สิงคโปร์จะไม่กักตัวคนจากอีก 8 ประเทศถ้าฉีดวัคซีนครบ

สิงคโปร์จะอนุญาตให้นักเดินทางต่างชาติจากอีก 8 ประเทศ ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดส เข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นไป ตามนโยบายผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และเดินหน้าสู่ยุทธศาสตร์ใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด

คาดปลายปีนี้ไทยฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกได้ 85%

อธิบดีกรมควบคุมโรค คาดปลายปีนี้ไทยฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกได้ 85% สิ้นเดือน ต.ค.กระจายซิโนแวคครบเพื่อฉีดกระตุ้นสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา คาดขึ้น พ.ย.เริ่มสูตรใหม่แอสตราเซเนกา-ไฟเซอร์ พร้อมย้ำวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นภูมิ คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันยังระบุให้รับ 1 โดส ไม่ใช่ครึ่งโดส เพราะไม่มีอะไรการันตีภูมินานกว่า หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ฉีดวัคซีนครึ่งโดส 555 บาท

ผู้ใหญ่มาเลเซียเกือบ 94% ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว

ผู้ใหญ่ในมาเลเซียฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสแล้วเกือบร้อยละ 94 จนถึงเมื่อวานนี้

ซิดนีย์คลายมาตรการคุมโควิดมากขึ้นหลังฉีดวัคซีนทะลุเป้า

ซิดนีย์ 18 ต.ค. – นครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย อนุญาตให้เด็กนักเรียนกลับไปเรียนในโรงเรียนได้อีกครั้งตั้งแต่วันนี้ หลังต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์จากบ้านเป็นเวลาหลายเดือน อีกทั้งยังผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ มากขึ้น เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ประกาศวันนี้ว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในสำนักงาน และจะอนุญาตให้ผู้คนรวมตัวกันในบ้านหรือนอกบ้านได้มากขึ้น หลังจากที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 80 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ร้านค้า ผับ และโรงออกกำลังกาย ได้รับอนุญาตให้รับจำนวนลูกค้าที่ฉีดวัคซีนมากขึ้น ส่วนไนต์คลับสามารถเปิดร้านให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้ และประชาชนสามารถจัดงานแต่งงานได้โดยไม่จำกัดจำนวนแขก อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดนี้ยังคงต้องเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 265 คน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์และลดลงจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เคยมีสูงถึง 1,599 คนในเดือนกันยายน ขณะที่รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,903 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 1,838 คน นครเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐจะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันศุกร์นี้ เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนใกล้ถึงร้อยละ 70 ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 145,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า […]

ซิดนีย์จะเลิกกักตัวนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดส

นครซิดนีย์ของออสเตรเลียจะยกเลิกการใช้มาตรการกักตัวในกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบหลังออสเตรเลียใช้มาตรการปิดพรมแดนมาเป็นเวลากว่า 19 เดือน

ญี่ปุ่นวางแผนเริ่มฉีดวัคซีนเข็มสามก่อนสิ้นปีนี้

โตเกียว 12 ต.ค.-รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ประชาชนภายในปีนี้ นายโยชิฮิโกะ อิโซซากิ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงวันนี้ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามให้ประชาชนก่อนสิ้นปีนี้ และกำลังหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญในประเด็นเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ประชาชนกลุ่มใดควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนและวิธีการจัดสรรวัคซีน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องการสร้างความมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่สามจะเป็นไปอย่างราบรื่นตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ประชาชนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่องเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เขาวางแผนที่จะใช้งบประมาณจัดซื้อวัคซีนเข็มที่สามเพื่อนำมาฉีดให้ประชาชน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ จะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้ญี่ปุ่นอีก 120 ล้านโดสตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค ระบุว่า นับจนถึงวันอังคารมีชาวญี่ปุ่นฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดโดสแรกแล้วร้อยละ 74 และฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 65 จากประชากรทั้งหมด 126 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

