ยืนยัน “ปูติน” จะร่วมประชุมสุดยอด G20 ที่อินโดนีเซีย

จาการ์ตา 23 มี.ค.- เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอินโดนีเซียยืนยันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ที่อินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากมีบางสมาชิกแนะให้ขับรัสเซียออกจากกลุ่ม แหล่งข่าวเผยว่า สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกกำลังประเมินว่า รัสเซียยังควรเป็นสมาชิกจี 20 อยู่หรือไม่ หลังจากรุกรานยูเครน แต่ความพยายามขับรัสเซียออกจากกลุ่มอาจถูกสมาชิกอื่นคัดค้าน และอาจทำ่ให้บางสมาชิกไม่เข้าร่วมการประชุมจี 20  นางลุดมิลา วาราเบียวา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอินโดนีเซียเปิดแถลงข่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีปูตินมีความตั้งใจจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายนนี้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ดีขึ้นมาก ประธานาธิบดีจึงมีความตั้งใจที่จะไปเข้าร่วม ต่อข้อถามเรื่องรัสเซียจะถูกขับออกจากกลุ่มหรือไม่นั้น เอกอัครราชทูตรัสเซียกล่าวว่า จี 20 เป็นเวทีหารือประเด็นเศรษฐกิจ ไม่ใช่วิกฤตอย่างเรื่องยูเครน การขับรัสเซียออกจากเวทีแบบนี้ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่อาจทำให้แก้ได้ยากขึ้นอีกด้วย รัสเซียหวังว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะไม่ยอมให้แก่แรงกดดันเลวร้ายที่ชาติตะวันตกกำลังใช้กับประเทศต่าง ๆ ก่อนหน้านี้นายโดดี บูดี วาลูโย รองผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จุดยืนของอินโดนีเซียคือ การวางตัวเป็นกลาง และจะใช้ความเป็นประธานจี 20 ในปีนี้พยายามแก้ไขปัญหา ขณะที่รัสเซียมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้าร่วมการประชุม สมาชิกอื่น ๆ จึงไม่สามารถห้ามรัสเซียได้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐประณามรัสเซียไม่ตัดเรื่องจะใช้อาวุธนิวเคลียร์

วอชิงตัน 23 มี.ค.- กระทรวงกลาโหมสหรัฐประณามโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียที่ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้เรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการทำสงครามกับยูเครน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า คำกล่าวของนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเป็นเรื่องอันตราย จากการให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากเผชิญกับภัยคุกคามที่มีอยู่จริง ปัจจุบันรัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก นายเคอร์บีระบุว่า มหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีความรับผิดชอบไม่ควรทำเช่นนั้น อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมสหรัฐยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางยุทธศาสตร์ในขณะนี้ และกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ทุกวัน ด้านนายลีออน พาเน็ตตา อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐวิจารณ์เช่นกันว่า เป็นเรื่องเป็นอันตรายที่รัสเซียกำลังมองหาข้ออ้างเพื่อใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอำนาจการทำลายต่ำ การตั้งสมมติฐานอย่างผิด ๆ ว่ารัสเซียกำลังถูกคุกคาม สร้างความกังวลว่า อย่างน้อยรัสเซียก็กำลังคิดเรื่องใช้อาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะต้องคิดดีให้ว่าสหรัฐจะตอบโต้อย่างไร และเขาจะรอดพ้นไปได้อย่างไร ผู้นำรัสเซียสั่งกองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อมเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ หลังจากสั่งใช้ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” กับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เจ้าหน้าที่ตะวันตกกล่าวหลังจากนั้นว่า ยังไม่มีเห็นสัญญาณพิเศษใด ๆ ว่า รัสเซียกำลังระดมฝูงบินทิ้งระเบิด ขีปนาวุธ และเรือดำน้ำเพื่อทำการรบ.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้จะย้ายทำเนียบ ปธน. ไปกระทรวงกลาโหม

นายยุน ซอก ยอล ว่าที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าววันนี้ว่า เขาจะย้ายทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้จากทำเนียบ “ชอง วา แด” หรือ “บลู เฮ้าส์” ไปยังพื้นที่ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการแหวกธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือกันมายาวนานหลายทศวรรษ และคาดว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 40 ล้านดอลลาร์

