แก้ รธน.

“จุรินทร์” ประกาศชัด จุดยืนประชาธิปัตย์ ไม่แก้ ม.112 สั่งทีมกฎหมาย ยกร่างแก้ รธน.รายมาตรา มอง ม.256 เป็นกุญแจดอกใหญ่ ต้องสะเดาะเปิดประตูสู่ประชาธิปไตย

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.-ฝ่ายค้านยืนยันไม่ทบทวนเรื่องร่วมกรรมการสมานฉันท์ ชี้ ที่ผ่านมา ข้อเสนอไม่เคยได้รับการตอบสนอง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ฝ่ายค้านยังคงมติไม่ส่งคนเข้าร่วมเป็นกรรมการสมานฉันท์ และจะยังไม่ทบทวนในเรื่องนี้ ซึ่งจากการพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลและวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองแล้ว เห็นว่าที่ผ่านมาข้อเรียกร้อง ทั้งของฝ่ายค้านและผู้เห็นต่างไม่เคยได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลแม้แต่ข้อเดียว ทั้งเรื่องขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หยุดคุกคามประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่าที่ดูแล้วเหมือนไม่อยากแก้ จึงทำให้บรรยากาศการสร้างความปรองดองยิ่งแย่ลง ส่วนที่มองว่าหากฝ่ายค้านไม่ร่วม ก็จะขาดบทบาทในส่วนนี้นั้น เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความจริงฝ่ายค้านเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาและอยากให้เกิดความปรองดอง และอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า แต่เห็นว่าการตอบสนองของรัฐบาลมีปัญหา จึงตัดสินใจไม่เข้าร่วม.-สำนักข่าวไทย

ศาลรัฐธรรมนูญ 3 ธ.ค.-กลุ่มไทยภักดีร้องศาลรัฐธรรมนูญ เบรกแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2-3 ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ-ตัดสิทธิ์ ส.ว.-ไม่ทำประชามติ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ขอศาลสั่งประธานสภาฯ-ส.ส.ถอนระเบียบวาระ พร้อมสั่งเพิกถอนมติขั้นรับหลักการ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี พร้อมด้วย นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกไทยภักดี นำเอกสารหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีล้มล้างการปกครองด้วยการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ นพ.วรงค์ กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้กระทำการส่อเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเรากลุ่มไทยภักดีในฐานะผู้ทราบเหตุการณ์ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เมื่อเรายื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว 15 วัน อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ต่อ เราจึงใช้สิทธินี้ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง โดยมีเหตุผล 4 ข้อ คือ 1.การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่กำหนดในมาตรา 256 และมีการกำหนดให้การแก้รัฐธรรมนูญง่ายขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดสัดส่วนให้ ส.ว. และ ส.ส. แต่การแก้ไขครั้งนี้ได้ตัดสิทธิ์ ส.ว. และ ส.ส.ตามสัดส่วนออก จึงทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภา รวมทั้งมีการยกเลิกการทำประชามติในมาตราสำคัญ ๆ […]

ทำเนียบฯ 24 พ.ย.-“วิษณุ” ชี้กรอบเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา บางอย่างลดขั้นตอนได้ แต่บางอย่างลดไม่ได้ ย้ำอยากให้เป็นไปตามขั้นตอน เพื่อได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จเร็วกว่า 45 วัน เพื่อเร่งนำเรื่องตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) บรรจุเป็นวาระที่ 3 โดยรัฐบาลมองว่ากำหนดระยะเวลาไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของสภาฯ และระยะเวลาในการนำขึ้นทูลเกล้าฯ รวมถึงระยะเวลาในการทำประชามติ ส่วนที่จะเร่งรัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ อยู่ที่การเร่งพิจารณาของสภาฯ แต่บางอย่างจะเร่งรัดไม่ได้ เช่น การนำขึ้นทูลเกล้าฯ ที่ทรงมีเวลาในการพิจารณา หรือการทำประชามติที่จะต้องมีการรับฟังเสียงจากประชาชนตามขั้นตอน ดังนั้น บางอย่างสามารถลดเวลาได้ แต่บางอย่างไม่สามารถลดเวลาได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบเวลาที่ได้วางไว้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์มากที่สุด จึงขอให้ใจเย็น ๆ และให้เดินไปตามแนวขั้นตอนของรัฐสภาดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย

รัฐสภา 18 พ.ย.-“พิธา” วอนสมาชิกรับร่างไอลอว์ ให้อำนาจประชาชนสถาปนา รธน.ใหม่ ไม่ให้เหมือนกงล้อประวัติศาสตร์มาจากปลายกระบอกปืนและรัฐประหาร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนสุดท้ายของพรรคฝ่ายค้าน ว่า ต้องจารึกไว้ว่าเป็นวันที่ 2 ที่รัฐสภาและประชาชน พยายามให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับถาวรทั้งฉบับ เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดตั้งรัฐธรรมนูญใหม่ และไม่ให้รัฐธรรมนูญมาจากปลายกระบอกปืนของการทำรัฐประหารเพียงอย่างเดียว การเสนอร่างของไอลอว์ทำให้คิดถึงบรรยากาศครั้งแรกของประวัติศาสตร์การเมืองไทย คือ การรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญหลังพฤษภาคม 2535 ที่เป็นความหวังของความเป็นประชาธิปไตย หลังจากที่ไทยบอบช้ำจากรัฐประหารโดย รสช. ในขณะนั้น มีประชาชนสนับสนุนจำนวนมาก ภายใต้สัญลักษณ์ธงเขียว ที่บรรยากาศเหมือนขณะนี้ที่มีกลุ่มเสื้อเหลืองมาต่อต้าน แม้จะมีแรงต้านไม่น้อย จนเกิดรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นร่างที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีและประชาชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด พลังของประชาชนที่อยากเปลี่ยนแปลงบวกกับความจริงใจของผู้มีอำนาจ นายพิธา กล่าวอีกว่า ปี 2563 กงล้อประวัติศาสตร์ได้หมุนกลับมาอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2ที่รัฐสภาและประชาชนมีความพยายามให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนจาก รสช. เป็น คสช. เปลี่ยนจาก มาตรา 211 เป็น 256 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) […]

รัฐสภา 18 พ.ย.-“รังสิมันต์” รับร่างไอลอว์คงผ่านความเห็นชอบยาก สงสัยเจ้าหน้าที่หย่อนยาน ปล่อยม็อบตีกัน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่นายจอน อึ้งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ เสนอ น่าจะผ่านความเห็นชอบได้ยาก แต่หวังว่าจะใช้เวลา 30 นาทีที่เหลือในการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล โน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาให้รับร่างของไอลอว์เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นได้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการชุมนุมหน้ารัฐสภาเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ว่า ได้พยายามประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น แต่มีการฉีดน้ำแรงดันสูง และแก๊สน้ำตาหลังแบริเออร์ตลอดเวลา ส่วนตัวไม่สามารถเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ มีแก๊สน้ำตาฟุ้งไปทั่วบริเวณ จึงไม่เป็นบรรยากาศให้สถานการณ์คลี่คลายได้ “ผู้ชุมนุมอยากให้รัฐสภารับหลักการร่างของไอลอว์ แต่การกีดขวางการชุมนุมของตำรวจ ทำให้ต้องเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ปกป้องรัฐสภามากกว่าปกป้องผู้ชุมนุม อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเมื่อผู้ชุมนุม 2 ฝ่ายปะทะกัน เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไประงับเหตุ ซึ่งเป็นความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากเชื่อว่าอุปกรณ์เสพยาเสพติดเป็นของตำรวจ หลังพบในรถตำรวจ ซึ่งตำรวจต้องชี้แจงให้ชัดเจน” นายรังสิมันต์ กล่าว นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) […]

ทำเนียบฯ 16 พ.ย.-“พล.อ.ประวิตร” ระบุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเตรียมพร้อมดูแลการชุมนุมที่รัฐสภาของทั้ง 2 กลุ่มในวันพรุ่งนี้แล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มราษฏรและกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมใหญ่เพื่อติดตามการประชุมรัฐสภาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ร่าง ซึ่งรวมถึงร่างของภาคประชาชน (ไอลอว์) ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ว่า มีเจ้าหน้าที่และฝ่ายความมั่นคงดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยของการชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ส่วนการชุมนุมจะถือเป็นการกดดันหากร่างของไอลอว์ไม่ผ่านความเห็นชอบหรือไม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภาในการพิจารณา ขณะที่ในส่วนของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะมีการพูดคุยรายละเอียดกันทั้งหมดก่อนตัดสินใจ โดยปฏิเสธตอบว่าส่วนตัวได้ดูในรายละเอียดของร่างไอลอว์แล้วหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่าไม่รับร่างของไอลอว์นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่มติของพรรค เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวและถือเป็นความรับผิดชอบของคนพูดเอง.-สำนักข่าวไทย