ผู้นำจีนระบุ “แสงแห่งความหวังอยู่ตรงหน้าแล้ว”

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าววันเสาร์เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ว่า “แสงสว่างแห่งความหวังอยู่ตรงหน้าแล้ว” ในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากยกเลิกข้อจำกัดเข้มงวดในการคุมโควิดอย่างกระทันหัน

อนามัยโลกกดดันจีนส่งข้อมูลโควิดในเวลาจริง

เจนีวา 31 ธ.ค.- องค์การอนามัยโลกกดดันจีนให้ส่งข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด-19 ในเวลาจริงในช่วงที่จีนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสเป็นประเทศล่าสุดที่บังคับตรวจหาเชื้อกับผู้เดินทางจากจีน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐอ้างเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า จีนส่งข้อมูลเรื่องสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในจีนเข้าฐานข้อมูลโลกอย่างจำกัด ขณะที่การตรวจหาเชื้อและการรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ลดลง ด้านองค์การอนามัยโลกแถลงว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่จีนเข้าพบและขอให้แบ่งปันข้อมูลสถานการณ์การระบาดในเวลาจริงและมีความเจาะจงและอย่างสม่ำเสมอ โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าติดตามและการเผยแพร่ข้อมูลที่ทันการ เพื่อช่วยให้จีนและประชาคมโลกได้รับทราบมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ โฆษกกระทรวงต่างประเทศแถลงชี้แจงเรื่องที่จีนถูกกล่าวหาว่าไม่เต็มใจแบ่งปันข้อมูลว่า ตั้งแต่มีการระบาด จีนได้แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้แก่ประชาคมโลก รวมทั้งองค์การอนามัยโลกอย่างเปิดเผยและโปร่งใสมาโดยตลอด จีนได้แบ่งปันข้อมูลเรื่องลำดับจีโนมของเชื้อไวรัสตั้งแต่ต้น ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาวัคซีนและยาในประเทศอื่น ๆ ขณะเดียวกันฝรั่งเศสและอังกฤษประกาศวันนี้ว่า ผู้เดินทางมาจากจีนทุกคนจะต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ยืนยันว่า จะเปิดพรมแดนต้อนรับคนมาจากจีนต่อไป สำนักงานโรคติดเชื้อของสหภาพยุโรป หรืออีซีดีซี (ECDC) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการจำกัดกับผู้เดินทางมาจากจีนในเวลานี้ เนื่องจากคนในสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) และเขตเศรษฐกิจยุโรป หรืออีอีเอ (EEA) มีภูมิต้านทานโควิดในระดับสูง ด้านเยอรมนียังไม่ใช้มาตรการบังคับตรวจหาเชื้อกับผู้เดินทางมาจากจีน แต่ต้องการให้อียูมีระบบเฝ้าระวังเชื้อไวรัสตามท่าอากาศยานทั่วยุโรป เพื่อให้สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วและดำเนินมาตรการที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย

เตือนหนุ่มสาว 1,000 ล้านคนเสี่ยงเสียการได้ยิน

เจนีวา 16 พ.ย. – ผลวิจัยขององค์การอนามัยโลกระบุว่า มีประชากรอายุน้อยราว 1,000 ล้านคนทั่วโลกอาจเสี่ยงต่อภาวะสูญเสียการได้ยินจากการสวมหูฟัง หรืออยู่ในงานคอนเสิร์ตที่มีเสียงดัง ผลวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกและได้รับการตีพิมพ์ใน ‘บีเอ็มเจ โกลบอล เฮลท์’ วารสารการแพทย์ของอังกฤษ ระบุว่า ประชากรอายุน้อยราว 1,000 ล้านคนทั่วโลกอาจเสี่ยงต่อภาวะสูญเสียการได้ยินจากการสวมหูฟัง หรืออยู่ในงานคอนเสิร์ตที่มีเสียงดัง พร้อมทั้งเตือนให้ประชากรอายุน้อยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้หูฟัง รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ผลิตหูฟังทั่วโลกหาทางป้องกันภาวะสูญเสียการได้ยินในอนาคต ผลวิจัยดังกล่าวเป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากผลงาน 33 ชิ้นที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และรัสเซีย ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมกว่า 19,000 คน และทั้งหมดมีอายุตั้งแต่ 12-34 ปี ผลวิจัยพบว่า มีคนอายุน้อยร้อยละ 24 ที่มีพฤติกรรมใช้หูฟังที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ตโฟน อย่างไม่ปลอดภัย และร้อยละ 48 ที่ได้รับอันตรายจากระดับเสียงที่ไม่ปลอดภัยในสถานบันเทิง เช่น คอนเสิร์ตหรือไนต์คลับ ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดทำให้คาดว่า มีประชากรอายุน้อยราว 670,000 คน ถึง […]

