สส.ภูมิใจไทย แจงจุดยืนหนุนเกณฑ์ผ่านประชามติ ด้าน “ประยุทธ์” ลุกซัด อีแอบ

รัฐสภา ​18 ธ.ค.-สส.ภูมิใจไทย ลุกแจงจุดยืนหนุนเกณฑ์ผ่านประชามติ เสียงข้างมาก 2 ชั้น ย้ำต้องมีความชอบธรรม ไม่เอาวิธีมักง่าย ด้าน “ประยุทธ์” ลุกซัด อีแอบ

ในการประชุมสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ… ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาแล้วเสร็จ และมีมติยืนยันในการแก้ไขเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น ที่วุฒิสภาแก้ไข ช่วงค่ำ พบการอภิปรายตอบโต้กันระหว่าง พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ต่อความเห็นต่างของการแก้ไขเกณฑ์ผ่านประชามติ


โดย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ฐานะกรรมาธิการร่วม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ตอนหนึ่งว่าที่มีพาดพิงว่า มี สส.บางคนงดออกเสียงในกรรมาธิการร่วม ไม่ต้องเดา เพราะเป็น ตนและนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ฐานะกรรรมาธิการร่วมสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคมีเจตนาและจุดยืนในหลักการสำคัญ คือ ต้องการให้เกิดมติที่แท้จริงของประชาชน โดยเสียงข้างมากของประชาชน ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยจึงเสนอร่างพ.ร.บ.ประชามติ ควรให้ประชาชนอย่างน้อยกึ่งหนึ่งออกมาใช้สิทธิเพื่อแสดงเจตจำนงเรื่องที่ขอมติ โดยเฉพาะแก้รัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายหลักเกี่ยวข้องกับคนในประเทศไทย ต้องการเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิมาก จนเรียกว่าเป็นฉันทามติ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยสู้ในสภาฯ แต่แพ้ ทั้งนี้พรรคภูมิใจเคารพในความเห็นต่าง

“มี สส. บอกว่าอยากเห็นแก้ไขกฎหมายประชามติไขไปสู่ประตูบานใหญ่ คือ รัฐธรรมนูญ เราเห็นด้วยรวมถึงต้องการไขประตูเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ไม่ใช่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ ทั้งนี้เราต้องการเห็นทางออกของปัญหา และต้องฟังความเห็นของประชาชน ทุกพรรคบอกว่าอยากให้ความสำคัญกับประชาชนและการแก้ไขโดยเร็ว ดังนั้นหากอยากให้แก้ไขโดยเร็ว ทำได้อย่างเดียวคือ เห็นชอบกับกรรมาธิการร่วม เพื่อให้กฎหมายผ่านและไม่เสียเวลาอีก 180 วัน แต่หากสภาฯ ยืนยันตามอำนาจ แต่ต้องรออีก 180 วัน ทั้งนี้การออกเสียงประชามติที่เป็นทางออกไม่ใช่ความง่ายหรือ สะดวก ผ่านประชามติอย่างง่าย แต่คือความชอบธรรมที่สะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ” นายกรวีร์ ชี้แจง


ขณะที่นายไชยชนก ชี้แจงด้วยว่า การใช้เกณฑ์ผ่านประชามติแบบง่าย จะพูดเต็มปากได้หรือไม่ว่า เป็นการตัดสินใจของประชาชน และจะได้รับการยอมรับจากคนไทยทั้งประเทศจริงหรือไม่ ทั้งนี้การตัดสินใจอย่างง่ายนั้นอาจเปิดช่องให้เสียงส่วนมากถูกมองข้าม อย่างไรก็ดีในเกณฑ์ผ่านประชามติที่เห็นต่าง ในสภาฯ พรรคภูมิใจไทยได้โหวตตามเสียงส่วนมาก แต่หลังจากนั้นได้นำคำถามไปถามประชาชน และได้รับผลตอบรับคือ ประชาชนเห็นว่ายังจำเป็นต้องมีเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งสองชั้น เพราะการทำประชามตินั้นมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นจึงต้องการความมั่นใจที่ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิที่มีปริมาณมากพอที่จะน่าเชื่อถือ

“มีกรรมาธิการบางคนบอกว่าหากใช้เกณฑ์สองชั้นอาจเกิดการรณรงค์ไม่ให้คนออกมาใช้สิทธิ และทำให้การออกเสียงเป็นโมฆะ ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้ เพราะการรณรงค์ไม่ให้ใช้สิทธินั้นผิดกฎหมาย ทั้งนี้การทำประชามติไม่ใช่ไม่มีเกณฑ์ อย่างไรก็ดีมีสส.พาดพิงมายังพรรคภูมิใจไทยจะงดออกเสียง และมองว่าไม่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องจริง และบอกว่าจะขวางแก้รัฐธรรมนูญ หากเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการจริงๆ และเห็นได้ชัด พรรคภูมิใจไทยไม่ขัดขวาง ทั้งนี้การลงมติรอบนี้พรรคภูมิใจไทยไม่งดออกเสียง แต่ขอยืนยันจุดยืนเดิม คือกระบวนการทำประชามติ คือ คืนอำนาจสู่สภาตัวแทนไปสู่เจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง เพื่อตัดสินใจสำคัญต้องมีเกณฑ์ โดยพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยอย่างยิ่งให้กระบวนการประชามติควรเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่มักง่ายในวิธีการ” นายไชยชนก ชี้แจง

ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมาธิการ ชี้แจงตอบโต้ว่า ตนไม่ตำหนิว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ บังเอิญวุฒิสภาไม่เห็นชอบกับร่างของสภาฯ สิ่งที่เกิดขึ้นตนมองออก เพราะเล่นการเมืองมานาน อายุตน 80 ปี อย่าพูดเอาหล่อเพื่อบิดเบือนการใช้กฎหมาย


“วันนั้นบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แก้ประชามติ ก็มาทำร่วมกัน แต่เมื่อสว. แก้ไขเรื่องสองชั้น กรณีต้องได้เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง หากมีอีแอบอยู่เบื้องหลังไม่ให้แก้ ไม่ให้ทำสำเร็จ อย่าเชื่อว่าเห็นชอบกับสว.แก้ไข จะมีรัฐธรรมนูญเร็ว ไมใช่ ผมระวังอีแอบไม่ให้มีการแก้ไขชาติหน้าตอนบ่ายๆ แก้ไม่ได้ คือ บิดเบือนคำพูด ที่ผมทนไม่ได้คือ ในกรรมาธิการมีฉากหน้าฉากหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ผมต่อสู้แล้ว แต่มีขาดตกบกพร่อง ซึ่งบอกเหตให้รู้” นายประยุทธ์ ชี้แจง

นายประยุทธ์ อภิปรายต่อว่า วันนั้นพูดเป็นเสียงเดียวกัน ไม่เหมือนวันนี้ ที่พูดคนละเสียงคนละโทน ทั้งนี้ เรารอได้ แม้จะเข้าองค์ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่มีผลยับยั้ง 180 วัน หากจะเอาปืนจ่อหัวให้ผมเห็นชอบก็ไม่ยอม ทั้งนี้หากยับยั้ง 180 วันแล้วหลังจากนั้น สภาฯยืนยันชนะ จะเข้าสู่กระบวนการประกาศใช้เป็นกฎหมาย ขอให้รอ แม้ว่าจะนาน แต่ตนมองว่าไม่นานเกินกว่าคนเขาป้อนคำหวานแล้วไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะตนระแวงอีแอบที่อยู่ข้างหลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]