วอชิงตัน 21 ธ.ค. – โมเดอร์นา อิงค์ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐ เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นามีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยอ้างอิงผลการทดลองในห้องปฏิบัติการที่ยืนยันประสิทธิภาพดังกล่าว
ผลการทดลองในห้องปฏิบัติการของโมเดอร์นาระบุว่า ได้วัดระดับสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในตัวอย่างเลือดของกลุ่มอาสาสมัคร 40 คนที่มีสารภูมิต้านทานอยู่ในระดับต่ำ จากนั้นให้อาสาสมัครครึ่งหนึ่งรับวัคซีนเข็มกระตุ้นปริมาณ 50 ไมโครกรัม และอีกครึ่งหนึ่งรับวัคซีนเข็มกระตุ้นปริมาณ 100 ไมโครกรัม ต่อมาได้วัดระดับสารภูมิต้านทานหลังฉีดไปแล้ว 29 วัน ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่า กลุ่มที่ได้รับวัคซีน 50 ไมโครกรัมมีระดับสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น 37 เท่า และกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 100 ไมโครกรัมมีสารภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นถึง 83 เท่า ทั้งนี้ คำแนะนำปัจจุบันในการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาคือ ฉีดปริมาณ 100 ไมโครกรัมสำหรับเข็มแรกและเข็มที่ 2 และฉีดปริมาณ 50 ไมโครกรัมสำหรับวัคซีนเข็มกระตุ้น
นายสตีเฟน โฮก ประธานของโมเดอร์นา แถลงผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ว่า ทุกคนสามารถมั่นใจในประสิทธิภาพวัคซีนเข็มกระตุ้นของโมเดอร์นาเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี ผลการทดลองดังกล่าวชี้ว่า วัคซีนของโมเดอร์นามีประสิทธิภาพต้านสายพันธุ์โอไมครอนลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังฉีดวัคซีนครบสองโดสเมื่อเทียบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ขณะที่นายสเตฟาน บองเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของโมเดอร์นา เผยว่า ผลการทดลองในครั้งนี้ยืนยันประสิทธิภาพวัคซีนของโมเดอร์นา และบริษัทจะยังคงเดินหน้าพัฒนาวัคซีนโควิดเพื่อต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะต่อไป. -สำนักข่าวไทย