เลขายูเอ็นห่วงความขัดแย้งในเมียนมาที่ขยายวง

นิวยอร์ก 16 พ.ย.- นายอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น มีความกังวลอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งในเมียนมาที่ขยายวงกว้าง หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเปิดฉากโจมตีกองทัพเมื่อเดือนตุลาคม โฆษกเลขาธิการยูเอ็นแถลงเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า นายกูแตร์เรสมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความขัดแย้งในเมียนมาที่ขยายวงกว้าง ทำให้มีคนพลัดถิ่นมากกว่า 200,000 คน การสู้รบในเมียนมารุนแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม เมื่อกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาหรือเอ็มเอ็นดีเอเอ (MNDAA) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือทีเอ็นแอลเอ (TNLA) และกองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) เปิดฉากโจมตีกองทัพในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาที่มีพรมแดนติดกับจีน และเมื่อไม่กี่วันก่อนเอเอได้เปิดฉากโจมตีกองทัพในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตก ขณะที่กลุ่มนักรบต่อต้านรัฐบาลในรัฐคะยาที่มีพรมแดนติดกับไทยกำลังสู้รบกับกองทัพใกล้เมืองลอยก่อ (Loikaw) ที่เป็นเมืองเอกของรัฐ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือโอซีเอชเอ (OCHA) อ้างรายงานเบื้องต้นจากภาคสนามว่า มีพลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 75 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย และมีคนได้รับบาดเจ็บ 94 คน.-สำนักข่าวไทย

สู้รบเมียนมาทำชาวบ้านเดือดร้อน

นิวยอร์ก 16 พ.ย.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุ ชาวบ้านกว่า 200,000 คนในเมียนมา ต้องอพยพจากบ้านเรือนและไร้ที่อยู่อาศัย หลังเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือโอซีเอชเอ (OCHA) ระบุว่า มีชาวบ้านกว่า 200,000 คนในรัฐฉาน ชิน คะยา และรัฐมอญของเมียนมา ต้องอพยพจากบ้านเรือนและไร้ที่อยู่อาศัย หลังเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มในหลายพื้นที่ของเมียนมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้ว ผู้อพยพบางส่วนทะลักเข้าไปในพรมแดนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ขณะที่มีพลเรือนเสียชีวิตจากการปะทะอย่างน้อย 75 ราย บาดเจ็บอีกเกือบ 100 คน นักรบของกองทัพอาระกัน พร้อมด้วยกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง จับมือต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลเมียนมา ในรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศที่ติดกับพรมแดนจีน มาตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม จนสามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารจากรัฐบาลได้แล้วกว่า 140 แห่ง  นอกจากนี้ ยังมีกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ปะทะกับทหารกองทัพเมียนมาในอีกหลายพื้นที่ รวมถึงรัฐชิน และรัฐคะยา ถือเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่สุดของรัฐบาลทหารเมียนมา นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำสหรัฐและจีนจะหารือเรื่องรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางทหาร

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าววันอาทิตย์ว่า การรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างกองทัพสหรัฐและจีนเป็นประเด็นสำคัญในการพูดคุยสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เมื่อเขาพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันพุธนี้

กลุ่มกบฏในรัฐคะยาอ้างยิงเครื่องบินทหารเมียนมาตก

กองทัพเมียนมาและกลุ่มกบฏในรัฐคะยา ทางตะวันออกของเมียนมา เผยตรงกันว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพตกระหว่างที่มีการปะทะกัน โดยที่กลุ่มกบฏอ้างว่าเป็นฝ่ายยิงเครื่องบินตก

อิสราเอลโจมตีที่ตั้งกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย

กองทัพอิสราเอลแจ้งวันนี้ว่า ฝูงบินขับไล่ได้โจมตีเป้าหมายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย ตอบโต้ที่มีการยิงข้ามพรมแดนจากซีเรียมายังที่ราบสูงโกลัน

กลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉานปิดถนนไปจีน ทำสินค้าแพง

ย่างกุ้ง 11 พ.ย.- เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานจับมือกันโจมตีกองทัพเมียนมาและปิดถนนสายสำคัญไปยังจีน 2 สาย ทำให้การค้าข้ามพรมแดนหยุดชะงัก ส่งผลให้สินค้าราคาแพงขึ้น รัฐบาลขาดรายได้จากภาษี และขาดการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ การสู้รบในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาดำเนินมา 2 สัปดาห์แล้ว และทำให้มีคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คนตามข้อมูลของสหประชาชาติ ชาวเมืองมูเซ (Muse) ที่มีพรมแดนติดกับจีนเผยว่า ไม่มีรถบรรทุกสินค้าเข้ามาตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ทั้งที่ปกติจะเข้ามาวันละหลายร้อยคันเพื่อนำผักผลไม้ไปจีนและนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ยา สินค้าอุปโภคบริโภคกลับมาจากจีน โดยได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่และยิงปืนปะทะอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ชาวเมืองล่าเสี้ยว (Lashio) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 160 กิโลเมตรเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการสู้รบเรื่องสินค้าราคาแพงขึ้น ข้าวสาร 1 กระสอบได้ปรับราคาขึ้นจาก 160,000 จ๊าต (ราว 2,766 บาท) เป็น 190,000 จ๊าต (ราว 3,284 บาท) หากการสู้รบยืดเยื้อ พวกเขาจะยิ่งลำบาก ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุว่า ช่วงเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ด่านข้ามแดนมูเซและด่านข้ามแดนชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) เป็นช่องทางการค้าข้ามพรมแดนของเมียนมามากกว่า […]

เหตุสู้รบในรัฐฉานทำคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คน

ย่างกุ้ง 10 พ.ย.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นแจ้งว่า เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้มีคนพลัดถิ่นแล้วเกือบ 50,000 คน สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมยูเอ็นหรือยูเอ็นโอซีเอชเอ (UNOCHA) แถลงว่า นับจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน มีคนเกือบ 50,000 คนในรัฐฉานถูกบังคับให้ต้องพลัดถิ่น ขณะที่บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานไม่สามารถใช้การได้ เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งยังมีมาตรการจำกัดการเดินทางและการใช้เงินสดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของกลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance) อ้างเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า สามารถยึดฐานที่ตั้งของกองทัพเมียนมาในรัฐฉานได้สิบกว่าแห่ง และปิดเส้นทางค้าสำคัญกับจีน ยูเอ็นโอซีเอชเอเผยด้วยว่า มีคนอีก 40,000 […]

รก.ปธน.เมียนมาเตือนประเทศจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

รักษาการประธานาธิบดีเมียนมาเตือนว่า เมียนมากำลังเสี่ยงที่จะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องจากรัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น

เจาะเศรษฐกิจรัฐฉานที่เมียนมากำลังรบกับกลุ่มชาติพันธุ์

ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- รัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมา เป็นจุดที่กองทัพเมียนมากำลังสู้รบกับพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ข้อมูลของสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่า การสู้รบในรัฐฉาน ทางเหนือเมียนมา ทำให้มีคนพลัดถิ่นมากกว่า 23,000 คน และมีที่ตั้งทางทหารของกองทัพถูกยึดหลายสิบแห่ง รัฐนี้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมียนมา ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-16 ต่อมาในยุคที่พม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อังกฤษได้ให้อำนาจปกครองตนเองแก่รัฐฉาน และสร้างเมืองหลวงฤดูร้อนชื่อ เมย์เมียวกลางเนินเขาที่เย็นสบาย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพินอูลวินหลังได้รับเอกราช และเป็นที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยของกองทัพเมียนมา เนินเขาในรัฐฉานเคยเป็นแหล่งปลูกต้นฝิ่นแหล่งใหญ่ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแหล่งผลิตเมตแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามข้อมูลของยูเอ็น ขณะเดียวกันรัฐฉานยังเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมกับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน มีท่อลำเลียงก๊าซและน้ำมันจากแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งของเมียนมาไปยังจีน 2 ท่อ และมีธุรกิจล่าสุดคือ เป็นที่ตั้งของอาชญากรหลอกลวงออนไลน์ที่ถูกกล่าวหาว่า ลักพาตัวหรือล่อลวงชาวจีนและคนหลายประเทศไปทำงาน ยูเอ็นเผยว่า มีคนอย่างน้อย 120,000 คน ถูกกักตัวตามศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในรัฐฉานและอีกหลายแห่งในเมียนมา.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาประกาศโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉาน

ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า กองทัพจะโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่บุกโจมตีในรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ยึดเมือง และปิดเส้นทางการค้ากับจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ. อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่อของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กล่าวต่อสมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐว่า รัฐบาลจะรุกโต้กลับกลุ่มติดอาวุธ หลังจากสมาชิกของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) โจมตีค่ายความมั่นคงท้องถิ่นและสำนักงานระดับจังหวัดในเขตปกครองตนเองโกก้างในรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีน ผู้นำเมียนมายังได้กล่าวหากองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ในรัฐคะฉิ่นที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของรัฐฉานว่า โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและฐานทัพ พร้อมกับเตือนว่ากองทัพจะตอบโต้คืน กองทัพเมียนมาสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ของในรัฐฉานมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุาคม นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการท้าทายกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการรัฐประหารครั้งล่าสุด โฆษกรัฐบาลทหารเผยเมื่อวันพุธว่า กองทัพได้สูญเสียการควบคุมเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉาน เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่จีนเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้หยุดยิงทันทีในรัฐฉาน ซึ่งมีโครงการสร้างรางรถไฟเชื่อมในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้ฝ่ายที่ปะทะกันทางเหนือของเมียนมาหยุดยิงทันที

จีนกล่าววันนี้เรียกร้องให้หยุดยิงในทันทีทางภาคเหนือของเมียนมาที่กลุ่มชาติพันธุ์ปะทะกับทหารเมียนมา หลังจากที่กองทัพเมียนมา กล่าวว่า สูญเสียการควบคุมเมืองทางยุทธศาสตร์ทางตอนเหนือที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศจีน จากการปะทะกับกลุ่มติดอาวุธ 3 กลุ่มที่เป็นชนกลุ่มน้อย

เมียนมาเสียการควบคุมเมืองชายแดนติดกับยูนนานของจีน

ย่างกุ้ง 2 พ.ย.- กองทัพเมียนมากล่าวว่า เมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองยุทธศาสตร์ทางเหนือของประเทศที่มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของจีน หลังจากปะทะกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มมาเป็นเวลาหลายวัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงเมื่อค่ำวันพุธว่า รัฐบาล หน่วยงานบริหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้อยู่ในเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉานแล้ว เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กองทัพเมียนต่อสู้กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ที่อ้างว่าสามารถยึดที่ตั้งทางทหารของกองทัพได้หลายแห่ง และยึดถนนเชื่อมเมียนมากับจีนได้หลายสาย สหประชาชาติวิตกว่า จะมีประชาชนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นเพราะการสู้รบ และบางส่วนได้หนีข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน เมียนมามีโครงการสร้างทางรถไฟมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในรัฐฉาน อันเป็นส่วนหนึ่งในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเมียนมา สื่อทางการเมียนมารายงานเมื่อเดือนกันยายนอ้างข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ว่า เดือนเมษายน-กันยายนปีนี้ เมียนมามีการค้าข้ามพรมแดนกับจีนมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว ล้านบาท) ในจำนวนนี้มากกว่า 1 ใน 4 เป็นการค้าผ่านเมืองชินฉ่วยฮ่อที่กองทัพเมียนมาเสียการควบคุมแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 34
...