รัฐใหญ่สุดของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนถึง 90%

ซิดนีย์ 12 ม.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั้งหมด ในขณะที่ออสเตรเลียมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นช้ากว่าเดิม


เคอร์รี ชานต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก เผยวันนี้ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงถึงร้อยละ 90 และมีร้อยละ 10 ที่ติดสายพันธุ์เดลตาจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้แผนกผู้ป่วยหนักทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์มีอัตราครองเตียงสูงราวร้อยละ 67

ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์โควิดของทางการออสเตรเลียระบุวันนี้ว่า ออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 90,847 คน แต่ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่ทางการรายงาน เนื่องจากระบบตรวจหาเชื้อโควิดของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัว ยอดผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นถึง 33 เท่าเมื่อเทียบกับวันที่ 14 ตุลาคมปีก่อนที่มีเพียง 2,752 คนและเป็นช่วงที่ออสเตรเลียเผชิญกับการระบาดสูงสุดของสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]