อดีตนายกฯ อังกฤษหนุนตั้งศาลสากลไต่สวน “ปูติน”

ลอนดอน 19 มี.ค.- อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ 2 คน คือ กอร์ดอน บราวน์ และ เซอร์ จอห์น เมเจอร์ สนับสนุนให้ตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นไต่สวนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กรณีรุกรานยูเครน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษทั้ง 2 คน รวมอยู่ในกลุ่มนักวิชาการ ทนายความ และนักการเมือง ประมาณ 140 คน ที่ลงนามในคำร้องให้ตั้งระบบยุติธรรมแบบเดียวกับศาลนูเรมเบิร์กที่ตั้งขึ้นไต่สวนอาชญากรสงครามนาซี หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีบราวน์ วัย 71 ปี เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์เดลีเมลว่า การตั้งศาลระหว่างประเทศจะช่วยปิดช่องโหว่ในกฎหมายสากลที่ปูตินสามารถใช้หลบเลี่ยงความยุติธรรมได้ เรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวยูเครนว่า ทุกคนตั้งใจทำจริง ไม่ใช่เพียงคำพูดปลอบใจ และต้องทำให้พรรคพวกของปูตินตระหนักว่า หากไม่รีบออกห่างจากปูติน ก็จะถูกดำเนินคดีและคุมขังเช่นเดียวกัน คำร้องนี้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้วราว 740,000 คน หลายคนหวังว่า จะช่วยเสริมการทำงานของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี (ICC) ที่กำลังไต่สวนปูติน ข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน แต่ถูกมองว่ามีอำนาจจำกัดเพราะไม่สามารถดำเนินคดีได้ หากไม่มีการส่งเรื่องมาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ที่รัสเซียมีสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ในฐานะสมาชิกถาวร.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” ปราศรัยที่สนามกีฬามอสโก

มอสโก 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยกย่องทหารรัสเซียที่กำลังสู้รบในยูเครน ระหว่างปราศรัยต่อประชาชนที่เนืองแน่นอยู่ที่สนามกีฬาในกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีปูตินซึ่งไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะเท่าใดนัก นับตั้งแต่สั่งการให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปรากฏตัวในสนามกีฬาลุจนีกีที่มีป้ายด้านหลังเวทีว่า “เพื่อโลกที่ปลอดจากลัทธินิยมนาซี” เขากล่าวกับฝูงชนที่โห่ร้องตอบรับเสียงกึกก้องว่า ทหารรัสเซียเคียงบ่าเคียงไหล่สู้รบและช่วยเหลือกัน เป็นความกลมเกลียวที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว พร้อมกับหยิบยกประโยคในคัมภีร์ไบเบิลมากล่าวถึงทหารรัสเซียว่า “ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการสละจิตวิญญาณของตนเองเพื่อมิตร” ปูตินย้ำข้ออ้างเดิมว่า ศัตรูในยูเครนเป็นพวกนาซีใหม่ การกระทำของเขาจึงเป็นไปเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น ตำรวจกรุงมอสโกอ้างว่า มีคนมาร่วมฟังประธานาธิบดีปูตินกล่าวปราศรัยนาน 5 นาทีมากกว่า 200,000 คน ทั้งในและนอกสนามกีฬา บางคนสวมเสื้อพิมพ์คำว่า ซี (Z) ที่เป็นสัญลักษณ์บนรถถังและยานยนต์ทางทหารของรัสเซียในยูเครนเพื่อแสดงความสนับสนุนสงคราม นอกจากนี้ยังมีการร้องเพลงปลุกใจและการแสดงชื่อ Made in the U.S.S.R. ซึ่งเป็นตัวย่อของสหภาพโซเวียต โดยมีประโยคเปิดการแสดงว่า “ยูเครนและไครเมีย เบลารุสและมอลโดวา ทั้งหมดคือประเทศของฉัน” ขณะที่ข้อมูลของวิกิพีเดียระบุว่า สนามกีฬาแห่งนี้จุคนดูได้ 81,000 ที่นั่ง เป็นสนามฟุตบอลใหญ่ที่สุดในรัสเซีย และใหญ่อันดับ 9 ของยุโรป ด้านกลุ่มวิจารณ์รัสเซียอ้างว่า นักศึกษาและลูกจ้างหน่วยงานรัฐในหลายพื้นที่ของรัสเซียถูกบังคับให้เข้าร่วมการชุมนุมและการแสดงดนตรีเมื่อวานนี้ เนื่องในวันครบรอบ 8 ปีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำซีเรียเยือนอาหรับครั้งแรกตั้งแต่สงครามกลางเมือง 11 ปีก่อน

