รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย

เพิร์ท 13 ก.ย. – ตำรวจออสเตรเลียเผยว่า ชายชาวออสเตรเลีย วัย 77 ปี เสียชีวิตหลังถูกจิงโจ้ที่คาดว่าเขาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงทำร้ายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า หน่วยกู้ชีพของออสเตรเลียได้รับแจ้งเหตุญาติพบชายออสเตรเลีย วัย 77 ปี ที่บ้านพักในเมืองเรดมอนด์ ทางตอนใต้ของนครเพิร์ทห่างออกไปราว 400 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ โดยที่ร่างกายของเขามีบาดแผลถูกทำร้ายอย่างสาหัส หน่วยกู้ชีพได้แจ้งเหตุดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งมีนครเพิร์ทเป็นเมืองเอก หลังจิงโจ้ที่ชายคนดังกล่าวเลี้ยงไว้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าใกล้ชายคนนี้จนทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โฆษกตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดสินใจยิงจิงโจ้ตัวดังกล่าวตาย เนื่องจากมันมีท่าทีเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ตำรวจคาดว่าชายคนดังกล่าวถูกจิงโจ้ทำร้ายเมื่อวันอาทิตย์ และเชื่อว่าเขานำจิงโจ้ตัวนี้มาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีประชากรจิงโจ้ราว 50 ล้านตัว และมักไม่ค่อยเกิดเหตุจิงโจ้ทำร้ายมนุษย์ อย่างไรก็ดี ชายคนดังกล่าวนับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากการถูกจิงโจ้ทำร้ายนับตั้งแต่ปี 2479.-สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 14 ม.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียเผยว่า เมืองออนสโลว์ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชนบทของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมีสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งถึง 50.7 องศาเซลเซียส และเป็นวันที่ร้อนที่สุดทำสถิติเทียบเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดของประเทศที่เคยวัดได้เมื่อปี 2503 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เมืองออนสโลว์ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียวัดอุณหภูมิได้สูงถึง 50.7 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ทำลายสถิติสูงสุดของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและทำสถิติเทียบเท่าอุณหภูมิสูงสุดของประเทศที่ท่าอากาศยานเมืองอูดนาดัตตาในรัฐเซาท์ออสเตรเลียเมื่อ 62 ปีก่อน ดร. มาร์ติน ไรซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของไคลเมต เคาน์ซิล (Climate Council) ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเทียบเท่ากับสถิติเมื่อ 62 ปีก่อนเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มภาวะโลกร้อนระยะยาวที่มีสาเหตุจากการเผาถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ เขายังคาดการณ์ว่า หากออสเตรเลียยังไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อุณหภูมิระดับสูงดังกล่าวอาจกลายเป็นเรื่องปกติในประเทศ โดยที่นครซิดนีย์และนครเมลเบิร์นอาจมีอุณหภูมิสูงถึงระดับ 50 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อนภายในปี 2573.-สำนักข่าวไทย

เพิร์ท 19 ต.ค. – ตำรวจออสเตรเลียระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งที่คลีโอ สมิท เด็กหญิงวัย 4 ขวบ หายตัวไปอย่างลึกลับจากที่ตั้งแคมป์ริมชายฝั่งทะเลในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเมื่อ 4 วันก่อน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า คลีโอ สมิท ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์กับครอบครัวที่สถานที่ตั้งแคมป์แห่งหนึ่งในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ ขณะที่ตำรวจของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียระบุว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวหายตัวไปในช่วงเช้าวันเสาร์หลังจากที่แม่ของเธอตื่นขึ้นมาโดยไม่พบตัวลูกสาวและถุงนอนก็หายไปด้วย ตำรวจยังได้ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ตั้งแคมป์ดังกล่าวแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสเพิ่มเติมเมื่อวันจันทร์ซึ่งทำให้เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ ตำรวจยังได้เผยแพร่รูปภาพของคลีโอ สมิท ชุดนอน และถุงนอนของเธออีกด้วย อย่างไรก็ดี ตำรวจไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเด็กหญิงคนดังกล่าว แต่ระบุว่าพวกเขาจะปฏิบัติการค้นหาอย่างเต็มที่ ขณะนี้ ตำรวจยังคงปฏิบัติการค้นหาทางอากาศและทางทะเลเพื่อหาร่องรอยของคลีโอ สมิทต่อไป. -สำนักข่าวไทย

เพิร์ท 4 ก.พ. – ไฟป่าที่ลุกลามในย่านชนบทของนครเพิร์ทในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียทำให้บ้านเรือน 81 หลังถูกไฟไหม้เสียหายแต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่สภาพลมแรงยังคงเป็นอุปสรรคต่อการดับไฟป่า นายมาร์ค แมคโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งมีนครเพิร์ทเป็นเมืองเอกกล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าในตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ และอาจเกิดเหตุพลิกผันในเวลาที่รวดเร็ว โดยเฉพาะสภาพอากาศที่แปรปรวนและคาดว่าจะมีลมแรง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า สภาพลมแรงในขณะนี้ทำให้เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงขึ้นบินไม่ได้ และสภาพอากาศจะยิ่งเลวร้ายลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียคาดการณ์ว่า รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจะเผชิญกับกระแสลมแรงสูงกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ดี สภาพอากาศอาจมีแนวโน้มดีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากคาดว่าจะมีฝนตกบริเวณพื้นที่เกิดไฟป่าในวันเสาร์นี้ ทั้งนี้ ทางการรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยังไม่ทราบแน่ชัดว่าต้นเหตุของไฟป่าในครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

เพิร์ท 14 ม.ค. – ชายชาวออสเตรเลียถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายขณะกำลังว่ายน้ำในแม่น้ำสวอนของนครเพิร์ท ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นับเป็นเหตุฉลามจู่โจมในแม่น้ำครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี เจ้าหน้าที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า ชายคนดังกล่าวถูกฉลามหัวบาตรขนาดลำตัวยาว 2-3 เมตรจู่โจมขณะที่กำลังว่ายน้ำในช่วงเช้าที่เขตอนุรักษ์แบล็กวอลล์รีชของนครเพิร์ท ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาบนฝั่งเล่าว่า เขาถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ และมีเลือดสีแดงกระจายอยู่ในน้ำเต็มไปหมด ขณะที่โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรอยัลเพิร์ทในสภาพที่มีอาการหนัก ในเวลาต่อมาสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า ชายที่ถูกฉลามกัดมีอายุราว 50 ปีเศษ และมีอาการดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้ แถลงการณ์ของสำนักงานพัฒนาท้องถิ่นและอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยังระบุว่า ได้สั่งปิดสถานที่เกิดเหตุฉลามจู่โจมบริเวณแม่น้ำสวอนไปจนถึงวันพรุ่งนี้แล้ว แม้ว่านครเพิร์ทและพื้นที่ชายฝั่งของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องฉลามขาวชุกชุมและเคยเกิดเหตุฉลามจู่โจมหลายครั้ง ซึ่งทำให้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องสั่งปิดชายหาดหลายแห่ง เนื่องจากมีผู้พบเห็นฉลามมากขึ้น แต่เหตุฉลามจู่โจมล่าสุดที่เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำสวอนในเมืองฟรีแมนเทิล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ทางใต้ของนครเพิร์ทนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ครั้งล่าสุดที่มีรายงานฉลามจู่โจมเกิดขึ้นในปี 2512 และก่อนหน้านั้นมีเหตุฉลามกัดคนเสียชีวิตและอีกคนถูกกัดที่ขาในปี 2466.-สำนักข่าวไทย