โมเดอร์นาเผยฉีดวัคซีน 3 เข็ม กระตุ้นภูมิต้านโอไมครอนได้
วัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นามีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
วัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นามีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
สิงคโปร์ 21 ธ.ค. – กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เผยเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า ผลตรวจหาเชื้อโควิดในเบื้องต้นพบผู้ป่วยที่คาดว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2 คนที่มีความเชื่อมโยงกับโรงยิม และกำลังรอผลตรวจหาเชื้อดังกล่าวในผู้ป่วยอีก 1 คนที่เชื่อมโยงกับโรงยิมเช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า ทางการกำลังติดตามผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งสามคน ซึ่งมีอาการป่วยไม่รุนแรง ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส แต่ไม่ได้ระบุว่าผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือไม่ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการคาดว่าจะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื้อดังกล่าวแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายพื้นที่ทั่วโลกแล้ว ขณะนี้ สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 71 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 65 คน และผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 6 คน ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของทางการสิงคโปร์ระบุว่า มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสร้อยละ 87 และฉีดวัคซีนเข็มที่สามร้อยละ 34 จากประชากรทั้งหมด 5.5 ล้านคน สิงคโปร์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 195 คนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากสถิติสูงสุด 5,324 คนในช่วงปลายเดือนตุลาคม ขณะนี้ สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 276,000 คน และผู้เสียชีวิต 815 คน. […]
ซิดนีย์ 21 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะต้องก้าวข้ามการให้รัฐบาลใช้นโยบายแทรกแซงอย่างหนัก และยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่จะปิดกั้นไม่ให้ประชาชนได้มีชีวิตร่วมกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เดินหน้าทำสถิติใหม่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,600 คนในวันนี้ สูงกว่าสถิติเดิม 4,100 คนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันยืนยันกับสื่อว่า การจำกัดการแพร่ระบาดอยู่ที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลต้องมองว่า ประชาชนโตแล้ว ต้องเลิกใช้มาตรการแทรกแซงอย่างหนัก และเลิกบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคม รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ และจะเดินหน้านโยบายการมีชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสนี้อย่างมีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้ขอให้รัฐต่าง ๆ เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนอีกครั้งเพื่อฉีดเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากประชาชนวัย 16 ปี ขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 80 ด้านนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขเผยว่า แม้ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล และถึงแม้โรงพยาบาลมีผู้ป่วยมากขึ้น แต่ก็ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด.-สำนักข่าวไทย
เจนีวา 21 ธ.ค. – องค์การอนามัยโลกเตือนให้ยกเลิกจัดงานสังสรรค์หรือการเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทั่วโลก ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้คนทั่วโลกรู้สึกเบื่อหน่ายกับการระบาดของเชื้อโควิด ทุกคนต้องการใช้เวลาอยู่ร่วมกับเพื่อนฝูงและครอบครัว รวมถึงการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติดังเดิม แนวทางที่รวดเร็วที่สุดในตอนนี้เพื่อให้ทุกคนไปถึงจุดหมายนั้นก็คือ ผู้นำประเทศต้องตัดสินใจยกเลิกการจัดงานช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ส่วนประชาชนต้องยกเลิกแผนการเดินทางในช่วงดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องชีวิตของทุกคน เขามองว่า การประกาศยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานในตอนนี้ยังดีกว่าต้องมานั่งเสียใจเรื่องยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดในภายหลัง ดร. ทีโดรส ยังระบุว่า การระบาดของโรคโควิดอาจยุติลงภายในปีหน้า เนื่องจากจะมีประชากรร้อยละ 70 ของทุกประเทศทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสในช่วงกลางปีหน้า นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดมากขึ้น องค์การอนามัยโลกจำเป็นต้องเดินหน้าสืบสวนเรื่องนี้ต่อไปจนกว่าจะรู้ที่มาของโรคโควิดเพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาสำหรับการป้องกันโรคภัยอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน โซเมีย สวามินาตัน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การด่วนสรุปจากหลักฐานเบื้องต้นว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก พร้อมทั้งเตือนว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ระบบสาธารณสุขทั่วโลกเผชิญกับภาวะตึงตัวอีกครั้ง. -สำนักข่าวไทย
เวลลิงตัน 21 ธ.ค.- นิวซีแลนด์เลื่อนแผนการทยอยเปิดพรมแดนจากกลางเดือนมกราคมไปเป็นสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยอ้างเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพร่รวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก นายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของนิวซีแลนด์แถลงข่าววันนี้ว่า แผนการให้ชาวนิวซีแลนด์ในออสเตรเลียเดินทางกลับประเทศโดยไม่ต้องกักโรคเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพราะหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันชี้ว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่สามารถแพร่ได้ง่ายที่สุดในขณะนี้ แน่นอนว่าการตัดสินใจเลื่อนการเปิดพรมแดนได้สร้างความผิดหวังและกระทบแผนการท่องเที่ยว แต่นิวซีแลนด์จำเป็นต้องประกาศการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้เดินทางมีเวลาทบทวนแผนการเดินทาง นายฮิปกินส์ระบุด้วยว่า นิวซีแลนด์ออกมาตรการเป็นการป้องกันล่วงหน้า เนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะทำให้คนป่วยและจะมีผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขมากน้อยเพียงใด นอกจากเลื่อนกำหนดการเปิดพรมแดนแล้ว นิวซีแลนด์จะขยายเวลากักโรคจาก 7 วันเป็น 10 วัน และลดเวลาตรวจหาเชื้อก่อนออกเดินทางจาก 72 ชั่วโมง เป็น 48 ชั่วโมง นิวซีแลนด์ซึ่งใช้มาตรการจำกัดการระบาดเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเพิ่งเริ่มผ่อนคลายมาตการเมื่อไม่นานมานี้ เดิมกำหนดทยอยเปิดพรมแดนเป็น 3 ระยะ ระยะแรกให้ชาวนิวซีแลนด์ที่ฉีดวัคซีนครบโดสเดินทางมาจากออสเตรเลียได้ตั้งแต่เวลา 23:59 น.ของวันที่ 16 มกราคม 2565 ระยะที่ 2 ให้ชาวนิวซีแลนด์ที่ฉีดวัคซีนครบโดสเดินทางมาจากทุกประเทศได้ตั้งแต่เวลา 23:59 น.ของวันที่ 13 […]
ลอนดอน 20 ธ.ค.- นายโดมินิก ราบ รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยว่า อังกฤษมีผู้เสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 12 คน แต่ไม่ยอมตอบว่ารัฐบาลจะเข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมก่อนคริสต์มาสหรือไม่ นายราบเผยกับสถานีวิทยุไทมส์เรดิโอในวันนี้ว่า นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ 104 คน ต่อข้อถามเรื่องรัฐบาลจะออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมในช่วงก่อนคริสต์มาสหรือไม่ นายราบตอบว่า ไม่สามารถรับประกันได้อย่างหนักแน่นและทันที เพราะรัฐบาลประเมินสถานการณ์โดยอาศัยข้อมูลจริงเป็นหลัก และต้องใช้เวลาในการประเมินเรื่องความรุนแรงของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ทางการอังกฤษเคยเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ยอดผู้เข้าโรงพยาบาลอาจแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ และยังไม่เห็นผลกระทบเต็มตัวของการระบาดระลอกล่าสุด รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า การออกมาตรการจำกัดการรวมกลุ่มช่วงคริสต์มาสอาจส่งผลเสียทางการเมืองต่อนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่กำลังถูกสังคมตั้งคำถามว่า เขาและเจ้าหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปีก่อนหรือไม่ ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การระบาดรุนแรง นอกจากนี้การออกมาตรการเข้มงวด เช่น สั่งให้คนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รัฐบาลจะต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านด้วย.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 20 ธ.ค.- ญี่ปุ่นแจ้งว่า การติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โยงกับฐานทัพอเมริกันบนเกาะโอกินาวา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 180 คนแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจำนวนเท่าใด เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเผยว่า คนงานชาวญี่ปุ่นที่ค่ายแฮนเซน บนเกาะโอกินาวา ทางใต้ของประเทศ มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นบวกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มที่เป็นทั้งคนงานญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่อเมริกัน ล่าสุดนายฮิโรกาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงวันนี้ว่า คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับค่ายดังกล่าวเพิ่มจำนวนเป็น 180 คนแล้ว แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่ามีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจำนวนเท่าใด รัฐบาลขอย้ำอีกครั้งให้สหรัฐสร้างความมั่นใจว่า คนงานที่ฐานทัพในญี่ปุ่นทุกคนปฏิบัติตามคำสั่ง และขอให้ดำเนินมาตรการเด็ดขาดหากมีการฝ่าฝืน ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวาแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกำลังสอบสวนการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน และได้ขอให้กองทัพสหรัฐตรวจสอบทางพันธุกรรมเพื่อยืนยันว่าเป็นการติดเชื้อสายพันธุ์นี้หรือไม่ ญี่ปุ่นมียอดติดเชื้อโควิดสะสมมากกว่า 1 ล้าน 7 แสน 3 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 18,300 คน ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลง แต่ความกังวลเรื่องสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ญี่ปุ่นเข้มงวดพรมแดนและรับปากจะเร่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน.-สำนักข่าวไทย
เยรูซาเล็ม 20 ธ.ค.- คณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีมติอนุมัติให้ขึ้นบัญชีสหรัฐและแคนาดาไว้ในรายชื่อประเทศสีแดงที่ห้ามเดินทางไป เพราะกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน สำนักนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ออกแถลงการณ์วันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมาตรการห้ามพลเมืองอิสราเอลเดินทางไปสหรัฐและแคนาดาตั้งแต่เวลา 22:00 น.วันอังคารที่ 21 ธันวาคมตามเวลามาตรฐานสากล ผู้ที่ต้องการเดินทางไปต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่จะถูกขึ้นบัญชีโดยให้มีผลตั้งแต่วันพุธ ประกอบด้วย อิตาลี เบลเยียม เยอรมนี ฮังการี โมร็อกโก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์และตุรกี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเสนอเมื่อวันก่อน อิสราเอลห้ามพลเมืองเดินทางไปประเทศสีแดง ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการยกเว้นของรัฐบาล และหากได้รับอนุญาต เมื่อกลับมาถึงอิสราเอลแล้วจะต้องกักโรคอย่างน้อย 7 วัน แม้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม โดยในวันแรกต้องกักโรคในโรงแรมกักโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ จนกว่าจะทราบผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ในวันที่เดินทางกลับมาถึง หากพิจารณาแล้วว่ายังไม่ปลอดภัยจะต้องกักโรคในโรงแรมตลอดทั้ง 7 วัน จนถึงขณะนี้มีประเทศที่ถูกอิสราเอลขึ้นบัญชีแล้วมากกว่า 50 ประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส สวีเดน สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก แอฟริกาใต้ และหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลแจ้งว่า […]
