จาการ์ตา 6 ม.ค. – ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยอินโดนีเซียชี้ว่า ชาวอินโดนีเซียกว่าร้อยละ 85 มีภูมิต้านทานโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แต่นักระบาดวิทยาเตือนว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะช่วยควบคุมการระบาดระลอกใหม่ได้หรือไม่
คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้จัดทำการสำรวจดังกล่าวซึ่งครอบคลุมผู้ตอบแบบสอบถาม 22,000 คนในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมปีก่อนและพบว่า ชาวอินโดนีเซียมากกว่าร้อยละ 85 สร้างภูมิต้านทานโรคโควิดจากทั้งการติดเชื้อโควิดและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ขณะที่นักระบาดวิทยาที่มีส่วนร่วมในการจัดทำผลสำรวจ กล่าวว่า ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในอินโดนีเซียไม่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน ทั้งยังระบุว่า ภูมิต้านทานโควิดของชาวอินโดนีเซียอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ เช่น เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ระบาดติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นนี้ อย่างไรก็ดี ดิคกี บูดิแมน นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิทของออสเตรเลีย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลสำรวจดังกล่าว ระบุว่า อินโดนีเซียควรพึงระวังผลสำรวจดังกล่าว เนื่องจากอินโดนีเซียมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดต่ำกว่าหลายประเทศทั่วโลกและไม่มีความแน่นอนว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นในชาวอินโดนีเซียจะยืนยาวเพียงใด
ทางการอินโดนีเซียรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกว่า 250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศและพบการระบาดในประเทศอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 144,000 คน โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสเพียงร้อยละ 42 จากประชากรทั้งหมด 270 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย