระบุว่า มาตรการจำกัดพรมแดนที่เข้มงวดของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศของโลก หรือจี 7 ทำให้ญี่ปุ่นสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนให้อยู่ในระดับต่ำและมีเวลาเตรียมรับมือกับการระบาดในประเทศ ญี่ปุ่นจะยังคงใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่อาจพิจารณายกเว้นมาตรการเหล่านี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ผู้นำญี่ปุ่นยังระบุว่า แม้ทั่วโลกยังคงไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่มีแนวโน้มว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงลดลง และญี่ปุ่นจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้ใช้มาตรการควบคุมพรมแดนเข้มงวดตั้งแต่พบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อปลายปีก่อน โดยไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งรวมถึงนักเรียนและสมาชิกชาวต่างชาติของครอบครัวชาวญี่ปุ่นหรือผู้พำนักถาวร ยกเว้นผู้ที่มีเหตุจำเป็น ขณะที่สื่อญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า มาตรการดังกล่าว ซึ่งทำให้หลายครอบครัวไม่ได้พบหน้ากัน ทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงและเรียกร้องให้เปลี่ยนมาตรการ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการบางส่วนให้แก่ผู้ที่มีเหตุจำเป็นเป็นกรณีพิเศษ ขณะนี้ ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 18,000 คน.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นอนุมัติใช้มาตรการจำกัดโควิดกับ 3 จังหวัด

โตเกียว 7 ม.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติให้ใช้มาตรการจำกัดเพื่อควบคุมยอดติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นมากใน 3 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบด้วยโอกินาวะ ยามากุจิ และฮิโรชิมะ นายไดชิโระ ยามากิวะ รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการรับมือโควิด-19 กล่าวในการประชุมคณะกรรมการของรัฐบาลว่า เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบสาธารณสุขเสี่ยงต้องแบกรับภาระหนักในอีกไม่นาน รัฐบาลจึงออกมาตรการจำกัดครั้งใหม่ ใน 3 จังหวัด เช่น ให้ปิดร้านอาหารเร็วขึ้น ห้ามเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานที่มีคนจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ไปจนถึงสิ้นเดือน อย่างไรก็ดี รายละเอียดของมาตรการจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ญี่ปุ่นใช้มาตรการจำกัดหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยกเลิกมาตรการครั้งหลังสุดไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนในขณะนี้ดูเหมือนจะเริ่มมาจากจังหวัดที่เป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐ จังหวัดโอกินาวะซึ่งมีทหารอเมริกันมากที่สุดจากที่อยู่ในญี่ปุ่นทั้งหมด 55,000 นาย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30 เท่าในสัปดาห์เดียว และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,400 คนในวันนี้ เพิ่มขึ้นจาก 981 คนเมื่อวันก่อน ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคน เสียชีวิตมากกว่า 18,300 คน […]

อินเดียพบผู้ป่วยโควิดสูงสุดในรอบ 7 เดือน

นิวเดลี 7 ม.ค. – อินเดียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 117,100 คน ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีก่อน ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในอินเดียแทนเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา นพ. เอ็ม.ดี. กุปเต อดีตผู้อำนวยการสถาบันระบาดวิทยาแห่งชาติของอินเดียและที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันของรัฐบาลอินเดีย เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า อินเดียจะมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสั้น ๆ และจะทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายวันแซงหน้าสหรัฐ เนื่องจากอินเดียมีประชากรมากกว่า แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการป่วยไม่รุนแรง จึงไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ ทั้งยังระบุว่า อัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงและการฉีดวัคซีนโควิดในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปีก่อนช่วยลดอาการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกรุงนิวเดลีและรัฐมหาราษฏระที่มีนครมุมไบเป็นเมืองเอก ซึ่งพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่อยู่ในระดับสูง กล่าวว่า โรงพยาบาลและศูนย์ตรวจหาเชื้อโควิดยังไม่ประสบปัญหาภาวะตึงตัว เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากสามารถรักษาตัวจนหายป่วยได้เองที่บ้าน อย่างไรก็ดี รัฐมหาราษฏระได้ประกาศปิดการสอนในโรงเรียนและวิทยาลัย สั่งจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในโรงภาพยนตร์และแขกในงานแต่งงาน ขณะที่นครเดลี ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้น 5 เท่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 55 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงคืนวันนี้ถึงเช้าวันจันทร์ ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 35.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 483,000 คน. -สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนทั่วโลกอย่าคิดว่าโอไมครอนไม่รุนแรง

องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ทุกคนไม่ควรคิดว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไม่รุนแรง เพราะสายพันธุ์ดังกล่าวกำลังทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโล

