กลุ่มกบฏในรัฐคะยาอ้างยิงเครื่องบินทหารเมียนมาตก

กองทัพเมียนมาและกลุ่มกบฏในรัฐคะยา ทางตะวันออกของเมียนมา เผยตรงกันว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพตกระหว่างที่มีการปะทะกัน โดยที่กลุ่มกบฏอ้างว่าเป็นฝ่ายยิงเครื่องบินตก

อิสราเอลโจมตีที่ตั้งกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย

กองทัพอิสราเอลแจ้งวันนี้ว่า ฝูงบินขับไล่ได้โจมตีเป้าหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ตอบโต้ที่มีการยิงข้ามพรมแดนจากซีเรียมายังที่ราบสูงโกลัน

กลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉานปิดถนนไปจีน ทำสินค้าแพง

ย่างกุ้ง 11 พ.ย.- เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานจับมือกันโจมตีกองทัพเมียนมาและปิดถนนสายสำคัญไปยังจีน 2 สาย ทำให้การค้าข้ามพรมแดนหยุดชะงัก ส่งผลให้สินค้าราคาแพงขึ้น รัฐบาลขาดรายได้จากภาษี และขาดการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ การสู้รบในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาดำเนินมา 2 สัปดาห์แล้ว และทำให้มีคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คนตามข้อมูลของสหประชาชาติ ชาวเมืองมูเซ (Muse) ที่มีพรมแดนติดกับจีนเผยว่า ไม่มีรถบรรทุกสินค้าเข้ามาตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ทั้งที่ปกติจะเข้ามาวันละหลายร้อยคันเพื่อนำผักผลไม้ไปจีนและนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ยา สินค้าอุปโภคบริโภคกลับมาจากจีน โดยได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่และยิงปืนปะทะอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ชาวเมืองล่าเสี้ยว (Lashio) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 160 กิโลเมตรเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการสู้รบเรื่องสินค้าราคาแพงขึ้น ข้าวสาร 1 กระสอบได้ปรับราคาขึ้นจาก 160,000 จ๊าต (ราว 2,766 บาท) เป็น 190,000 จ๊าต (ราว 3,284 บาท) หากการสู้รบยืดเยื้อ พวกเขาจะยิ่งลำบาก ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุว่า ช่วงเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ด่านข้ามแดนมูเซและด่านข้ามแดนชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) เป็นช่องทางการค้าข้ามพรมแดนของเมียนมามากกว่า […]

เหตุสู้รบในรัฐฉานทำคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คน

ย่างกุ้ง 10 พ.ย.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นแจ้งว่า เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้มีคนพลัดถิ่นแล้วเกือบ 50,000 คน สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมยูเอ็นหรือยูเอ็นโอซีเอชเอ (UNOCHA) แถลงว่า นับจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน มีคนเกือบ 50,000 คนในรัฐฉานถูกบังคับให้ต้องพลัดถิ่น ขณะที่บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานไม่สามารถใช้การได้ เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งยังมีมาตรการจำกัดการเดินทางและการใช้เงินสดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของกลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance) อ้างเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า สามารถยึดฐานที่ตั้งของกองทัพเมียนมาในรัฐฉานได้สิบกว่าแห่ง และปิดเส้นทางค้าสำคัญกับจีน ยูเอ็นโอซีเอชเอเผยด้วยว่า มีคนอีก 40,000 […]

รก.ปธน.เมียนมาเตือนประเทศจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

รักษาการประธานาธิบดีเมียนมาเตือนว่า เมียนมากำลังเสี่ยงที่จะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องจากรัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น

