
เวียดนามบรรลุดีลขอถ่ายโอนเทคโนโลยีวัคซีนรัสเซีย-สหรัฐ
เวียดนามบรรลุข้อตกลงขอถ่ายโอนเทคโนโลยีผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซียและสหรัฐ
เวียดนามบรรลุข้อตกลงขอถ่ายโอนเทคโนโลยีผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซียและสหรัฐ
ไทเป 19 ก.ค. – รัฐบาลไต้หวันประกาศอนุมัติใช้และผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยเมดิเจน วัคซีน โบโอโลจิกส์ คอร์ป บริษัทเวชภัณฑ์ของไต้หวัน ซึ่งถือเป็นย่างก้าวสำคัญของไต้หวันในการพัฒนาวัคซีนโควิดใช้เองในประเทศ กระทรวงสาธารณสุขไต้หวันระบุว่า ผลการทดลองทางคลินิกในไต้หวันชี้ว่า วัคซีนที่พัฒนาโดยเมดิเจนสามารถสร้างโปรตีนที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์ หรือแอนติบอดี ได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกา และไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เมดิเจนต้องส่งรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน MVC-COV1901 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อฉีดให้แก่ประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยจะเว้นช่วงระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่สองเป็นเวลา 28 วัน ขณะที่นายเฉิน สือ-จง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน กล่าวว่า เมดิเจนจะต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อเร่งกระบวนการผลิตวัคซีนดังกล่าวหลังผ่านการอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในไต้หวัน และคาดว่าน่าจะผลิตวัคซีนได้จำนวนหนึ่งในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ วัคซีนของเมดิเจนเป็นวัคซีนที่ผลิตจากการตัดต่อโปรตีนจากสารพันธุกรรมของไวรัส และได้รับการพัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ (NIH) ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไต้หวันได้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากเมดิเจนและยูบีไอ ฟาร์มา บริษัทผู้พัฒนาวัคซีนในประเทศอีกรายหนึ่งของไต้หวันขนานละ 5 ล้านโดสในเดือนพฤษภาคม และต่อมาก็ทำสัญญาซื้อเพิ่มอีกขนานละ 5 ล้านโดส ทำให้ไต้หวันมียอดสั่งซื้อวัคซีนจากสองบริษัทดังกล่าวทั้งสิ้น 20 ล้านโดส อย่างไรก็ดี วัคซีนที่พัฒนาโดยยูบีไอกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ขณะนี้ ไต้หวันกำลังเร่งการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนตั้งแต่ในเดือนที่แล้ว […]
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาเป็นเวลากว่าปีในอังกฤษตั้งแต่วันนี้ และขอให้ประชาชนระมัดระวังตัวต่อไป พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ช่วยปกป้องประเทศได้ แม้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น
นิวเดลี 16 ก.ค.- สื่ออินเดียรายงานว่า รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 660 ล้านโดสสำหรับฉีดในเดือนสิงหาคม-ธันวาคมนี้ เป็นการสั่งซื้อครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา หนังสือพิมพ์อีโคโนมิกส์ไทมส์อ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลกลางสั่งซื้อวัคซีนแอสตราเซนเนกาที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียในชื่อโควิดชีลด์ 375 ล้านโดส และวัคซีนโควาซินที่ผลิตโดยภารตะไบโอเทค บริษัทอินเดียอีก 285 ล้านโดส สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียได้เพิ่มกำลังผลิตเป็นเดือนละ 100 ล้านโดส ส่วนภารตะไบโอเทค รัฐบาลอินเดียเผยว่า จะเพิ่มกำลังผลิตขนานใหญ่จากเดือนละ 10 ล้านโดสในเดือนเมษายน เป็น 70 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม และอาจเพิ่มเป็นเกือบ 100 ล้านโดสภายในเดือนกันยายน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากทางการท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การขาดแคลนวัคซีนจะทำให้มีคนเสี่ยงหลายล้านคน หากเชื้อกลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง รัฐบาลกลางอินเดียตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ 944 ล้านคนภายในสิ้นปี แต่มีผู้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเพียงร้อยละ 8 ของเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นแจ้งว่า ขาดแคลนวัคซีนจนต้องปิดศูนย์ฉีดหลายแห่ง ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า อัตราการฉีดเฉลี่ยต่อวันในเดือนกรกฎาคมยังคงต่ำกว่า 4 ล้านโดส ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมในอินเดียทะลุ 31 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 412,500 […]
ฉีด”ซิโนฟาร์ม” ซึ่งได้รับการบริจาคจากมูลนิธิแพทยศาสตร์ตำรวจฯ ให้พระภิกษุ สามเณร ผู้ให้บริการรถสาธารณะ และประชาชนโดยทั่วไป เสริมการป้องกันป้องกัน COVID- 19
ชาวฝรั่งเศสจองฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์ เกือบ 1 ล้านคนในวันเดียว หลังจากประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงเตือนว่าอาจจะบังคับให้ทุกคนต้องฉีดวัคซีน
พิมพ์รพี ขอ รัฐ บอกให้ชัด คนที่ฉีดซิโนแวคไปแล้วสองเข็ม เติมเข็มสามให้ หรือให้ดิ้นรนเอาเอง แนะเร่งสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว วอน หาเจ้าภาพประสานรับตัวส่งต่อผู้ป่วยกลับบ้านเกิด
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำขององค์การอนามัยโลกเตือนว่า อย่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ข้ามชนิดกัน ในขณะที่ยังไม่แน่ใจในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันจำนวน 1.5 ล้านโดสที่บริจาคโดยสหรัฐส่งถึงเนปาลแล้วในวันนี้
ไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ใหญ่ของสหรัฐเตรียมพบกับทางการสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหารือเรื่องคำขอให้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิ
รัฐบาลเร่งเดินหน้าจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก ตามแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 150 ล้านโดส ในกลางปี 2565 และฉีดให้ประชาชนให้เร็วที่สุด ใน กทม.ฉีดแล้วเกือบ 4 ล้านโดส
สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์กับ นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวัคซีน พร้อมคำถามเกี่ยวกับวัคซีนที่คนส่วนใหญ่ต้องการทราบ