ประธานาธิบดี

มะนิลา 11 พ.ค.- หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์รับประกันว่าจะเคารพสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และประชาธิปไตย ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเผยว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ชนะด้วยคะแนนที่ได้มากกว่า 31 ล้านเสียงในการเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ ส่วนนางซารา ดูเตอร์เต-การ์ปิโอ ผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขาก็น่าจะชนะด้วยคะแนนถล่มทลายเช่นกัน หากรัฐสภายืนยันผลคะแนนแล้ว ผู้ชนะจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 6 ปี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงหลังทราบผลการเลือกตั้งไม่นานว่า สหรัฐตั้งตารอการฟื้นความสัมพันธ์พิเศษกับฟิลิปปินส์ และการทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องสำคัญในภูมิภาค สหรัฐเป็นพันธมิตรยาวนานกับฟิลิปปินส์ที่มีค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกันเรื่องประชาธิปไตย รัฐบาลสหรัฐจะเดินหน้าส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมที่เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ของสองประเทศ ขณะที่กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ในสหรัฐเรียกร้องให้นายมาร์กอส จูเนียร์ เร่งปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทันทีที่รับตำแหน่ง เช่น ช่วยศาลอาญาระหว่างประเทศดำเนินคดีกับนายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเรื่องทำสงครามปราบปรามยาเสพติดอย่างนองเลือด ช่วยให้ สว.ไลลา เดอ ลิมาที่วิจารณ์รัฐบาลได้รับอิสรภาพ สั่งการทหารตำรวจให้หยุดรังควานกลุ่มนักเคลื่อนไหว นายมาร์กอส จูเนียร์หาเสียงด้วยการชูเรื่องทำให้ประเทศมีเอกภาพ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในช่วงที่นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส บิดาของเขาผูกขาดปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2508-2529 และถูกประชาชนลุกฮือขับไล่จนต้องลี้ภัยอยู่ในสหรัฐจนกระทั่งเสียชีวิต นอกจากนี้ยังไม่พูดชัดเจนในประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองสำคัญของประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย

โคลัมโบ 11 พ.ค.- กลุ่มผู้ประท้วงและสหภาพแรงงานในศรีลังกาเรียกร้องให้มีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตร้ายแรง ขณะที่ประธานาธิบดีขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หลังเกิดเหตุปะทะทางการเมืองที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก กลุ่มผู้ประท้วงยังคงชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา วัย 72 ปี ลาออก รวมทั้งผู้ชุมนุมที่ปักหลักตั้งกลุ่มเต็นท์หน้าทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากประธานาธิบดีลาออก รัฐสภาสามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ และตั้งรัฐบาลรักษาการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ด้านสมาคมเครื่องนุ่งห่มที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศเรียกร้องให้ตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง หลังจากรัฐบาลชุดที่เพิ่งลาออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่ประธานาธิบดีราชปักษาประกาศว่า จะทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมืองด้วยฉันทามติภายใต้อำนาจของรัฐธรรมนูญ และเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์ในศรีลังกาทวีความรุนแรงเมื่อกลุ่มเต็นท์ผู้ชุมนุมถูกกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลบุกเข้ามารื้อทำลายเมื่อวันจันทร์ จนเกิดการปะทะกัน มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บมากกว่า 200 คน นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา วัย 76 ปี พี่ชายของประธานาธิบดีตัดสินใจลาออกในเวลาต่อมา รวมทั้งคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ด้านตำรวจประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวทั่วประเทศจนถึงเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย.-สำนักข่าวไทย

ชาวฟิลิปปินส์ราว 400 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษารวมตัวกันประท้วงที่ด้านนอกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันนี้ เพื่อต่อต้านการที่นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีและได้อ้างว่ามีความไม่ขอบมาพากลในการเลือกตั้งผู้นำประเทศในครั้งนี้

