สว. 153 เสียง ผ่านกฎหมายประชามติ ฉบับ กมธ.ร่วมฯ

รัฐสภา 17 ธ.ค.-สว. 153 เสียง ผ่านกฎหมายประชามติ ฉบับ กมธ.ร่วมฯ ยึดเสียงข้างมากสองชั้น “อังคณา” เชื่อ สส.ยึดหลักประชามติเสียงข้างมากชั้นเดียว ส่วน “นันทนา” ซัดอย่าดัดจริต อย่าสองมาตรฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการร่วมกัน พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมีมติเห็นชอบร่างแก้ไขของวุฒิสภา ที่แก้ไขด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เกณฑ์ผ่าน 2 ชั้น คือต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสัยงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ใช้เสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามติ


นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว.อภิปรายว่า การออกเสียงประชามติข้างมากชั้นเดียว เป็นที่นิยมในหลายประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่ใช้กรออกเสียงประชามติ 2 ชั้นที่สร้างปัญหา มากกว่าข้อดี และรูปแบบรัฐเป็นสหพันธรัฐ เพื่อไม่ให้รัฐใหญ่ใช้พวกมาลากไป แต่ประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จึงควรใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว พร้อมอ้างตัวอย่างการใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เหมือนการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ในปี 2559 ที่กฎหมายเดิมใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก2 ชั้น ก่อนมีการเปลี่ยนเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว เพราะเสียงข้างมาก 2 ชั้น ถูกรณรงค์ให้คว่ำง่ายมาก เมื่อ คสช.อยากให้รัฐธรรมนูญฉบับ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ผ่าน ก็มีการแก้ไขกฎหมาย กลับมาใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว

“เมื่อประชาชนอยากมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนบ้าง ก็มีการแก้ไขกฎหมายประชามติ กลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เสมือนเวลาโจรอยากมาขึ้นบ้าน ก็เอาบันไดมาพาด พอโจรขึ้นไปแล้ว ไม่อยากให้เจ้าของปีนตามขึ้นไป ก็ถีบบันไดทิ้ง” นายนรเศรษฐ์ กล่าว


นางอังคณา นีละไพจิตร สว. อภิปรายว่า ที่ผ่านมาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเรื่องประชามติ ล้วนเป็นการทำประชามติแบบเสียงข้างมากปกติทั้งสิ้น และวันนี้เราตอบคำถามกับประชาชนไม่ได้ว่าทำไมเราถึงใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำไมสว.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติ ที่จะให้กลับมาใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและประชาชนจับตามองโดยการแก้ไขให้กลับมาเป็นเสียงข้างมากปกติจะลดความซับซ้อนของการทำประชามติและนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับบริบทของสังคม และวันนี้บทบาทของวุฒิสภากำลังถูกจับตามองทั้งจากคนไทยและองค์การระหว่างประเทศ

“ดิฉันหวังว่า สว.จะพิจารณเรื่องนี้อย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะประชาชนกำลังจับตาว่าวุฒิสภากำลังทำอะไร มติจะออกมาอย่างไร การแก้ไขเพื่อใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ถึงแม้สว.ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับเสียงข้างมาก 2 ชั้น แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่า สส.จะยืนยันหลักการแก้ไขให้เป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว แม้จะรอระยะเวลาอีก 6 เดือนจึงจะสามารถประกาศใช้ นั่นไม่เป็นปัญหา และวุฒิสภาอาจจะถูกกล่าวหาว่าการยืนยันให้ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น อาจจะเป็นเพียงความต้องการที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าที่ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย“ นางอังคณา กล่าว

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายว่า ร่างกฎหมายประชามติ ถูกนำมาใช้เป็นเกมการเมือง เพื่อยืดเยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป จนไม่เห็นอนาคต และครั้งนี้หากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก 2 ชั้นซึ่งไม่เกินคาดหมาย และทางสภาผู้แทนราษฎรลงมติยืนยันเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ก็จะต้องใช้เวลาพักร่างกฎหมาย 180 วัน ซึ่งจะนานไปถึงกลางปี 2568 อย่างนี้เรียว่าเกมยึดเยื้อหรือไม่ แล้วทำไมต้องยึดเยื้อ


“เป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจหรือเปล่า ที่หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เร่งด่วน หลังจากนั้นการลงติของวุฒิสภาก็ยืดเยื้อไป การลงมติเช่นนี้เป็นไปตามใบสั่งของใครหรือไม่ดิฉันไม่ทราบ” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า หลักการเสียงเสียงข้างมากชั้นเดียวมีข้อดีมากมาย นักวิชาการจำนวนมากสนับสนุนเพราะเป็นไปตามหลักสากล สมาชิกก็แสดงเหตุผลนับสนุนเสียงข้างมากชั้นเดียวแล้ว แต่มาวันนี้ตนขอตอกย้ำและยืนยันการลงประชามติด้วยเสียงข้างมากชั้นเดียวอีกครั้ง คืออย่าสองมาตรฐาน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติมาด้วยเสียงข้างมากชั้นเดียว พอจะแก้ไขทำไมต้องใช้เสียงข้างมากสองชั้น และระบบการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและท้องถิ่นเป็นระบบเสียงข้างมากชั้นเดียว ทำไมประชามติจึงต้องแปลกแยก ขอถามว่าประเทศไทยเคยใช้วิธีการเลือกด้วยเสียงข้างมากสองชั้นหรือไม่ และอยากจะบอกว่าอย่าดัดจริต อย่าสองมาตรฐาน เราเป็นราชอาณาจักร ไม่ใช่สหพันธรัฐ หลักการประชาธิปไตยเช่นนี้ใช้เสียงข้างมากธรรมดา การลงมติของสมาชิกวุฒิสภา จะถูกจัดจำไปตลอดว่าท่านเป็นผู้สนับสนุนการปกครองในระบบประชาธิปไตยแบบอารยะ หรือท่านเป็นผู้เหนี่ยงรั้งการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย

นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกมธ.ร่วมกันฯ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ประชามติฉบับนี้มีรูรั่ว มีช่องว่าง ในกรณีหากสภาฯพิจารณาแล้วมีข้อสรุปว่าจะแก้รัฐธรรมนูญจะใช้เพียงแค่เสียงข้างมากชั้นเดียว จะไม่ใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้นเช่นเดียวกันกรณีที่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นฝ่ายเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะยึดเสียงข้างมากสองชั้น และตนยังมีคำถามว่ากรณีประชาชนเข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อเสนอต่อสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ แล้วสภาส่งต่อไปยังครม. ถามว่าต้องใช้หลักเกณฑ์ใดในการออกเสียงประชามติ ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือไม่

“วิปรัฐบาลมีมติไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ฉบับคณะกมธ.ร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่า 180วันรออยู่โดยนับแต่วันมะรืนนี้ เมื่อครบ180วัน ก็จะมีการนำเสนอเพื่อให้สภายืนยัน จากนั้นรอ 3 วัน และ5 วันเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในส่วนของการออกกฎหมายลูก เข้าใจว่ากกต.น่าจะใช้เวลา 1เดือน พอกฎหมายประกาศใช้ก็เชิญสำนักงบมาพูดคุยว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ เคาะมติครม. ต้องใช้เวลาไม่90-120 วัน โดยกระบวนการทั้งหมดประมาณ 10เดือนครึ่ง ผมคิดว่าเราจะได้ทำประชามติครั้งแรกในเดือน มค.69 จากนั้นเดือนก.พ. จึงจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 ด้งนั้น เรื่องที่ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี70 ลืมไปได้เลย เหมือนจะให้พระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันตก เกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเดือนเม.ย.69 คาดว่ามาตรา 256 จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา หากสว.ไม่ให้ผ่าน ซึ่งช่วงนั้นสภาปิด ก็ต้องรอวันที่ 3 ก.ค. เปิดสมัยประชุมสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ทัน เท่ากับสสร.ก็ไม่ได้ ถามว่าท่านจะแบกรับไหวหรือไม่” นายนิกร กล่าว

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ร่วมฯชี้แจงว่า หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้นในการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ เสี่ยงเปิดช่องให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการทำประชามติ ทำให้ฝ่ายที่ไม่อยากให้ประชามติผ่าน มีช่องทางใหม่เอาชนะการทำประชามติ แทนที่จะเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนไม่เห็นด้วย ก็ไปรณรงค์ให้ประชาชนนอนอยู่กับบ้าน ก็สามารถคว่ำประชามติได้ ที่ตลกร้ายกว่านั้น เกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้น จะทำให้ประชาชนมาใช้สิทธิออกเสียงน้อย เพราไม่อยากให้ประชามติผ่าน ขัดกับหลักการเสียงข้างมาก 2ชั้น ที่อยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเยอะๆ การลงมติของสว. หากต้องการยืนยันเสียงข้างมาก 2ชั้น ขอให้ลงมติสนับสนุนด้วยใจจริง อย่าลงมติเพียงเพื่อต้องการใช้กลไก ยุทธศาสตร์ ชะลอหรือขัดขวาง เพราะไม่อยากให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ

นายพิศิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะกมธ.ร่วมฯชี้แจงว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชนของนิด้าโพลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้นในการทำประชามติ มีเสียงเห็นด้วย 51.4%สนับสนุนให้ต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงในการทำประชามติ และเสียงอีก 59.84%เห็นด้วยจะต้องมีเสียงเห็นชอบทำประชามติเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ขอยืนยันว่า สว.ไม่มีเกมการเมืองในการยื้อแก้รัฐธรรมนูญ สว.ทุกคนมีอิสระในการคิด เลือก ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง การระบุว่า หากกฎหมายประชามติต้องยื้อการบังคับใช้ออกไป 180วัน อาจมีรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันการเลือกตั้งปี2570นั้น ถามว่า ใครเป็นผู้กำหนดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปี2570 และถ้าใช้รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันจริงๆ จะมีผลกระทบอะไรต่อประชาชน ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องรอง ส่วนการระบุว่า การใช้เสียงข้างมาก 2ชั้นเป็นการรณรงค์ให้คนนอนหลับทับสิทธินั้น ไม่เชื่อว่าจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนนอนหลับทับสิทธิ ไม่มีใครกล้าพูดแบบนี้แน่ เพราะบ่งบอกความไม่เป็นประชาธิปไตย สว.ไม่ต้องการพ.ร.บ.ประชามติที่ดีที่สุด แต่ต้องการได้พ.ร.บ.ประชามติที่ยืดหยุ่น สามารถนำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทั้งนี้เสียงข้างมาก 2ชั้น จะใช้เฉพาะกรณีแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่สว. อภิปรายแสดงความเห็นครบถ้วนแล้วได้ลงมติ ผลปรากฎว่า มติวุฒิสภา 153 เสียงเห็นด้วยกับกรรมาธิการร่วม ต่อ 24 เสียงและงดออกเสียง 13 เสียง ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไปต้องรอให้สภาฯลงมติในรายงานของกรรมาธิการร่วม ซึ่งสภาฯ ได้นัดลงมติวันที่ 18 ธ.ค.นี้ หาก สส. ลงมติแย้งกับสว. จะเป็นผลให้ ร่างพ.ร.บ.ประชามติ (ฉบับแก้ไข) ต้องถูกยับยั้งไว้ เป็นเวลา 180 วัน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]