fbpx

อิสราเอลขึ้นบัญชีสหรัฐ-แคนาดาเป็นประเทศห้ามเดินทางไป

เยรูซาเล็ม 20 ธ.ค.- คณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีมติอนุมัติให้ขึ้นบัญชีสหรัฐและแคนาดาไว้ในรายชื่อประเทศสีแดงที่ห้ามเดินทางไป เพราะกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน


สำนักนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ออกแถลงการณ์วันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมาตรการห้ามพลเมืองอิสราเอลเดินทางไปสหรัฐและแคนาดาตั้งแต่เวลา 22:00 น.วันอังคารที่ 21 ธันวาคมตามเวลามาตรฐานสากล ผู้ที่ต้องการเดินทางไปต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่จะถูกขึ้นบัญชีโดยให้มีผลตั้งแต่วันพุธ ประกอบด้วย อิตาลี เบลเยียม เยอรมนี ฮังการี โมร็อกโก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์และตุรกี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเสนอเมื่อวันก่อน

อิสราเอลห้ามพลเมืองเดินทางไปประเทศสีแดง ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการยกเว้นของรัฐบาล และหากได้รับอนุญาต เมื่อกลับมาถึงอิสราเอลแล้วจะต้องกักโรคอย่างน้อย 7 วัน แม้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม โดยในวันแรกต้องกักโรคในโรงแรมกักโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ จนกว่าจะทราบผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ในวันที่เดินทางกลับมาถึง หากพิจารณาแล้วว่ายังไม่ปลอดภัยจะต้องกักโรคในโรงแรมตลอดทั้ง 7 วัน จนถึงขณะนี้มีประเทศที่ถูกอิสราเอลขึ้นบัญชีแล้วมากกว่า 50 ประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส สวีเดน สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก แอฟริกาใต้ และหลายประเทศในทวีปแอฟริกา


เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลแจ้งว่า นับจนถึงวันอาทิตย์พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 175 คน ส่วนใหญ่กลับมาจากต่างประเทศ หรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่กลับมาจากต่างประเทศ ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลแจ้งว่า มีผู้ยืนยันว่าติดเชื้อโอไมครอนแล้ว 134 คน และต้องสงสัยอีก 307 คน นายกรัฐมนตรีเบนเน็ตต์ขอให้ประชาชนพาบุตรหลานไปฉีดวัคซีน เพราะประเทศได้เกิดการระบาดระลอกที่ 5 แล้ว จนถึงขณะนี้ชาวอิสราเอล 9 ล้าน 3 แสนคนรับวัคซีนเข็มที่ 3 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคแล้ว มากกว่า 4 ล้าน 1 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย