ตำรวจแคนาดาจับ 2 แกนนำม็อบประท้วงมาตรการโควิด

ออตตาวา 18 ก.พ. – ตำรวจในกรุงออตตาวาของแคนาดาได้จับกุมแกนนำ 2 คนของม็อบรถบรรทุกประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ในขณะที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมในฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มผู้ประท้วง สถานีโทรทัศน์ซีบีซี นิวส์ ของแคนาดา รายงานว่า ตำรวจแคนาดาได้จับกุมตัวสองแกนนำ 2 คนของม็อบรถบรรทุกประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ได้แก่ ทามารา ลิช และคริส บาร์เบอร์ เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าทั้งสองคนจะถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ตำรวจได้สลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงที่ปิดกั้นสะพานข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐที่เมืองวินเซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดาได้เรียบร้อยแล้ว หลังรัฐบาลแคนาดาประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินเป็นครั้งแรกได้เพียงไม่กี่วัน อย่างไรก็ดี ตำรวจยังไม่ได้นำกำลังเข้าไปสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงที่เหลือในกรุงออตตาวาเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี แม้ว่าในเบื้องต้นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกรุงออตตาวาได้ออกมาเตือนว่า ตำรวจได้เตรียมแผนการไว้แล้วในกรณีที่กลุ่มผู้ประท้วงยังไม่ยอมออกจากพื้นที่โดยสันติ การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นก่อนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่มักเกิดการรวมตัวกันของผู้ประท้วงกลุ่มหลักและผู้ประท้วงที่กระจายตัวตามจุดต่าง ๆ ในกรุงออตตาวา ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ให้เหตุผลที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินว่า กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิดเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชนแคนาดา รวมถึงความสัมพันธ์กับสหรัฐ ด้าน ส.ส. ฝ่ายค้านแคนาดาหลายรายกล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีทรูโดว่า การใช้กฎหมายดังกล่าวของรัฐบาลมีแต่จะทำให้สถานการณ์ประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินคุมม็อบประท้วงโควิด

ออตตาวา 15 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ประกาศใช้พระราชบัญญัติฉุกเฉิน (Emergencies Act) เพื่อปราบปรามกลุ่มม็อบคนขับรถบรรทุกที่ชุมนุมต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล โดยที่กฎหมายดังกล่าวมีผลให้ธนาคารสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าวได้ นายกรัฐมนตรีทรูโด กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินในครั้งนี้มีระยะเวลาจำกัด สมเหตุสมผล และสมควรต่อเหตุการณ์ แต่จะไม่สั่งให้ทหารลงพื้นที่ ธนาคารจะสามารถอายัดบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ที่เชื่อมโยงกับการประท้วงดังกล่าวได้ การใช้กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ชาวแคนาดาและปกป้องการทำงานของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วง นอกจากนี้ ตำรวจแคนาดาจะได้รับอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อจับกุม ปรับเงิน หรือปกป้องระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งนี้ การประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีทรูโดมีขึ้นในขณะที่การประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในแคนาดายืดเยื้อมานาน 3 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงออตตาวาเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เธอไม่สนใจการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉุกเฉินของรัฐบาลแคนาดา ไม่มีภัยคุกคามใดจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหวาดกลัว และทุกคนจะยืนหยัดชุมนุมต่อไป ส่วนนายดั๊ก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการใช้กฎหมายดังกล่าวของรัฐบาล แต่ยังมีมุขมนตรีอีกหลายรัฐ เช่น รัฐควิเบก รัฐแมนิโทบา รัฐแอลเบอร์ตา และรัฐซัสแคตเชวันที่ระบุว่า […]

ตำรวจแคนาดาสลายม็อบประท้วงโควิดปิดสะพานได้แล้ว

ออตตาวา 14 ก.พ. – ตำรวจแคนาดาสลายม็อบรถบรรทุกปิดสะพานหลักที่เป็นเส้นทางสัญจรเชื่อมระหว่างแคนาดากับสหรัฐได้แล้ว หลังม็อบดังกล่าวได้ชุมนุมขัดขวางการเดินทางในเส้นทางดังกล่าวมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลแคนาดา ตำรวจแคนาดาระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่หลงเหลืออยู่หลายสิบคนในความผิดฐานสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือกระทำการก่อกวน รวมถึงได้เคลื่อนย้ายรถบรรทุกหลายคันออกจากพื้นที่โดยที่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาขัดขวาง ทั้งนี้ ตำรวจแคนาดาได้พยายามสลายการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากยอมออกจากพื้นที่โดยสันติหลังตำรวจประกาศคำสั่งให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลงเหลืออยู่หลายสิบคนจนทำให้ตำรวจต้องจับกุมผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกัน ตำรวจเมืองวินเซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐ ระบุผ่านทวิตเตอร์แจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสะพานแอมบาสเดอร์ เนื่องจากยังคงมีคำสั่งบังคับใช้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมและตำรวจจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้ ตำรวจสามารถควบคุมเส้นทางสัญจรที่สะพานดังกล่าวได้แล้ว แต่ยังคงไม่เปิดสะพาน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า กลุ่มคนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาได้ออกมาชุมนุมต่อต้านข้อกำหนดใช้ใบรับรองฉีดวัคซีนโควิดของรัฐบาลเพื่อเดินทางข้ามพรมแดนจนทำให้เส้นทางการค้าที่สะพานแอมบาสเดอร์เป็นอัมพาต ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาของศาลแคนาดาได้ออกคำสั่งเมื่อวันศุกร์ให้สลายการชุมนุมดังกล่าว แต่ยังคงมีผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาตำหนิม็อบรถบรรทุกปิดถนน-สะพานเชื่อมสหรัฐ

ออตตาวา 10 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ตำหนิการชุมนุมของม็อบคนขับรถบรรทุกที่ปิดเส้นทางสัญจรในกรุงออตตาวาและสะพาน 2 แห่งที่เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐว่าเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ ในขณะที่ตำรวจแคนาดาขู่ว่าจะจับกุมแกนนำม็อบรถบรรทุกที่ชุมนุมต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีทรูโดกล่าวเตือนในรัฐสภาแคนาดาหลังจากที่ม็อบรถบรรทุกชุมนุมยืดเยื้อมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ว่า การปิดกั้นสะพานสำคัญ 2 แห่งที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างแคนาดากับสหรัฐของกลุ่มคนขับรถบรรทุกนั้นเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด การปิดกั้นเส้นทางสัญจรและการชุมนุมโดยผิดกฎหมายเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ และจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อธุรกิจและบริษัทผู้ผลิตสินค้า ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดาจะทำทุกวิถีทางเพื่อยุติการชุมนุมของม็อบรถบรรทุกให้ได้ ขณะนี้ กลุ่มคนขับรถบรรทุกยังคงจอดรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายร้อยคันปิดกั้นเส้นทางในย่านใจกลางกรุงออตตาวาจนทำให้การจราจรเป็นอัมพาต ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงออตตาวา ซึ่งประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ระบุว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ประท้วงได้อีกต่อไป ส่วนตำรวจกรุงออตตาวาระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ชุมนุมคนใดที่ปิดกั้นเส้นทางสัญจรหรือให้ความช่วยเหลือในการกระทำดังกล่าวอาจถูกตั้งข้อหากระทำความผิดทางอาญา ทั้งนี้ แคนาดามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 3.1 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 35,000 คน โดยมีประชาชนกว่าร้อยละ 80 ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส และมีชาวแคนาดาวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 50 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบรรทุกแคนาดาปิดเส้นทางขนส่งหลักข้ามพรมแดนสหรัฐ

ออตตาวา 9 ก.พ. – เส้นทางขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐกับแคนาดาที่คับคั่งที่สุดยังคงถูกปิดเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังม็อบรถบรรทุกชาวแคนาดานำรถมาปิดกั้นเส้นทางสัญจรตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลแคนาดา นายมาร์โก เมนดิชิโน รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของแคนาดา เผยว่า เขาได้รับการติดต่อจากนายกเทศมนตรีเมืองวินด์เซอร์ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้และมีพรมแดนติดสหรัฐ รวมถึงบรรดา ส.ส. ท้องถิ่นเกี่ยวกับเหตุปิดกั้นเส้นทางสัญจรที่สะพานแอมบาสเดอร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งไปยังเมืองดีทรอยต์ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐ ทั้งยังระบุว่า ทางการแคนาดาจะเร่งแก้ไขปัญหานี้เพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานเคลื่อนผ่านสะพานดังกล่าวได้ ทั้งนี้ แคนาดามีอัตราส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐสูงถึงร้อยละ 75 และมีรถบรรทุกวิ่งผ่านสะพานแอมบาสเดอร์ราววันละ 8,000 คัน ในขณะเดียวกัน รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกรุงออตตาวาของแคนาดา เผยว่า ตำรวจได้สกัดรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันไม่ให้เดินทางไปเข้าร่วมปิดกั้นเส้นทางสัญจรดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า ขบวนรถบรรทุกที่ปักหลักประท้วงมาตรการคุมโควิดร้อยละ 25 จากทั้งหมด 418 คันในย่านใจกลางกรุงออตตาวามีเด็กเล็กอยู่ในรถ ซึ่งทำให้ตำรวจรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเด็กที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว การบีบแตรเสียงดัง การสูดควันพิษที่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และปัญหาด้านสุขลักษณะ ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์หลังต้องกักตัวเพราะติดเชื้อโควิดมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ โดยระบุว่า คนขับรถบรรทุกต้องหยุดการประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิดของรัฐบาล และเน้นย้ำในวันอังคารว่า รัฐบาลแคนาดาจะใช้แนวทางควบคุมโรคตามหลักวิทยาศาสตร์.-สำนักข่าวไทย

เมืองหลวงแคนาดาประกาศภาวะฉุกเฉินคุมม็อบรถบรรทุก

ออตตาวา 7 ก.พ. – กรุงออตตาวาของแคนาดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการชุมนุมประท้วงยาวนานหลายสัปดาห์ของม็อบคนขับรถบรรทุกที่ต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 จนทำให้การสัญจรในกรุงออตตาวาเป็นอัมพาต นายจิม วัตสัน นายกเทศมนตรีกรุงออตตาวา เผยกับสถานีวิทยุท้องถิ่นของแคนาดาว่า สถานการณ์ในเมืองอยู่นอกเหนือการควบคุมแล้ว กลุ่มผู้ประท้วงมีพฤติกรรมที่ไม่ยำเกรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการบีบแตร เปิดไซเรน จุดพลุ และจัดงานเลี้ยงกลางถนน เป็นภัยต่อผู้อาศัยในเมือง จำนวนผู้ประท้วงมีมากกว่าจำนวนตำรวจ กรุงออตตาวากำลังจะพ่ายแพ้ในการควบคุมการชุมนุมดังกล่าว เขาจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และต้องทำให้กรุงออตตาวากลับคืนสู่สภาพเดิม อย่างไรก็ดี นายวัตสันไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้ ทั้งนี้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะทำให้ทางการกรุงออตตาวามีอำนาจเพิ่มเติม เช่น ได้รับอุปกรณ์ที่บุคลากรแนวหน้าและหน่วยบริการฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้ ด้านตำรวจกรุงออตตาวาระบุว่า เจ้าหน้าที่จะยกระดับข้อบังคับต่าง ๆ เช่น การจับกุมผู้ที่พยายามช่วยเหลือกลุ่มผู้ประท้วง ขณะที่แถลงการณ์ของกรุงออตตาวาระบุว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสะท้อนถึงอันตรายรุนแรงและภัยคุกคามต่อความปลอดภัยและความมั่นคงต่อประชาชนที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมที่ยาวนาน และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลแคนาดา ในขณะเดียวกัน ชาวกรุงออตตาวาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงดังกล่าว และพากันร้องเรียนในกรณีที่มีกลุ่มคนขับรถบรรทุกนำรถมาจอดกีดขวางเส้นทางจราจรและในสวนสาธารณะของเมือง ซึ่งทำให้ประชาชนสูญเสียรายได้และหวั่นเกรงว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการล่วงละเมิดและความรุนแรงขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ชาวแคนาดาส่วนใหญ่สนับสนุนข้อกำหนดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของรัฐบาลแคนาดา โดยมีประชาชนร้อยละ 83 ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส จากประชากรทั้งหมด 38 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

สิงห์รถบรรทุกแคนาดาประท้วงบังคับฉีดวัคซีน

โทรอนโต 24 ม.ค.- ขบวนรถบรรทุกในแคนาดาเคลื่อนจากนครแวนคูเวอร์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าไปยังกรุงออตตาวา เพื่อประท้วงรัฐบาลที่บังคับให้คนขับรถบรรทุกต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขบวนรถบรรทุกภายใต้ชื่อ Freedom Convoy 2022 ระดมทุนผ่านเพจ gofundme จนถึงวันอาทิตย์ได้ 2 ล้าน 7 แสนดอลลาร์แคนาดา (ราว 70 ล้านบาท) เพื่อนำไปเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอาหารและค่าที่พัก คาดว่าขบวนรถบรรทุกจะเดินทางถึงกรุงออตตาวาในวันที่ 29 มกราคม แคนาดาประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนให้คนขับรถบรรทุกต้องฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม คนขับชาวแคนาดาที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเมื่อขับกลับมาจากสหรัฐจะต้องตรวจหาเชื้อและกักตัว สมาคมธุรกิจขนส่งด้วยรถบรรทุกของแคนาดาหรือซีทีเอ (CTA) เผยว่า การค้าแคนาดา-สหรัฐมีมูลค่าปีละ 650,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 17 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้กว่า 2 ใน 3 ขนส่งด้วยรถบรรทุก คำสั่งบังคับฉีดวัคซีนอาจทำให้คนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาและชาวอเมริกันมากถึง 32,000 คน คิดเป็น 1 ใน 5 ของทั้งหมด 160,000 คนไม่สามารถขับรถส่งสินค้าได้ […]

รัฐควิเบกของแคนาดาจะเก็บภาษีพิเศษคนไม่ฉีดวัคซีนโควิด

ควิเบก 12 ม.ค. – รัฐควิเบกของแคนาดาจะเก็บภาษีสุขภาพจากกลุ่มผู้ที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในขณะที่รัฐควิเบกมีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโรคโควิดทำสถิติสูงสุดในประเทศและพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก นายฟร็องซัว เลอโกลต์ มุขมนตรีรัฐควิเบก แถลงเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดโดสแรกจะต้องจ่ายภาษีพิเศษ ทางการยังไม่ได้ตัดสินใจใช้มาตรการดังกล่าว แต่เห็นความจำเป็นในการทำเช่นนั้น เขาคิดว่าการกระทำของประชาชนบางส่วนที่ไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วถึงร้อยละ 90 และการใช้มาตรการนี้จะทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ในขณะเดียวกัน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า แม้รัฐควิเบกมีประชาชนเพียงร้อยละ 12 ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด แต่ก็พบผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบครึ่งหนึ่งมาจากคนกลุ่มนี้ ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลกลางแคนาดาระบุว่า มีชาวรัฐควิเบกกว่าร้อยละ 85 ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรกนับถึงวันที่ 1 มกราคม รัฐควิเบกรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 8,710 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 62 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว ก่อนที่รัฐควิเบกจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน ขณะนี้ รัฐควิเบกมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 12,000 คน ส่วนแคนาดามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 30,900 คน.-สำนักข่าวไทย

แคนาดาไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

แคนาดาจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เดินทางเข้าประเทศต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพราะรัฐบาลไม่อยากให้เกิดความเสี่ยงต่อสถานการณ์ควบคุมการระบาดในประเทศ

