ตั้งข้อหาเมียนมา 2 คนวางแผนปองร้ายทูตประจำUN

อัยการสหรัฐตั้งข้อหาชาวเมียนมา 2 คน วางแผนปองร้ายนายจ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยและไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งตามคำสั่งรัฐบาลทหาร โดยระบุว่า หนึ่งในนั้นติดต่อกับพ่อค้าอาวุธในไทย

ทูตเมียนมาประจำUNวอนโลกเร่งดำเนินการจริงจัง

นิวยอร์ก 10 เม.ย.- เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) วอนนานาชาติเร่งดำเนินการอย่างจริงจังกับรัฐบาลทหาร ด้านสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์บุกสังหารตำรวจทางตะวันออกของประเทศ นายจ่อ โม ตุน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำยูเอ็นเรียกร้องต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การดำเนินการร่วมกันอย่างจริงจังคือสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ เวลามีความสำคัญมากสำหรับชาวเมียนมา ขอได้โปรดดำเนินการทันที เขาขอให้ยูเอ็นดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น ประกาศเขตห้ามบิน ออกมาตรการคว่ำบาตรอาวุธ ออกมาตรการลงโทษอย่างเจาะจงกับสมาชิกกองทัพและครอบครัว ด้านนายริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์อิสระของอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ปเตือนยูเอ็นเอสซีว่า เมียนมาใกล้จะเป็นรัฐล้มเหลวแล้ว ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ต้องการการปกครองระบอบทหาร และจะทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่กองทัพก็ยังคงมุ่งมั่นจะทำตามความต้องการ การกระทำของกองทัพอาจทำให้เมียนมากลายเป็นประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเรื่องน่ากังวลใหญ่หลวงของภูมิภาคและประชาคมโลก ขณะเดียวกันสื่อเมียนมารายงานว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่จับมือกันหลายกลุ่มได้บุกสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในรัฐฉาน ทางตะวันออกของประเทศในเช้าวันนี้ มีตำรวจเสียชีวิต 10-14 นาย.-สำนักข่าวไทย

เอกอัครราชทูตรัสเซียกลับแล้วหลังสัมพันธ์สหรัฐดิ่ง

เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐเดินทางถึงกรุงมอสโกแล้วในวันนี้ หลังจากทางการรัสเซียเรียกตัวกลับมาหารือฉุกเฉินเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐเข้าสู่วิกฤติหนักที่สุด หลังจากผู้นำสองประเทศปะทะคารมกัน

เมียนมาชุมนุมต่อหลังถูกปราบหนัก ทูตถูกปลด

ย่างกุ้ง 28 ก.พ.- ผู้ต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาชุมนุมต่อในวันนี้ หลังจากกองกำลังรักษาความมั่นคงเปิดฉากปราบปรามหนักที่สุดตั้งแต่มีการชุมนุม และมีการปลดเอกอัครราชทูตเมียนมาที่ชูสามนิ้วในที่ประชุมสหประชาชาติหรือยูเอ็น ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตำรวจออกปฏิบัติการ ณ จุดชุมนุมหลักในนครย่างกุ้งอีกครั้งเช้าวันนี้ ขณะที่ผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่มีอุปกรณ์ป้องกันเริ่มรวมตัวกัน หลังจากเมื่อวานนี้สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ภาพตำรวจตรวจค้นร้านขายอุปกรณ์ที่ผู้ชุมนุมใช้เป็นแหล่งซื้อหาหมวก หน้ากากและโล่ป้องกันตัว พร้อมกับติดแฮชแท็ก #iwillbeonthestreet สถานการณ์วานนี้เกิดความวุ่นวายในหลายเมืองเมื่อตำรวจใช้กำลังกวาดล้างผู้ชุมนุม ยิงแก๊สน้ำตา ขว้างระเบิดเสียง และยิงปินขึ้นฟ้า ผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่า ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบใช้กระบองฟาดผู้ชุมนุมบางคน สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี (MRTV) ของรัฐรายงานว่า ตำรวจได้เตือนก่อนขว้างระเบิดเสียงเพื่อสลายผู้ชุมนุม มีคนถูกควบคุมตัวทั้งหมดมากกว่า 470 คน สื่อหลายแห่งเผยว่า มีผู้สื่อข่าวถูกควบคุมด้วยไปด้วย ขณะที่หนังสือพิมพ์เซเวนเดย์นิวส์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเผยว่า สตรีคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บในเมืองโมนยวา ทางตอนกลางของประเทศ ยังไม่เสียชีวิตตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ สถานการณ์รุนแรงเมื่อวานนี้เกิดขึ้นหลังจากนายจอ โม ตุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำยูเอ็นกล่าวต่อที่ประชุมยูเอ็นว่า ขอกล่าวในนามของรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี และขอร้องที่ประชุมให้ช่วยยุติการรัฐประหาร เอ็มอาร์ทีวีรายงานว่า นายจอถูกปลดจากตำแหน่งตามระเบียบข้าราชการแล้ว เนื่องจากทรยศประเทศชาติ ใช้อำนาจและความรับผิดชอบในฐานเอกอัครราชทูตโดยมิชอบ อย่างไรก็ดี ยูเอ็นยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลทหารของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายเป็นรัฐบาลใหม่ของเมียนมา ส่วนนางซูจี วัย 75 ปีที่ถูกตั้งข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสาร […]

สื่อจีนไม่ลงบทความเอกอัครราชทูตสหรัฐ

วอชิงตัน 10 ก.ย.- นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่า พีเพิลเดลี หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ยอมลงบทความของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีน ทั้งที่เจ้าหน้าที่จีนสามารถให้ความเห็นของรัฐบาลในสื่อสหรัฐได้ นายพอมเพโอกล่าวว่า ท่าทีของพีเพิลเดลีแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลัวเสรีภาพในการพูดและการถกเถียงทางปัญญาอย่างจริงจัง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการเสแสร้งของจีนที่ร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและต่างตอบแทนในประเทศอื่น ผู้สื่อข่าวสหรัฐถูกจำกัดในการรายงานข่าวหรือแม้แต่จะเดินทางเข้าจีน แต่คนทำงานสื่อของจีนสามารถเข้าถึงการเปิดกว้างในสหรัฐมาโดยตลอด พีเพิลเดลีไม่ยอมลงบทความของนายเทอร์รี แบรนสแทด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีนเรื่อง “การปรับความสัมพันธ์ใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่างตอบแทน” เนื้อหาอ้างถึงความสัมพันธ์สองฝ่ายที่ไม่สมดุล ธุรกิจ ผู้สื่อข่าว นักการทูต หรือแม้แต่ภาคประชาสังคมของสหรัฐไม่สามารถเข้าถึงจีนอย่างเท่าเทียมกับที่ฝั่งจีนเข้าถึงสหรัฐ พีเพิลเดลีออกหนังสือชี้แจงว่า บทความของนายแบรนสแทดไม่เป็นไปตามมาตรฐานของพีเพิลเดลี เพราะเต็มไปด้วยช่องโหว่ และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงอย่างรุนแรง พร้อมกับถือโอกาสนี้กล่าวหาสหรัฐว่า กดขี่ผู้สื่อข่าวจีนด้วยการขับไล่และใช้มาตรการจำกัดวีซ่าอย่างเลือกปฏิบัติ สื่อสหรัฐหลายแห่ง เช่น บลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น วอลล์สตรีทเจอร์นัลแจ้งเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ทางการจีนไม่ต่ออายุใบอนุญาตผู้สื่อข่าวที่ทำงานในจีน ขณะที่ผู้สื่อข่าวจีนในสหรัฐกำลังรอทางการสหรัฐต่อใบอนุญาต เพราะช่วงเวลาผ่อนผัน 90 วันจะหมดอายุในต้นเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้สหรัฐยังได้ยกเลิกวีซ่าชาวจีนกว่า 1,000 คน เพื่อสกัดนักศึกษาและนักวิจัยจีนที่เชื่อว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีนเข้าสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียพร้อมให้วัคซีนโควิด-19 กับฟิลิปปินส์