วอชิงตัน 20 ธ.ค. – นพ. แอนโทนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐ เตือนว่า การเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดส นพ. เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐและหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้และกำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก ระบบสาธารณสุขของสหรัฐอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของเชื้อดังกล่าว ประชาชนทุกคนยังจำเป็นต้องระมัดระวังตัวไว้ก่อน เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม นพ. เฟาชี ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยระบุว่า มีความแตกต่างอย่างมากในด้านความเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสและฉีดวัคซีนเข็มที่สามกับผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ก่อนหน้านี้ เขาเคยแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิดเสี่ยงต่ออาการป่วยหนักและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงมาก ทั้งนี้ คำเตือนดังกล่าวของ นพ. เฟาชี มีขึ้นในขณะที่สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐพรรคเดโมแครต 2 คนคือ เอลิซาเบธ วอร์เรน วัย 72 ปี และคอรี บูเกอร์ วัย 52 ปี มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า มีชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกเกือบร้อยละ 73 และฉีดวัคซีนเข็มที่สามเกือบร้อยละ 30 โดยพบการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนร้อยละ […]
ลอนดอน 17 ธ.ค. – อังกฤษพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 88,376 คน ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษทรงยกเลิกการจัดงานเลี้ยงฉลองก่อนเทศกาลคริสต์มาสสำหรับสมาชิกราชวงศ์ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า อังกฤษพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 88,376 คน เพิ่มขึ้นจากวันพุธที่มี 78,610 คน และเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 คนเมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อของวันพฤหัสบดีที่แล้วที่มี 50,867 คน ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 11 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 146,900 คน คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่จุดสูงสุดของการระบาดจะลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ได้เตือนให้ประชาชนระมัดระวังตัวเองต่อการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน พร้อมยืนยันว่า อังกฤษไม่ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบลับ ๆ หลัง ส.ส. อังกฤษจำนวนหนึ่งกล่าวหาว่ารัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ธุรกิจบริการและโรงแรม ด้านสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 […]
กัวลาลัมเปอร์ 16 ธ.ค. – มาเลเซียประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ ซึ่งรวมถึงคำสั่งห้ามประชาชนรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่และข้อกำหนดให้กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายที่สอง นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย เผยวันนี้ว่า มาเลเซียจะสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนเป็นกลุ่มใหญ่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และผู้ที่จะเดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงในช่วงเทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ที่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัวต้องตรวจหาเชื้อโควิดโดยใช้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน นอกจากนี้ มาเลเซียจะกำหนดให้ชาวมาเลเซียที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนของซิโนแวคเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเพื่อให้คงสถานะฉีดวัคซีนครบโดส นายไครียังระบุเพิ่มเติมว่า มาเลเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายที่สองเป็นเด็กวัย 8 ปีที่เดินทางพร้อมครอบครัวมาจากไนจีเรียโดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่กาตาร์ ส่วนผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผู้โดยสาร 35 คนบนเที่ยวบินเดียวกัน มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ นอกจากนี้ มาเลเซียยังพบกลุ่มผู้ป่วยอีก 18 คนที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่กำลังรอผลตรวจยืนยันในวันพรุ่งนี้ มาเลเซียยังคงใช้คำสั่งระงับการเดินทางจาก 8 ประเทศทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา รวมถึง 9 ประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น อังกฤษ สหรัฐ ออสเตรเลีย และอินเดีย ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 คน.-สำนักข่าวไทย
จาการ์ตา 16 ธ.ค. – อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในประเทศเป็นพนักงานของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซีย เผยวันนี้ว่า อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในประเทศเมื่อช่วงค่ำวันพุุธ เป็นพนักงานของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ซึ่งไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาก่อนและยืนยันว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวในชุมชน นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังพบผู้ป่วยที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอีก 5 คน ในจำนวนนี้ มีชาวอินโดนีเซีย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐและอังกฤษ และมีชาวจีน 3 คนที่กำลังกักตัวอยู่ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ขณะนี้ ทางการอินโดนีเซียกำลังรอผลตรวจการจัดลำดับทางพันธุกรรมเพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกเผยว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนกำลังแพร่ระบาดในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 143,900 คน.-สำนักข่าวไทย