แคนาดาแนะให้ฉีดวัคซีนชนิด mRNA เป็นโดสสอง

ออตตาวา 18 มิ.ย. – คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันแห่งชาติแคนาดา (NACI) แนะนำประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกของแอสตราเซเนกาแล้ว ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสสองของวัคซีนชนิด mRNA เช่น ไฟเซอร์/ไบโอเอนเทค หรือโมเดอร์นาได้ คำแนะนำล่าสุดของคณะกรรมการที่ปรึกษาภูมิคุ้มกันแห่งชาติแคนาดาเป็นผลมาจากการพิจารณาหลักฐานเมื่อเร็ว ๆ นี้ของภาวะลิ่มเลือดอุดตันชนิดหายากที่เชื่อมโยงกับวัคซีนของแอสตราเซเนกา และการจัดหาวัคซีนชนิด mRNA ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ได้พิจารณาหลักฐานใหม่ที่แนะนำการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกของแอสตราเซเนกาและได้รับวัคซีนโดสสองของวัคซีนชนิด mRNA ทั้งยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA เป็นวัคซีนโดสแรก สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโดสสองเป็นวัคซีนขนานเดิม หรือวัคซีนชนิด mRNA อีกขนาน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ได้ระบุในข้อกำหนดว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาครบสองโดส สามารถมั่นใจได้ว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้ดี รวมถึงป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ดีมาก ดร. เทเรซา แทม หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแคนาดา กล่าวว่า มีการศึกษามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเยอรมนี ที่ชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สองโดสคนละขนานกัน และทางการสาธารณสุขแคนาดาจะติดตามประเด็นนี้ต่อไป เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้แนวทางดังกล่าว ขณะนี้ แคนาดาฉีดวัคซีนโดสแรกของแอสตราเซเนกาให้แก่ประชาชน 2.1 ล้านคน […]

รัฐแอลเบอร์ตาในแคนาดาจะฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป

แอลเบอร์ตา 6 พ.ค. – รัฐแอลเบอร์ตาจะเป็นรัฐแรกในแคนาดาที่นำวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มาฉีดให้แก่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม หลังจากเมื่อวานนี้รัฐบาลท้องถิ่นได้ประกาศใช้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดขึ้น เพื่อควบคุมการระบาดระลอกที่สาม นายเจสัน เคนนีย์ มุขมนตรีรัฐแอลเบอร์ตาจากพรรคอนุรักษ์นิยมแห่งแคนาดาประกาศว่า รัฐแอลเบอร์ตาจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม เขายังเน้นย้ำว่า ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อทำให้แนวโน้มยอดผู้ป่วยติดเชื้อลดลงเป็นครั้งสุดท้าย ขณะนี้แนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้ระบบสาธารณสุขของรัฐแอลเบอร์ตาไม่พอรองรับผู้ป่วยภายในอีก 1 เดือน ขณะที่ทางการรัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมสำคัญของแคนาดา รายงานเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2,271 คน พุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไม่ถึงวันละ 200 คนในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้รัฐแอลเบอร์ตามีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสูงสุดในแคนาดา โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวเกือบ 24,000 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนัก 146 คน ทั้งนี้ มาตรการครั้งใหม่ของรัฐแอลเบอร์ตาจะทำให้โรงเรียนต้องทำการสอนผ่านระบบออนไลน์ และลานจำหน่ายอาหารต้องปิดบริการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ นายเคนนีย์ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากการประกาศข้อความด้านสาธารณสุขที่สับสน เนื่องจากการระบาดระลอกที่สามในแคนาดาที่เปลี่ยนจากรัฐออนแทรีโอไปเป็นรัฐแอลเบอร์ตา ขณะที่เมื่อวานนี้รัฐแอลเบอร์ตาพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ทั้งนี้ แคนาดาได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 […]

รัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดาพบผู้เสียชีวิตจากลิ่มเลือดอุดตัน

รัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดาเผยว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา

1 2
...