มะนิลา 7 ส.ค.- เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำฟิลิปปินส์เผยว่า รัสเซียพร้อมจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ฟิลิปปินส์ หรือร่วมกับบริษัทในฟิลิปปินส์ผลิตวัคซีนเป็นจำนวนมาก นายอิกอร์ คอวาเอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียแถลงข่าวทางออนไลน์วันนี้ว่า รัสเซียพร้อมจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ฟิลิปปินส์ และอาจลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนในฟิลิปปินส์ผลิตวัคซีน ขณะนี้กำลังรอการตอบรับจากกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์อยู่ นายคอวาเอฟกล่าวถึงวัคซีนของรัสเซียที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนนี้ และจะทดลองกับบุคคลากรทางการแพทย์แนวหน้าเป็นกลุ่มแรกว่า เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย มีประเทศต่าง ๆ ประมาณ 20 ประเทศแสดงความสนใจจะใช้วัคซีนของรัสเซียแล้ว ด้าน นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพขององค์การอนามัยโลกตอบข้อถามเรื่องวัคซีนรัสเซียว่า วัคซีนใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องมีผลการทดลองมายืนยันเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะเดียวกันโฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์แถลงว่า ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าหลังจากยกเลิกมาตรการปิดเมืองในเดือนมิถุนายนเป็น 122,754 คนในวันนี้ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเป็น 2,168 คน เป็นผลจากการขยายการตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง โดยได้ตรวจไปแล้วเกือบ 1.6 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 107 ล้านคน ทางการตั้งเป้าจะตรวจให้ได้ 10 ล้านคนภายในไตรมาสสองของปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำบราซิลเผยตรวจโควิดครั้งใหม่ ปอดสะอาดดี

ผู้นำบราซิลเผยว่า เพิ่งรับการตรวจหาเชื้อที่ทำให้เป็นโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ ผลตรวจปอดสะอาดดี หลังจากสื่อในประเทศพากันลงข่าวว่า เขามีอาการคล้ายเป็นโรคโควิด-19

เร่งสร้างความเชื่อมั่น! หลังอิสราเอลประกาศห้ามคนมาจากไทยเข้าประเทศ

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ระบุ ทางสถานทูตเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลปรับเปลี่ยนคำประกาศยกระดับห้ามคนทุกสัญชาติที่เคยพำนักในประเทศไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเก๊า 14 วันก่อนการเดินทางเข้าอิสราเอลเข้าประเทศโดยเร็ว หวั่นกระทบแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลและการท่องเที่ยวไทย

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฟิวส์ขาดใส่นักข่าวที่ถามเรื่องยูเครน

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่อถูกนักข่าวถามเรื่องยูเครน โดยได้ระเบิดอารมณ์ด้วยการตะโกน จ้องหน้า และสบถคำหยาบ

ชี้ปัญหาของทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องหนวด

ผู้เชี่ยวชาญและสื่อชี้ปัญหาของนายแฮร์รี แฮร์ริส เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องหนวดอย่างที่เขาคิด แต่เป็นเพราะพฤติกรรมและการแสดงออกที่หยาบคายของเขา

สหรัฐเตือนเกาหลีใต้ใกล้หมดเวลาเจรจาค่าใช้จ่ายทหารอเมริกัน

เอกอัครราชทูตสหรัฐเตือนว่า สหรัฐยอมประนีประนอมเรื่องให้เกาหลีใต้สมทบค่าใช้จ่ายทหารอเมริกันที่ประจำการในเกาหลีใต้แล้ว เกาหลีใต้จึงควรตอบแทนก่อนที่จะหมดเวลาเจรจา

1 2 3 4 5 6 7
...