โซล 9 พ.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจ-อินของเกาหลีใต้ใช้การแถลงอำลาตำแหน่งปกป้องนโยบายติดต่อข้องเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และหวังว่าความพยายามฟื้นฟูสันติภาพและปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่ ประธานาธิบดีมุน วัย 69 ปี จะพ้นวาระ 5 ปีในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อส่งต่อภารกิจให้แก่นายยุน ซอก-ยอล ผู้นำสายอนุรักษ์นิยมที่กล่าวหานายมุนว่ายอมจำนนให้แก่เกาหลีเหนือ และประกาศจะใช้แสดงความแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากขึ้นในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีมุนแถลงอำลาที่ทำเนียบประธานาธิบดีในวันนี้โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า สันติภาพคือเงื่อนไขในการอยู่รอดและรุ่งเรือง เขาหวังจากใจว่า ความพยายามฟื้นการเจรจาระหว่างสองเกาหลี ความพยายามปลดนิวเคลียร์และสร้างสันติภาพจะดำเนินต่อไป พร้อมกับยืนยันว่า เหตุผลที่เกาหลีใต้ไม่สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะขาดความพยายามและความมุ่งมั่น แต่เพราะมีอุปสรรคที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยความมุ่งมั่นของเกาหลีใต้เท่านั้น เป็นอุปสรรคที่เกาหลีใต้ควรหาทางเอาชนะให้ได้ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่าอุปสรรคที่ว่าคืออะไร ประธานาธิบดีมุนรับตำแหน่งในปี 2560 ดำเนินนโยบายประนีประนอมจนสามารถจัดการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือถึง 3 ครั้งในปี 2561 และนำมาซึ่งการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในเวลานั้นในปี 2561 และ 2562 แต่หลังจากการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐล้มเหลว เขาถูกวิจารณ์ว่าดำเนินนโยบายที่ช่วยให้เกาหลีเหนือมีเวลาในการพัฒนาอาวุธ.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 9 พ.ค.- ฟิลิปปินส์เปิดคูหาเลือกตั้งแล้วในวันนี้ คนในตระกูลมาร์กอสที่ถูกพลังประชาชนลุกฮือโค่นล้มเมื่อ 36 ปีก่อน มีแนวโน้มจะได้กลับมาปกครองประเทศอีกครั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวฟิลิปปินส์ไปเข้าแถวรอใช้สิทธิก่อนคูหาเปิดในเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 05:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย กระบวนการใช้สิทธิจะนานกว่าปกติเพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัโคโรนา 2019 คูหาจะปิดในเวลา 19:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 18:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย และจะมีการประกาศผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง คณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงวันนี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุขัดข้องใด ๆ คาดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 65 ล้านคนจะเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาท้องถิ่นรวมประมาณ 18,000 ตำแหน่ง การเลือกตั้งครั้งนี้นายเฟอร์ดินันด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส มีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งถึงร้อยละ 30 โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดหลังยุคบิดาถูกโค่นอำนาจในปี 2529 และหาเสียงโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก เขาไม่ได้ชูนโยบายที่มีความแตกต่างชัดเจน คาดว่าจะสานต่อนโยบายของประธานาธิบดีโรดริโก […]