เจาะเศรษฐกิจรัฐฉานที่เมียนมากำลังรบกับกลุ่มชาติพันธุ์

ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- รัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมา เป็นจุดที่กองทัพเมียนมากำลังสู้รบกับพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ข้อมูลของสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่า การสู้รบในรัฐฉาน ทางเหนือเมียนมา ทำให้มีคนพลัดถิ่นมากกว่า 23,000 คน และมีที่ตั้งทางทหารของกองทัพถูกยึดหลายสิบแห่ง รัฐนี้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมียนมา ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-16 ต่อมาในยุคที่พม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อังกฤษได้ให้อำนาจปกครองตนเองแก่รัฐฉาน และสร้างเมืองหลวงฤดูร้อนชื่อ เมย์เมียวกลางเนินเขาที่เย็นสบาย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพินอูลวินหลังได้รับเอกราช และเป็นที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยของกองทัพเมียนมา เนินเขาในรัฐฉานเคยเป็นแหล่งปลูกต้นฝิ่นแหล่งใหญ่ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแหล่งผลิตเมตแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามข้อมูลของยูเอ็น ขณะเดียวกันรัฐฉานยังเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมกับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน มีท่อลำเลียงก๊าซและน้ำมันจากแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งของเมียนมาไปยังจีน 2 ท่อ และมีธุรกิจล่าสุดคือ เป็นที่ตั้งของอาชญากรหลอกลวงออนไลน์ที่ถูกกล่าวหาว่า ลักพาตัวหรือล่อลวงชาวจีนและคนหลายประเทศไปทำงาน ยูเอ็นเผยว่า มีคนอย่างน้อย 120,000 คน ถูกกักตัวตามศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในรัฐฉานและอีกหลายแห่งในเมียนมา.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาประกาศโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉาน

ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า กองทัพจะโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่บุกโจมตีในรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ยึดเมือง และปิดเส้นทางการค้ากับจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ. อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่อของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กล่าวต่อสมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐว่า รัฐบาลจะรุกโต้กลับกลุ่มติดอาวุธ หลังจากสมาชิกของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) โจมตีค่ายความมั่นคงท้องถิ่นและสำนักงานระดับจังหวัดในเขตปกครองตนเองโกก้างในรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีน ผู้นำเมียนมายังได้กล่าวหากองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ในรัฐคะฉิ่นที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของรัฐฉานว่า โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและฐานทัพ พร้อมกับเตือนว่ากองทัพจะตอบโต้คืน กองทัพเมียนมาสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ของในรัฐฉานมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุาคม นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการท้าทายกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการรัฐประหารครั้งล่าสุด โฆษกรัฐบาลทหารเผยเมื่อวันพุธว่า กองทัพได้สูญเสียการควบคุมเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉาน เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่จีนเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้หยุดยิงทันทีในรัฐฉาน ซึ่งมีโครงการสร้างรางรถไฟเชื่อมในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้ฝ่ายที่ปะทะกันทางเหนือของเมียนมาหยุดยิงทันที

จีนกล่าววันนี้เรียกร้องให้หยุดยิงในทันทีทางภาคเหนือของเมียนมาที่กลุ่มชาติพันธุ์ปะทะกับทหารเมียนมา หลังจากที่กองทัพเมียนมา กล่าวว่า สูญเสียการควบคุมเมืองทางยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศจีน จากการปะทะกับกลุ่มติดอาวุธ 3 กลุ่มที่เป็นชนกลุ่มน้อย

เมียนมาเสียการควบคุมเมืองชายแดนติดกับยูนนานของจีน

ย่างกุ้ง 2 พ.ย.- กองทัพเมียนมากล่าวว่า เมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองยุทธศาสตร์ทางเหนือของประเทศที่มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของจีน หลังจากปะทะกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มมาเป็นเวลาหลายวัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงเมื่อค่ำวันพุธว่า รัฐบาล หน่วยงานบริหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้อยู่ในเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉานแล้ว เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กองทัพเมียนต่อสู้กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ที่อ้างว่าสามารถยึดที่ตั้งทางทหารของกองทัพได้หลายแห่ง และยึดถนนเชื่อมเมียนมากับจีนได้หลายสาย สหประชาชาติวิตกว่า จะมีประชาชนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นเพราะการสู้รบ และบางส่วนได้หนีข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน เมียนมามีโครงการสร้างทางรถไฟมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในรัฐฉาน อันเป็นส่วนหนึ่งในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเมียนมา สื่อทางการเมียนมารายงานเมื่อเดือนกันยายนอ้างข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ว่า เดือนเมษายน-กันยายนปีนี้ เมียนมามีการค้าข้ามพรมแดนกับจีนมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว ล้านบาท) ในจำนวนนี้มากกว่า 1 ใน 4 เป็นการค้าผ่านเมืองชินฉ่วยฮ่อที่กองทัพเมียนมาเสียการควบคุมแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเพิ่มมาตรการลงโทษเมียนมา

