ย่างกุ้ง 10 พ.ย.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นแจ้งว่า เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้มีคนพลัดถิ่นแล้วเกือบ 50,000 คน
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมยูเอ็นหรือยูเอ็นโอซีเอชเอ (UNOCHA) แถลงว่า นับจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน มีคนเกือบ 50,000 คนในรัฐฉานถูกบังคับให้ต้องพลัดถิ่น ขณะที่บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานไม่สามารถใช้การได้ เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งยังมีมาตรการจำกัดการเดินทางและการใช้เงินสดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของกลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่
กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance) อ้างเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า สามารถยึดฐานที่ตั้งของกองทัพเมียนมาในรัฐฉานได้สิบกว่าแห่ง และปิดเส้นทางค้าสำคัญกับจีน
ยูเอ็นโอซีเอชเอเผยด้วยว่า มีคนอีก 40,000 คนต้องพลัดถิ่นเพราะการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับฝ่ายต่อต้านในภาคสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือและรัฐคะฉิ่น ทางเหนือสุดของประเทศ มาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน.-สำนักข่าวไทย