อนามัยโลกให้ฝีดาษลิงเป็นเหตุฉุกเฉินสาธารณสุขโลกต่อไป

เจนีวา 2 พ.ย.- องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า คณะกรรมการเหตุฉุกเฉินของ WHO ลงความเห็นว่า ควรให้โรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิงเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกต่อไป WHO แถลงว่า หลังจากที่มีการประชุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมเรื่องเชื้อไวรัสฝีดาษลิงที่เริ่มแพร่อย่างรวดเร็วทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คณะผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การแพร่โรคนี้ยังคงเข้าเกณฑ์การเป็นเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขที่น่ากังวลระดับนานาชาติ (PHEIC) ตามที่ WHO ประกาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เพราะแม้ว่ามีความคืบหน้าในการควบคุมโรค แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่า สถานการณ์ไม่ฉุกเฉินแล้ว และ ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ได้ยอมรับและเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ ข้อมูลของ WHO ระบุว่า นับตั้งแต่ฝีดาษลิงซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นในแอฟริกาตะวันตกแพร่ออกนอกภูมิภาคตั้งแต่ 6 เดือนก่อน โรคนี้ได้คร่าชีวิตคนไปแล้ว 36 คน จากผู้ป่วยมากกว่า 77,000 คนใน 109 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ยอดผู้ป่วยสูงสุดในเดือนกรกฎาคม จากนั้นเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยในช่วง 7 วันจนถึงวันจันทร์ลดลงร้อยละ 41 จากช่วง […]

ประกาศอีโบลาระบาดในยูกันดา

กัมปาลา 20 ก.ย.- กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาและองค์การอนามัยโลกเผยวันนี้ว่า มีการประกาศว่าโรคอีโบลาระบาดในยูกันดาแล้ว หลังจากพบผู้ป่วยหลายรายในพื้นที่เดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า พบผู้ป่วยอีโบลาที่ได้รับการยืนยันแล้วในเขตมูเบนเด ทางตอนกลางของประเทศ เป็นชายวัย 24 ปี ที่แสดงอาการป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่องค์การอนามัยโลก สำนักงานแอฟริกาแถลงว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวป่วยด้วยอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ยาก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยูกันดาพบหลังจากตรวจสอบผู้เสียชีวิตอย่างน่าสงสัย 6 ราย ในเขตดังกล่าวในเดือนนี้ และขณะนี้มีผู้ป่วยน่าสงสัย 8 รายกำลังรับการรักษาในสถานพยาบาล องค์การอนามัยโลกเผยด้วยว่า ได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยูกันดาตรวจสอบโรคและส่งบุคลากรลงพื้นที่ที่พบการระบาด เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี (CDC) ระบุว่า อีโบลาเป็นโรคร้ายแรงที่พบในคนและวานร (primates) ไวรัสที่ทำให้เป็นโรคนี้มักพบในประเทศที่อยู่ตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา ยูกันดา ที่อยู่ทางตะวันออกของแอฟริการวมอยู่ในภูมิภาคนี้ คนสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ติดเชื้อ เช่น วานร ค้างคาว หรือสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคอีโบลา อาการเบื้องต้น เช่น เป็นไข้ ปวดเมื่อย เหนื่อยล้า เจ็บคอ เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย เลือดออกหรือช้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเผยโควิดใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

เจนีวา 15 ก.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ทั่วโลกไม่เคยเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของโรคโควิด-19 เท่านี้มาก่อน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิดมายาวนานหลายปี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลก กล่าวในงานแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันพุธตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ตอนนี้การระบาดของโรคโควิดยังไม่จบสิ้น แต่เริ่มมองเห็นจุดจบของโรคโควิดแล้ว ทั่วโลกยังคงจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อคว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ เฉกเช่นนักวิ่งมาราธอนที่ไม่หยุดวิ่งแม้มองเห็นเส้นชัยที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่จะวิ่งให้เร็วขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่มีอยู่ ทั่วโลกก็ไม่ควรการ์ดตกแม้มองเห็นจุดจบของโรคโควิดที่ใกล้เข้ามา เพราะหากเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ระบาดก็จะย่ำแย่ลง ดร. ทีโดรส ยังระบุว่า หากทั่วโลกไม่คว้าโอกาสในตอนนี้ไว้ ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้นและเผชิญกับความไม่แน่นอนมากกว่าเดิม ทั้งยังเตือนให้ทุกประเทศเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิดต่อไป และจำเป็นต้องพิจารณาปรับใช้นโยบายอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 และเชื้อโควิดที่อาจกลายพันธุ์ในอนาคต รวมถึงเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และยังคงต้องตรวจหาเชื้อโควิดในคนกลุ่มนี้ต่อไป ขณะที่โฆษกขององค์การอนามัยโลกระบุว่า การประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับการตัดสินใจว่า องค์การอนามัยโลกจะยังคงกำหนดให้การระบาดของโรคโควิดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกหรือไม่. -สำนักข่าวไทย

WHO คาดสถานการณ์โควิดในเกาหลีเหนือน่าจะแย่ลง

เจนีวา 2 มิ.ย.- องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า ไม่มีข้อมูลสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดในเกาหลีเหนือ แต่คาดว่าสถานการณ์กำลังแย่ลง ขัดแย้งกับที่เกาหลีเหนือแจ้งว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้น นพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพของ WHO เผยกับสื่อว่า สันนิษฐานว่าสถานการณ์โควิดในเกาหลีเหนือกำลังแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นตามที่เกาหลีเหนือประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วและมีผู้ป่วยรายใหม่ลดลง อย่างไรก็ดี WHO ไม่สามารถประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์ในเกาหลีเหนือได้ เพราะไม่มีข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ได้อย่างเหมาะสม WHO จะเสนอให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือต่อไป หลังจากที่เคยเสนอมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งเสนอจัดส่งวัคซีนมาแล้ว 3 ครั้ง ขณะนี้กำลังประสานกับจีนและเกาหลีใต้อยู่ เพราะไม่ต้องการให้โควิดแพร่กระจายในประเทศที่ระบบสาธารณสุขอ่อนแออยู่แล้ว ซึ่งจะไม่เป็นผลดีทั้งต่อชาวเกาหลีเหนือ ต่อภูมิภาคและต่อโลก ด้าน ดร.มาเรีย ฟาน แคร์โคฟ หัวหน้าทีมรับมือโควิดของ WHO กล่าวว่า เกาหลีเหนือบันทึกว่ามีผู้ต้องสงสัยเป็นโควิดมากกว่า 3 ล้านคน แต่กล่าวถึงอาการป่วยเหล่านี้อย่างเป็นทางการว่า เป็นไข้ เกาหลีเหนือประกาศพบผู้ป่วยโควิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) รายงานวันนี้ว่า มีคนเป็นไข้ประมาณ 96,600 คนในช่วง […]

อนามัยโลกยืนยันศูนย์สาธารณสุขในยูเครนถูกโจมตี

องค์การอนามัยโลก กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า ศูนย์สาธารณสุขหลายแห่งในยูเครนถูกโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

อนามัยโลกจะตั้งศูนย์แห่งที่ 2 เพื่อสอนผลิตวัคซีนโควิด

องค์การอนามัยโลกวางแผนที่จะจัดตั้งศูนย์แห่งที่ 2 ในการฝึกอบรมประเทศต่าง ๆ ให้สามารถผลิตวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ได้เอบง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่จะเปิดโอกาสให้ประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยมีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ไว้ใช้ในประเทศ

อนามัยโลกให้ปรับลดระยะเวลากักตัวดูอาการโควิดได้

องค์การอนามัยโลกกล่าววานนี้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่กำลังพยายามรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะลดระยะเวลาการกักตัวเพื่อดูอาการที่แนะนำไว้ที่ 14 วันได้ ในบางสถานการณ์

ผอ.อนามัยโลกชิงตำแหน่งอีกสมัยโดยไร้คู่แข่ง

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก วาระ 5 ปี อีกสมัยในวันนี้ โดยไม่มีคู่แข่ง

1 2 3 4 5 14
...