วอชิงตัน 1 พ.ย. – ทางการสหรัฐเพิ่มมาตรการลงโทษบริษัทน้ำมันของเมียนมา หวังตัดเส้นทางการเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการลงโทษบริษัทน้ำมันและก๊าซที่เป็นของรัฐบาลเมียนมา เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้จากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐบาลทหารเมียนมา โดยจะสั่งห้ามการให้บริการทางการเงินบางอย่าง รวมทั้งการลงทุนและการปล่อยกู้จากบุคคลของสหรัฐให้แก่บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเมียนมา สหรัฐกล่าวหาว่า กองทัพเมียนมาได้เงินจากบริษัทน้ำมันปีละหลายร้อยล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ทำรัฐประหารในปี 2564 การตัดช่องทางการเงินของบริษัทดังกล่าวเพื่อลดทอนขีดความสามารถของกองทัพเมียนมาในการจัดซื้ออาวุธจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร กระทรวงการคลังสหรัฐยังระบุด้วยว่า มีการร่วมมือกับอังกฤษและแคนาดาในการลงโทษบริษัท 3แห่ง และบุคคลอีก 5 รายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำเข้าอาวุธจากรัสเซียในนามของกองทัพเมียนมา ด้านนายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า มาตรการลงโทษนี้เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับความพยายามของสหรัฐในการลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาที่จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่โหดร้าย พร้อมกันนี้สหรัฐยังเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมกันหามาตรการยับยั้งไม่ให้อาวุธ รวมทั้งเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินและสินทรัพย์ใดๆ ตกไปถึงมือของรัฐบาลทหารเมียนมาด้วย.-สำนักข่าวไทย

ยืนยัน ไม่ยุบ กอ.รมน.-ชมกองทัพแบ่งที่ดินให้ ปชช.

นายกฯ ยืนยัน ไม่มีความตั้งใจยุบ กอ.รมน. ไม่อยู่ในนโยบายรัฐบาล ชมกองทัพเดินหน้า “หนองวัวซอโมเดล” แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 25 ธ.ค.นี้

เมียนมาจับอดีต รมว.สารสนเทศ

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.- รัฐบาลทหารเมียนมาแจ้งวันนี้ว่า ได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีสารสนเทศและตั้งข้อหาส่งเสริมให้มีคนไม่เห็นด้วยกับกองทัพ นับเป็นบุคคลสาธารณะที่ถูกจับกุมเป็นรายล่าสุด รัฐบาลทหารเมียนมาแถลงว่า นายเย ทุต วัย 64 ปี อดีตรัฐมนตรีสารสนเทศและโฆษกประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีเต็ง เส่งที่ปกครองเมียนมาระหว่างปี 2554-2559 ถูกควบคุมตัวเมื่อค่ำวันเสาร์เนื่องจากพัวพันกับการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ แหล่งข่าวเผยว่า เขาถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 505 ที่ห้ามการกระทำใด ๆ ก็ตามที่ถือว่าสั่นคลอนกองทัพ มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ช่องเทเลแกรมที่สนับสนุนรัฐบาลเมียนมากล่าวหาเขาว่า นำที่อยู่ของนายทหารเกษียณราชการไปเปิดเผยในสื่อสังคมออนไลน์ นายเย ทุตได้รับฉายาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งว่า รัฐมนตรีเฟซบุ๊ก เพราะมักโพสต์ข้อความต่าง ๆ ผ่านเฟซบุ๊กที่ช่วงนั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่สุดในประเทศ และหลังจากที่เกษียณราชการแล้ว เขายังคงโพสต์อย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องท่องเที่ยว ล่าสุดเขาโพสต์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมเป็นเรื่องไปเที่ยวทะเลสาบอินเล แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมียนมา กองทัพเมียนมาเผชิญการใช้กำลังต่อต้านตั้งแต่รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนางออง ซาน ซู จีในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และในช่วงหลายเดือนมานี้ได้จับกุมเจ้าหน้าที่การค้าและพาณิชย์หลายคน ในขณะที่ความไม่สงบในประเทศได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

1 5 6 7 8 9 33
...