ดูไบ 19 มี.ค.- สื่อทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) รายงานว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียเดินทางเยือนยูเออีเมื่อวันศุกร์ เป็นการเยือนประเทศอาหรับครั้งแรกนับตั้งแต่ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2554 สำนักข่าวเอมิเรตส์หรือดับเบิลยูเอเอ็ม (WAM) รายงานว่า ประธานาธิบดีอัสซาดเข้าเฝ้าเชค มูฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ซึ่งเป็นผู้ปกครองยูเออีโดยพฤตินัย หารือความสัมพันธ์ภราดรภาพระหว่างสองประเทศ ความพยายามเสริมสร้างความมั่นคง เสถียรภาพ และสันติภาพในภูมิภาคอาหรับและตะวันออกกลาง การหาทางรักษาอธิปไตยทางดินแดนของซีเรียและการถอนทหารต่างชาติออกจากซีเรีย การให้ความช่วยเหลือทางการเมืองและมนุษยธรรมแก่ซีเรีย เชคมูฮัมหมัดหวังว่า การเยือนครั้งนี้จะนำมาซึ่งความดีงาม สันติภาพ และเสถียรภาพขึ้นในซีเรียและทั้งภูมิภาค ด้านทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียเผยแพร่ภาพประธานาธิบดีเข้าพบเชค มูฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มักตูม เจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเออีด้วยในระหว่างการเยือนเป็นเวลา 1 วัน การเยือนครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณล่าสุดว่าซีเรียและยูเออีมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หลังจากยูเออีตัดความสัมพันธ์กับซีเรียในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 และนักการทูตระดับสูงสุดของยูเออีเดินทางไปพบประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2554 และถูกสันนิบาตอาหรับระงับสมาชิกภาพ หลังจากเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศ และมีการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรง ประชาชนราว 500,000 คนล้มตาย ขณะที่อีกหลายล้านคนกลายเป็นคนพลัดถิ่น สถานการณ์ทวีความซับซ้อนเมื่อกลุ่มติดอาวุธ […]

“เซเลนสกี” วอน “ปูติน” คุยกันโดยตรง

เคียฟ 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนร้องขออีกครั้งให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเจรจาโดยตรงกับเขา ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในการบันทึกคลิปหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเคียฟเมื่อกลางดึกวันศุกร์ และเผยแพร่ต่อประชาชนทั่วประเทศในวันนี้ว่า ยูเครนเสนอทางออกเพื่อสันติอยู่เสมอ และต้องการให้มีการเจรจาเรื่องสันติภาพและความมั่นคงที่เป็นประโยชน์และซื่อสัตย์โดยไม่ล่าช้า ถึงเวลาที่ต้องพบและพูดคุยกันแล้ว เขาอยากให้ทุกคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกรุงมอสโก ถึงเวลาที่จะต้องทวงคืนอธิปไตยทางดินแดนและความยุติธรรมให้แก่ยูเครน ไม่เช่นนั้นรัสเซียจะเกิดความสูญเสียชนิดที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการเยียวยา ผู้นำยูเครนกล่าวต่อไปว่า กองกำลังรัสเซียจงใจขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมืองใหญ่ ๆ ในยูเครนที่ถูกโจมตีทางตอนกลางและตะวันออกของยูเครนหวังสร้างหายนะด้านมนุษยธรรม เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ชาวยูเครนยอมร่วมมือ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรัสเซียโจมตีโรงละครในเมืองมารีอูปอลที่ประชาชนใช้หลบภัยเมื่อวันพุธ มีคนได้รับความช่วยเหลือจากโรงละครแล้วมากกว่า 130 คน และมีคนมากกว่า 9,000 คนสามารถออกจากเมืองมารีอูปอลได้เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีคนเดินทางออกมาด้วยเส้นทางมนุษยธรรมได้อย่างปลอดภัยแล้วมากกว่า 180,000 คน.-สำนักข่าวไทย

