ไฟป่าลุกลามใกล้นครเพิร์ทหลังเพิ่งล็อกดาวน์สกัดโควิด

เพิร์ท 2 ก.พ. – เกิดเหตุไฟป่าลุกลามเผาไหม้บ้านเรือนหลายหลังในย่านชนบทของนครเพิร์ทในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทำให้ทางการท้องถิ่นต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่เพิ่งเริ่มมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19 มาได้ 2 วัน


เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังเข้าควบคุมไฟป่าที่ลุกลามเป็นวงกว้างในย่านชนบททางตะวันออกของนครเพิร์ท ทำให้บ้านเรือนหลายหลังและพื้นที่หลายแห่งถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน ไฟป่าดังกล่าวยังทำให้เกิดเขม่าควันไฟลอยฟุ้งไปจนถึงนครเพิร์ท ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุราว 30 กิโลเมตร สำนักงานดับเพลิงและบริการฉุกเฉินของออสเตรเลียเผยว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ที่แปรปรวนและมีอุณหภูมิสูงถึง 37 องศาเซลเซียส ขณะนี้ไฟป่ากินพื้นที่ราว 43,750 ไร่ ลมกระโชกแรงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าวต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย โดยคาดว่ามีชาวบ้านหลายร้อยคนที่ย้ายไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว

บ้านเรือนหลายหลังเสียหายจากเหตุไฟป่า

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟป่าในครั้งนี้ แต่นายกเทศมนตรีท้องถิ่นได้กล่าวกับบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซีว่า มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างน้อย 30 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 นายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากอาการสำลักควันไฟ และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เหตุไฟป่ามีขึ้นในขณะที่นครเพิร์ทเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เป็นวันที่สองจากทั้งหมด 5 วันหลังพบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมกักตัวแห่งหนึ่งมีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 28,800 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย