ซิดนีย์ 18 ต.ค. – นครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย อนุญาตให้เด็กนักเรียนกลับไปเรียนในโรงเรียนได้อีกครั้งตั้งแต่วันนี้ หลังต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์จากบ้านเป็นเวลาหลายเดือน อีกทั้งยังผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ มากขึ้น เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น
รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ประกาศวันนี้ว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในสำนักงาน และจะอนุญาตให้ผู้คนรวมตัวกันในบ้านหรือนอกบ้านได้มากขึ้น หลังจากที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 80 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ร้านค้า ผับ และโรงออกกำลังกาย ได้รับอนุญาตให้รับจำนวนลูกค้าที่ฉีดวัคซีนมากขึ้น ส่วนไนต์คลับสามารถเปิดร้านให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้ และประชาชนสามารถจัดงานแต่งงานได้โดยไม่จำกัดจำนวนแขก อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดนี้ยังคงต้องเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 265 คน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์และลดลงจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เคยมีสูงถึง 1,599 คนในเดือนกันยายน ขณะที่รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,903 คน เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ที่มี 1,838 คน นครเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐจะยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันศุกร์นี้ เพราะมีอัตราฉีดวัคซีนใกล้ถึงร้อยละ 70 ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 145,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน. -สำนักข่าวไทย