“สี” เตือน “ไบเดน” จัดการเรื่องไต้หวันไม่ดีจะกระทบสัมพันธ์

ปักกิ่ง 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเตือนประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐว่า จำเป็นต้องจัดการเรื่องไต้หวันอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับผลกระทบเชิงลบ สื่อทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีกล่าวระหว่างสนทนาผ่านระบบวิดีโอทางไกลกับประธานาธิบดีไบเดนเมื่อวันศุกร์ว่า บางคนในสหรัฐกำลังส่งสัญญาณผิด ๆ ไปยังกลุ่มแยกดินแดนในไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง หากประเด็นไต้หวันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จะเกิดผลทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนย้ำกับประธานาธิบดีสีว่า นโยบายของสหรัฐเรื่องไต้หวันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และสหรัฐยังคงคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ด้านกระทรวงต่างประเทศไต้หวันแถลงขอบคุณผู้นำสหรัฐที่ย้ำเรื่องคงสถานภาพปัจจุบันเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการสนับสนุนความมั่นคงของไต้หวันอย่างแข็งขัน พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้จีนดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมและประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครน สื่อทางการจีนรายงานว่า ในการสนทนาดังกล่าวที่สหรัฐเป็นฝ่ายขอให้จัดขึ้น ประธานาธิบดีสีกล่าวถึงวิกฤตยูเครนว่าเป็นเรื่องที่จีนไม่อยากให้เกิดขึ้น องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตควรเจรจากับรัสเซียเพื่อแก้ไขต้นเหตุความขัดแย้ง ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า ในการสนทนาที่กินเวลาราว 2 ชั่วโมง ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดถึงผลกระทบและผลที่จะติดตามมา หากจีนให้การสนับสนุนทางวัตถุแก่รัสเซียที่โจมตีเมืองและชาวเมืองยูเครนอย่างโหดร้าย.-สำนักข่าวไทย

ที่ปรึกษาผู้นำยูเครนคาดสงครามอาจจบในเดือน พ.ค.

เคียฟ 15 มี.ค.- ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนคาดว่า สงครามในยูเครนมีแนวโน้มจะจบสิ้นภายในต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อรัสเซียหมดทรัพยากรที่จะใช้ในการโจมตียูเครน สื่อยูเครนหลายแห่งเผยแพร่คลิปของนายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนที่กล่าวว่า เวลาจบสงครามที่แน่ชัดขึ้นกับว่ารัสเซียพร้อมจะทุ่มทรัพยากรในการทำสงครามมากน้อยเพียงใด เขาคิดว่าควรจะมีข้อตกลงสันติภาพไม่เกินเดือนพฤษภาคม โดยอาจเป็นต้นเดือนพฤษภาคม สถานการณ์ขณะนี้กำลังอยู่กลางทางแยก อาจจะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพโดยเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์และมีการถอนทหาร หรืออาจจะมีความพยายามทำลายทุกอย่าง หรืออาจจะเกิดฉากทัศน์เลวร้ายที่สุดเมื่อรัสเซียส่งทหารชุดใหม่เข้ายูเครนหลังจากใช้เวลาฝึกนาน 1 เดือน อย่างไรก็ดี แม้มีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ การปะทะประปรายจะยังคงเกิดขึ้นไปอีกราว 1 ปี ที่ปรึกษายูเครนคาดการณ์ดังกล่าวในขณะที่การเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียรอบล่าสุดเมื่อวานนี้ยังไม่บรรลุผลใด ๆ นอกจากเรื่องเส้นทางมนุษยธรรมให้คนอพยพออกจากเมืองในยูเครนที่ถูกปิดล้อม.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นฝ่ายค้านสายอนุรักษ์