บุคลากรทางการแพทย์-ครูนิวซีแลนด์ต้องฉีดวัคซีนครบโดส

เวลลิงตัน 11 ต.ค.- นิวซีแลนด์ประกาศให้ครูและผู้ทำงานด้านสาธารณสุขและดูแลคนพิการต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ครบโดสภายในเวลาที่ทางการกำหนด นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นแถลงวันนี้ว่า นิวซีแลนด์กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่จัดการยากและท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในการรับมือกับโรคโควิด-19 แต่ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้วสำหรับการดำเนินชีวิตในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะลดมาตรการจำกัดและให้เสรีภาพมากขึ้นทันทีที่คนฉีดวัคซีนมากขึ้น ด้านนายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีรับมือโควิดแถลงว่า ผู้ทำงานด้านสาธารณสุขและดูแลคนพิการจะต้องฉีดวัคซีนครบโดสภายในวันที่ 1 ธันวาคม ส่วนครูและเจ้าหน้าที่พัฒนาเด็กเล็กจะต้องฉีดวัคซีนครบโดสภายในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า จนถึงขณะนี้ชาวนิวซีแลนด์ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราว 2 ล้าน 3 แสน 8 หมื่นคน คิดเป็นร้อยละ 57 ของประชากรที่เข้าเกณฑ์ ทางการรับปากว่า จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ทันทีที่อัตราฉีดถึงร้อยละ 90 การประกาศบังคับฉีดวัคซีนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 คนในวันนี้ ทั้งหมดอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ลดลงจาก 60 คนเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมจากการระบาดระลอกปัจจุบันอยู่ที่ 1,622 คน และยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดเมื่อต้นปีก่อนอยู่ที่กว่า 4,600 คน เสียชีวิต 28 คน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์-สหรัฐเตรียมเปิดโครงการเดินทางสำหรับผู้ฉีดวัคซีนโควิดครบโดส

วอชิงตัน 8 ต.ค. – สิงคโปร์กำลังประสานงานกับสหรัฐเพื่อเปิดโครงการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสก่อนสิ้นปีนี้ นายกัน คิม ยง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ กล่าวในงานกิจกรรมของหอการค้าสหรัฐที่จัดขึ้นในกรุงวอชิงตันว่า สิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเดินทาง จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อกับทั่วโลกต่อไปท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งยังระบุว่า สิงคโปร์ประสบความสำเร็จจากการเปิดโครงการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสกับเยอรมนีและบรูไน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสที่เดินทางมายังสิงคโปร์ด้วยเหตุผลทางธุรกิจและพักผ่อน ขณะนี้สิงคโปร์กำลังประสานงานกับสหรัฐเพื่อเปิดโครงการดังกล่าวโดยเร็วที่สุดและคาดว่าจะเริ่มได้ก่อนสิ้นปีนี้ ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ได้เปิดโครงการเดินทางสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสกับเยอรมนีและบรูไนเมื่อวันที่ 8 กันยายน และอนุญาตให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนจากเยอรมนีหรือบรูไนเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องเข้ารับการตรวจโควิดด้วยวิธีเก็บตัวอย่างเชื้อจากจมูก (swab) หรือพีซีอาร์ เป็นเวลาหลายครั้งแทน นอกจากนี้ ผู้เดินทางจะต้องอยู่ในบรูไนหรือเยอรมนีเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 21 วันก่อนออกเดินทางมายังสิงคโปร์.-สำนักข่าวไทย

ไฟเซอร์ยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี

วอชิงตัน 8 ต.ค. – ไฟเซอร์เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ยื่นเอกสารให้สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ พิจารณาอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีนดังกล่าว ไฟเซอร์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ขณะนี้สหรัฐพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การยื่นเรื่องขออนุมัติใช้วัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กจึงเป็นย่างก้าวสำคัญเพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เอฟดีเอมีกำหนดประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาอิสระเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะทำให้เริ่มฉีดวัคซีนดังกล่าวในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งมีประชากรราว 28 ล้านคน ได้ภายในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ก่อนหน้านี้ เอฟดีเอได้อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์เป็นกรณีฉุกเฉินในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปี และอนุมัติใช้เต็มรูปแบบในผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ส่วนไฟเซอร์เผยข้อมูลเมื่อวันที่ 20 กันยายนจากผลการทดลองทางคลินิกที่มีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 2,200 คนว่า วัคซีนของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า การอนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์อย่างรวดเร็วในกลุ่มเด็กเล็กจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากการเปิดโรงเรียนทั่วประเทศและการเข้าสู่ฤดูหนาวในสหรัฐที่ทำให้เกิดกิจกรรมภายในอาคารมากขึ้น ทั้งนี้ หากเอฟดีเออนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์ ก็จะทำให้วัคซีนดังกล่าวกลายเป็นวัคซีนขนานแรกในสหรัฐที่ได้รับการอนุมัติใช้ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี.-สำนักข่าวไทย

เผยประเทศในทวีปแอฟริกาฉีดวัคซีนโควิดได้แค่ 2%

บราซซาวิล 1 ต.ค. – องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประเทศในทวีปแอฟริกากว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 54 ประเทศมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสเพียงร้อยละ 2 หรือต่ำกว่านั้น องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีเพียง 15 ประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีอัตราฉีดวัคซีนครบสองโดสไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของประชากรแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายอัตราฉีดวัคซีนร้อยละ 10 ทั่วโลกภายในวันที่ 30 กันยายนที่สมัชชาอนามัยโลกตั้งไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ขณะที่นายริชาร์ด มิฮิโก ผู้ประสานงานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดขององค์การอนามัยโลกประจำทวีปแอฟริกา กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าทวีปแอฟริกามีอัตราฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายฉีดวัคซีนครบสองโดสร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ที่องค์การอนามัยโลกตั้งไว้ แม้ทวีปแอฟริกาจะได้รับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น แต่แผนส่งมอบวัคซีนที่คลุมเครือยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่ทำให้การฉีดวัคซีนของทวีปดังกล่าวไม่คืบหน้า ทั้งนี้ ทวีปแอฟริกาได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 23 ล้านโดสในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 เท่าจากจำนวนวัคซีนที่ได้รับในเดือนมิถุนายน องค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกาที่มีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดสูงกว่าร้อยละ 10 เป็นประเทศที่มีประชากรน้อย เช่น มอริเชียส ซึ่งมีประชากร 1.2 ล้านคน และเซเชลส์ ซึ่งมีประชากร 98,000 คน มีอัตราฉีดวัคซีนสูงกว่าร้อยละ […]

มาเลเซียบังคับลูกจ้างรัฐบาลฉีดวัคซีนโควิด

มาเลเซียออกข้อกำหนดให้ลูกจ้างทั้งหมดของรัฐบาลมาเลเซียต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยยกเว้นผู้ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลในด้านสุขภาพเท่านั้น

สายการบินสหรัฐจะเลิกจ้างพนักงานที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด

นิวยอร์ก 29 ก.ย. – สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ของสหรัฐ จะเลิกจ้างพนักงานเกือบ 600 คนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ระบุว่า มีพนักงาน 593 คนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด และมีอีก 2,000 คนที่ยื่นเรื่องขอรับการยกเว้นจากข้อกำหนดฉีดวัคซีน เนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา ซึ่งคิดเป็นอัตราร้อยละ 3 จากพนักงานทั้งหมดราว 67,000 คนของสายการบิน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ รู้สึกพอใจกับภาพรวมของการใช้นโยบายฉีดวัคซีน โดยได้ประกาศข้อกำหนดให้พนักงานชาวอเมริกันทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนและส่งไฟล์เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนผ่านระบบของสายการบินในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ กำลังดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายสำหรับพนักงานที่ยื่นขอยกเว้นฉีดวัคซีน โดยระบุว่าศาลกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในขณะเดียวกัน บันทึกข้อความของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ที่เผยแพร่ในองค์กรระบุว่า สายการบินจะปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงกับสหภาพแรงงานในกรณีที่ต้องเลิกจ้างพนักงานที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน ทั้งยังระบุว่า หากยังมีพนักงานต่ำกว่าร้อยละ 1 ที่ตัดสินใจไม่ฉีดวัคซีน สายการบินจะเริ่มกระบวนการคัดแยกคนเหล่านี้ออกจากสายการบินตามนโยบายที่ตั้งไว้ เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกมาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย

1 7 8 9 10 11 27
...