อพยพ

มะนิลา 31 ต.ค.- ฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศในวันนี้ หนีซูเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี (Goni) ความรุนแรงระดับ 5 ที่จะขึ้นฝั่งวันอาทิตย์ และถือว่ารุนแรงที่สุดในโลกของปีนี้ และกำลังมีไต้ฝุ่นอีกลูกติดตามมา ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี มีความเร็วลมบริเวณศูนย์กลาง 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วลมกระโชกสูงสุด 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทำให้ฝนตกหนักทั่วกรุงมะนิลาและ 14 จังหวัดใกล้เคียงในย็นวันนี้ เสี่ยงเกิดน้ำท่วมดินถล่ม และจะเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่จะถล่มฟิลิปปินส์ นับจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่คร่าชีวิตคนในฟิลิปปินส์ไปกว่า 6,300 คนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 เจ้าหน้าที่เผยกับสถานีวิทยุในประเทศว่า เริ่มอพยพประชาชนตามชุมชนริมฝั่งและพื้นที่เสี่ยงเกิดดินถล่มในจังหวัดกามารีเนสนอร์เตและกามารีเนสซูร์ ในภูมิภาคบีโกล ทางใต้ของเกาะลูซอนแล้ว ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดอัลไบ ในภูมิภาคเดียวกันจะสั่งการให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพจากบ้านเรือนเช่นกัน ทางการท้องถิ่นสั่งปิดท่าเรือและห้ามเรือประมงออกจากฝั่ง ขณะเดียวกันการอพยพคนยังศูนย์พักพิงก็มีอุปสรรคเรื่องต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เนื่องจากฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นอันดับสองของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี แปลว่าหงส์ในภาษาเกาหลีจะเป็นพายุลูกที่ 18 ของฟิลิปปินส์ในปีนี้ หลังจากไต้ฝุ่นโมลาเบ (Molave) เพิ่งคร่าชีวิตคนไป 22 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนใหญ่จมน้ำเสียชีวิตตามจังหวัดทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ด้านเว็บไซต์มะนิลาบูลเลตินรายงานว่า ไต้ฝุ่นลูกถัดไปคือ […]

ทางการเวียดนามเตรียมสั่งอพยพประชาชนราว 1.3 ล้านคนเพื่อรับมือพายุไต้ฝุ่นโมลาเบหลังพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อคืนนี้และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าขึ้นฝั่งเวียดนาม

น้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ในกัมพูชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คน ชาวบ้านจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐานเสียหายเป็นจำนวนมาก

เกิดไฟป่าใหญ่ปะทุในนาปาวัลลีย์ ซึ่งเป็นเขตผลิตไวน์ชื่อดัง ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ต้องอพยพประชาชนหลายร้อยครัวเรือนและคนในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ชาวออริกอนหลายพันคนที่หนีจากไฟป่า ต้องใช้ชีวิตตามสถานพักพิง ขณะที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยควัน และส่งผลต่อสุขภาพ

เฟรสโน 12 ก.ย.- สหรัฐระดมนักดับเพลิงทั่วประเทศกว่า 20,000 คน ควบคุมไฟป่าใหญ่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศที่โหมไหม้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน และต้องอพยพจากบ้านเรือนหลายหมื่นคน เจ้าหน้าที่คาดว่า อากาศจะเย็นลงเอื้อต่อการควบคุมไฟในช่วงหลายวันข้างหน้า ยังไม่สามารถประเมินไฟป่าที่เกิดขึ้นทั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 16 คน แต่คาดว่าตัวเลขที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ ฝั่งตะวันตกของสหรัฐมีไฟป่าใหญ่ประมาณ 100 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ ออกัสคอมเพล็กไฟร์ กลายเป็นไฟป่าใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนียแล้วในสัปดาห์นี้ เพราะเผาพื้นที่แห้งแล้งทางตอนเหนือไปแล้ว 1.86 ล้านไร่ เกิดจากไฟป่าหลายจุดที่มีต้นเหตุจากฟ้าผ่าในเดือนสิงหาคมไหม้ลามจนรวมเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ ด้านผู้ว่าการรัฐออริกอนเผยว่า ประชาชนอพยพหนีไฟป่าแล้วกว่า 40,000 คน และอีก 500,000 คนได้รับคำเตือนให้อพยพ ไฟป่าใหญ่กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่า ช่วง 5 ปีจนถึงปี 2562 เกิดไฟป่ามากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ภาวะแห้งแล้งรุนแรงขึ้น เอื้อต่อการให้ไฟป่าไหม้ลามจนไม่สามารถควบคุมได้ เฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียปีนี้ถูกไฟป่าเผาพื้นที่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 7.75 ล้านไร่ และยังเหลือฤดูไฟป่าอีกเกือบ 4 เดือนจนถึงสิ้นปี.-สำนักข่าวไทย

ผู้อพยพชาวโรฮิงญาเกือบ 300 คน มาขึ้นฝั่งที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซียเมื่อตอนเช้าวันนี้