ผลสำรวจชี้ชาวอินโดนีเซียมีภูมิต้านโควิด 85% ของประชากร

จาการ์ตา 6 ม.ค. – ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยอินโดนีเซียชี้ว่า ชาวอินโดนีเซียกว่าร้อยละ 85 มีภูมิต้านทานโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แต่นักระบาดวิทยาเตือนว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะช่วยควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้หรือไม่ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้จัดทำการสำรวจดังกล่าวซึ่งครอบคลุมผู้ตอบแบบสอบถาม 22,000 คนในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมปีก่อนและพบว่า ชาวอินโดนีเซียมากกว่าร้อยละ 85 สร้างภูมิต้านทานโรคโควิดจากทั้งการติดเชื้อโควิดและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ขณะที่นักระบาดวิทยาที่มีส่วนร่วมในการจัดทำผลสำรวจ กล่าวว่า ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในอินโดนีเซียไม่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน ทั้งยังระบุว่า ภูมิต้านทานโควิดของชาวอินโดนีเซียอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ เช่น เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ระบาดติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นนี้ อย่างไรก็ดี ดิคกี บูดิแมน นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิทของออสเตรเลีย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลสำรวจดังกล่าว ระบุว่า อินโดนีเซียควรพึงระวังผลสำรวจดังกล่าว เนื่องจากอินโดนีเซียมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดต่ำกว่าหลายประเทศทั่วโลกและไม่มีความแน่นอนว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นในชาวอินโดนีเซียจะยืนยาวเพียงใด ทางการอินโดนีเซียรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกว่า 250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศและพบการระบาดในประเทศอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 144,000 คน โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสเพียงร้อยละ 42 จากประชากรทั้งหมด 270 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

หลายเมืองใหญ่ของอินเดียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนพุ่งขึ้น

กัลกัตตา 6 ม.ค. – หลายเมืองใหญ่ของอินเดีย เช่น นครเดลี นครมุมไบ และนครกัลกัตตา พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้น จนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเชื้อโควิดอาจแพร่กระจายไปสู่พื้นที่ชนบทในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้ยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงอยู่ในระดับคงที่ ทางการอินเดียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 90,928 คน ทำสถิติเพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงขึ้นปีใหม่ โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ในหลายเมืองที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการป่วยเล็กน้อย และหายป่วยได้อย่างรวดเร็วโดยรักษาตัวอยู่ที่บ้าน นครกัลกัตตาในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ซึ่งมีประชากรราว 15 ล้านคน พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงราวครึ่งหนึ่งจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั่วประเทศตั้งแต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และกลายเป็นรัฐหนึ่งของอินเดียที่มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่โรงพยาบาลหลายแห่งในนครกัลกัตตายังคงมีเตียงผู้ป่วยเพียงพอ ขณะที่นครมุมไบในรัฐมหาราษฏระพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 15,166 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มีราว 11,000 คน และนครเดลีพบผู้ป่วยติดเชื้อ 10,665 คน เพิ่มขึ้นสองเท่าจากวันก่อนหน้า โดยที่ทั้งสองเมืองยังคงมีอัตราผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดียเตือนว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการป่วยปานกลางอาจทำให้ระบบสาธารณสุขเผชิญกับภาวะตึงตัวได้ ขณะที่ทางการอินเดียยืนยันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2,135 คน และมีผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับสายพันธุ์ดังกล่าว 1 รายเป็นชายสูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 35.1 […]

สหรัฐพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เกือบ 1 ล้านคน

วอชิงตัน 5 ม.ค. – สหรัฐพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่เกือบ 1 ล้านคนเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำสถิติพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าจากตัวเลขสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนและทำสถิติสูงสุดของโลก ในขณะที่กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จากการบันทึกตัวเลขสถานการณ์โควิด-19 ของรอยเตอร์ พบว่า สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 978,856 คนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งนับรวมตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่ตกค้างมาจากวันเสาร์และวันอาทิตย์เนื่องจากมีหลายรัฐที่ไม่ได้รายงานผลตรวจหาเชื้อโควิด โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 486,000 คนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 7 วันและเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างมาก สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันโดยเฉลี่ยราว 1,300 คน ซึ่งอยู่ในระดับคงที่นับตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงช่วงต้นเดือนมกราคม นอกจากนี้ สหรัฐยังมีตัวเลขผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อสัปดาห์ก่อน และขณะนี้ก็มีตัวเลขผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลทะลุ 100,000 คน ซึ่งทำสถิติเทียบเท่ากับการระบาดรุนแรงในช่วงฤดูหนาวปีก่อน ในขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 95 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งหมดในสหรัฐนับถึงวันที่ 1 มกราคม และมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ […]

1 2 3 4 5 6 10
...