เจนีวา 31 พ.ค.- องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า ณ เวลานี้ยังไม่กังวลว่าโรคฝีดาษลิงที่พบนอกทวีปแอฟริกาจะกลายเป็นโรคระบาดระดับโลก
องค์การอนามัยโลก เผยว่านับตั้งแต่อังกฤษแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม จนถึงขณะนี้ได้รับรายงานว่าพบผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัยป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงแล้วเกือบ 400 คน ใน 20 กว่าประเทศที่อยู่ห่างไกลจากประเทศที่มีโรคฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่น สถานการณ์ขณะนี้ถือว่าไม่ปกติ แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องตื่นตระหนก เพราะเชื้อไวรัสของโรคนี้แพร่ผ่านการสัมผัสใกล้ชิด และมักไม่ทำให้ป่วยหนัก
ดร.โรซามุนด์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคฝีดาษลิงขององค์การอนามัยโลก ยอมรับว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าฝีดาษลิงที่เป็นโรคประจำถิ่นในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตกจะเกิดการระบาดครั้งใหม่หรือไม่ แต่ ณ เวลานี้ยังไม่กังวลว่าจะเกิดการระบาดในระดับโลก อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องดำเนินมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ด้วยการสร้างความตื่นตัวให้แก่กลุ่มเสี่ยง ตรวจหาผู้ป่วยแต่เนิ่นๆ แยกกักโรคผู้ป่วย และติดตามหาผู้สัมผัสใกล้ชิด
แวดวงผู้เชี่ยวชาญกำลังหาเหตุผลว่า เหตุใดจึงพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในประเทศที่ไม่เคยพบมาก่อน และส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่ม มีทฤษฎีหนึ่งชี้ว่า โรคนี้แพร่ได้ง่ายในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 45 ปี เพราะเป็นกลุ่มอายุที่ไม่ได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษที่มีประสิทธิภาพร้อยละ 85 ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ส่วนกรณีที่พบผู้ป่วยหลายคนเป็นชายรักชาย ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าโรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่อาจติดเชื้อเกิดจากการร่วมงานที่มีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากและมีการใกล้ชิดทางร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการแพร่เชื้อทางระบบทางเดินหายใจ แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเชื้อสามารถแพร่ผ่านละอองฝอยหรือทางอากาศได้.-สำนักข่าวไทย