โซล 10 มี.ค.- นายยูน ซอก-ยอล ผู้สมัครจากฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งเมื่อวานนี้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ เฉือนชนะผู้สมัครจากรัฐบาลด้วยคะแนนเฉียดฉิว คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของเกาหลีใต้แจ้งว่า นายยูน วัย 61 ปี ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชน (PPP) สายอนุรักษ์นิยมได้คะแนนร้อยละ 48.56 ส่วนนายอี แจ-มยอง วัย 57 ปี ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย (DP) สายเสรีนิยมที่เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันได้คะแนนร้อยละ 47.83 คะแนนที่ชนะกันเพียงร้อยละ 0.73 ทำให้เป็นการเลือกตั้งที่คู่คี่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นายยูนกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาชิกพรรคที่ห้องยุทธการการเลือกตั้งในสมัชชาแห่งชาติวันนี้หลังทราบผลการเลือกตั้งว่า ประชาชนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีเป็นหนึ่งเดียวกันและเท่าเทียมกัน ไม่ว่ามาจากภูมิภาคใดหรือชนชั้นใด ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม การสร้างเอกภาพแห่งชาติคือภารกิจสำคัญที่สุด สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ระหว่างหาเสียงคือ คุณสมบัติของการเป็นผู้นำประเทศและการรับฟังเสียงของประชาชน เขาจะเคารพหลักการของรัฐธรรมนูญและสมัชชาแห่งชาติ ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับฝ่ายค้านและรับใช้ประชาชน ด้านนายอีแถลงว่า ได้ทำดีที่สุดแล้วแต่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง เขาขอรับผิดชอบทั้งหมด และขอแสดงยินดีกับนายยูน สำนักข่าวยอนฮับมองว่า เกาหลีใต้ภายใต้การนำของนายยูนจะมีทิศทางที่ต่างไปจากประธานาธิบดีมุน แจ-อิน เพราะเขามีนโยบายแข็งกร้าวเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ เห็นว่าควรชิงโจมตีก่อนเพื่อสกัดภัยคุกคามของเกาหลีเหนือ และจะเพิ่มการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทาด (THAAD) ของสหรัฐ เขาจะให้ความสำคัญต่อนโยบายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นความล้มเหลวของรัฐบาลมุน แจ-อินด้วยการสร้างบ้านเพิ่มอีก 2.5 ล้านหลังในช่วง 5 ปีข้างหน้า […]

ชาวเกาหลีใต้ออกไปเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่

ชาวเกาหลีใต้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งราว 44 ล้านคน ออกไปหย่อนบัตรเพื่อเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนี้

“มาครง” ยังไม่ตัดขาด “ปูติน” หลังรุกรานยูเครน

นีซ 7 มี.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยังคงติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แม้ว่าผู้นำโลกหลายคนหันหลังให้ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่สั่งกองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีมาครงในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามใช้วิถีทางทางการทูตสกัดการเกิดสงครามแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ดี เขายังคงสนทนากับประธานาธิบดีปูติน โดยนับได้ 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 11 ครั้งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นายเบนจามิน ฮัดดัน สมาชิกพรรคอ็องมาร์ชของมาครงเผยว่า ประธานาธิบดีต้องการเปิดช่องทางทางการทูตเอาไว้ เผื่อปูตินอาจต้องการคลี่คลายความตึงเครียดและหาทางออกจากวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนในการสนทนากับปูตินแทนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน หวังได้ความเมตตาบางอย่าง เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ เปิดเส้นทางหลบหนีอย่างปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปะทะ และการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านนายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องมาครงติดกับดักเก่า ๆ ของยุโรปที่มักเอาใจรัสเซียว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่าต้องใช้วิธีใด รู้ลักษณะและนิสัยของผู้นำรัสเซีย ซิลเวีย โคลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอียู สถาบันระหว่างประเทศในกรุงโรมของอิตาลีมองว่า มาครงแตกต่างจากผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ตรงที่เขาเต็มใจจะถูกจับจ้องจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันนโยบายต่างประเทศที่วางไว้ เขาเคยให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูตินครั้งแรกที่พระราชวังแวร์ซายส์ในปี 2560 หลังจากนั้น […]

1 31 32 33 34 35 74
...