มะนิลา 8 พ.ค.- ตำรวจฟิลิปปินส์เผยวันนี้ว่า บรรยากาศโดยรวมของประเทศก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันจันทร์ค่อนข้างสงบ แม้เกิดเหตุยิงและเหตุทำผิดเกี่ยวกับเลือกตั้งที่เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกัน โฆษกตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า ช่วงหนึ่งวันก่อนวันเลือกตั้งถือว่าการเตรียมการและสถานการณ์ต่าง ๆ ค่อนข้างสงบ ตำรวจพบการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 16 คดีนับตั้งแต่เริ่มมีการหาเสียงเลือกตั้ง ในจำนวนนี้มีเหตุยิง 2 คดีระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนผู้สมัครท้องถิ่นที่เป็นอริกัน ถือว่าเป็นเครื่องชี้วัดที่ดี เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งปี 2559 ที่พบการกระทำผิดมากถึง 133 คดี และการเลือกตั้งกลางสมัยในปี 2562 ที่พบการกระทำผิด 60 คดี ส่วนการจับกุมผู้ฝ่าฝืนข้อห้ามการเลือกตั้งเกี่ยวกับการพกพาอาวุธปืนมีมากกว่า 3,000 ครั้ง ถือว่าต่ำมาก เพราะมีการรณรงค์อย่างจริงจังให้ยึดอาวุธผิดกฎหมายที่กลุ่มติดอาวุธอาจนำไปใช้ก่อเหตุ ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งชาวฟิลิปปินส์จำนวน 65 ล้านคน จากประชากรกว่า 112 ล้านคน จะเลือกประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาท้องถิ่นในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม การหาเสียงเลือกตั้งนาน 3 เดือนสิ้นสุดลงเมื่อวันเสาร์ นายเฟอร์ดินันด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ วัย […]

มะนิลา 8 พ.ค.- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์จะลงจากตำแหน่งวาระ 6 ปี ที่เป็นมาตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2559 เมื่อฟิลิปปินส์ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ในการเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม หนึ่งในนโยบายต่างประเทศสำคัญของดูเตอร์เตที่หันมาสนิทสนมกับจีนจะเปลี่ยนไปหรือไม่ภายใต้ผู้นำคนใหม่ เป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีอ้างผลสำรวจหลายสำนักว่า ชาวฟิลิปปินส์ยังคงมีความรู้สึกไม่ไว้ใจจีน และอาจทำให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปีนี้ต้องคิดหนัก มาสำรวจท่าทีในเรื่องนี้ของผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมมากที่สุด 3 อันดับแรก เฟอร์ดินันด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ : เป็นมิตรกับจีนหนึ่งในประเด็นขัดแย้งที่สุดระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนคือ คำชี้ขาดเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ของศาลอนุญาโตตุลาการที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ปี 2559 ศาลไม่ยอมรับการที่จีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และชี้ขาดว่าน่านน้ำบางส่วนที่ทั้งฟิลิปปินส์และจีนอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อน เป็นของฟิลิปปินส์เท่านั้น มาร์กอส จูเนียร์ ให้สัมภาษณ์หลายครั้งในเดือนมกราคมปีนี้ว่า ยินดีพักเรื่องคำชี้ขาดนี้เพื่อติดต่อสัมพันธ์กับจีนต่อไป แต่ในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ทางโทรทัศน์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขากล่าวว่าอยากให้ฟิลิปปินส์ประจำกำลังทหารในทะเลจีนใต้ เพื่อแสดงให้จีนเห็นว่าฟิลิปปินส์กำลังปกป้องน่านน้ำของตนเอง แต่จะไม่ใช้ทางออกทางทหารเป็นวิธีแรกในการแก้ไขความขัดแย้งกับจีน และจะหาทางที่ถูกต้องต่อไปในการสานสัมพันธ์กับจีน ขณะเดียวกันจะรักษาสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างระมัดระวังด้วย เลนี โรเบรโด : ไม่เดินตามนโยบายดูเตอร์เตเธอไม่เห็นด้วยกับนโยบายของดูเตอร์เต และสนับสนุนให้ฟิลิปปินส์แสดงจุดที่ยืนแข็งกร้าวขึ้นต่อจีน สื่ออ้างว่าเธอจะดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระและครอบคลุม ไม่อิงประเทศใดเป็นพิเศษ แต่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งกับสหรัฐ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และประเทศในอาเซียน ส่วนประเด็นทะเลจีนใต้นั้น […]

ผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เร่งรณรงค์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายในวันนี้ ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ หวังกระตุ้นคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด 10 คน แต่มีผู้สมัครที่เป็นที่จับตามองเพียง 5 คนเท่านั้น