วิจารณ์ญี่ปุ่นเชิญเมียนมาร่วมรัฐพิธีศพอาเบะ

โตเกียว 25 ก.ย.- อดีตนักการทูตเมียนมาที่ถูกรัฐบาลไล่ออก วิจารณ์ญี่ปุ่นที่เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำญี่ปุ่นเข้าร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะในวันที่ 27 กันยายนนี้ นายอ่อง โซ โม ถูกกระทรวงต่างประเทศเมียนมาไล่ออกจากตำแหน่งเลขานุการเอกในสถานทูตเมียนมาประจำญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 เนื่องจากเข้าร่วมกับขบวนการอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐบาลทหาร นับจากนั้นก็อุทิศตัวให้แก่การเคลื่อนไหวในญี่ปุ่นเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า นายอ่อง โซ โมให้สัมภาษณ์สื่อในญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ว่า เขาและนักเคลื่อนไหวคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะจึงเชิญตัวแทนของระบอบที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิง ไปร่วมรัฐพิธีศพของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเช่นเดียวกัน ต่อข้อถามว่าเขาคิดว่าญี่ปุ่นควรเชิญตัวแทนจากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาไปร่วมรัฐพิธีศพแทนหรือไม่ นายอ่อง โซ โมตอบว่า ชาวเมียนมาหลายคนคิดเช่นนั้น ส่วนตัวเขาคิดว่าญี่ปุ่นควรทำตามอังกฤษที่ไม่เชิญตัวแทนเมียนมาเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการที่ญี่ปุ่นปล่อยให้ผู้ที่ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนชาวเมียนมาเข้าร่วมรัฐพิธีศพในวันอังคารนี้ และอยากให้ญี่ปุ่นตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมาโดยทันที เกียวโดนิวส์ระบุว่า แม้รัฐบาลญี่ปุ่นประณามการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และขอให้รัฐบาลทหารเมียนมาถอยหลังกลับไป แต่ก็ยังไม่รับรองเอ็นยูจีให้เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมของเมียนมา กลุ่มนี้ตั้งขึ้นในเดือนเมษายนปีเดียวกัน เป็นการรวมกลุ่มของสมาชิกรัฐสภาที่ถูกปลด ผู้ประท้วง และแกนนำชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านการปกครองของกองทัพ.-สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย” ประกาศขยายสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

กรุงเทพฯ 1 ส.ค.- พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ต่ออายุอำนาจการปกครองออกไปอีก 6 เดือน ด้วยการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่ระบุว่าจะจัดขึ้นในปีหน้า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ปราศรัยทางโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ได้ขยายสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศเมื่อปีก่อนหลังยึดอำนาจ เนื่องจากต้องการเวลาในการเดินหน้าการทำงานเพื่อนำประเทศกลับสู่เส้นทางระบอบประชาธิปไตยที่สันติและแบบหลายพรรคที่มีวินัย และเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปแบบประชาธิปไตยหลายพรรค กองทัพได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบตั้งแต่ยึดอำนาจ แต่กลุ่มก่อการร้ายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผู้คนและองค์กรที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายมุ่งมั่นที่จะทำลายเมียนมา แทนที่จะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตยในเมียนมา พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายกล่าวว่า ความขัดแย้งทางอาวุธจะต้องยุติเพื่อให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจะไม่มีการข่มขู่คุกคามหรือความไม่เป็นธรรม หน่วยงานความมั่นคงจะเร่งดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคงของประเทศเพื่อให้เมียนมาสามารถจัดการเลือกตั้งได้ เอพีตั้งข้อสังเกตว่า คำปราศรัยของผู้นำสูงสุดเมียนมาเรื่องการยุติความขัดแย้งทางอาวุธดูเหมือนจะหมายถึงปฏิบัติการทางทหารที่รัฐบาลใช้กับกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย เดิมกองทัพเมียนมาประกาศว่า จะจัดการเลือกตั้งภายใน 1 ปีหลังการยึดอำนาจในปี 2564 แต่ต่อมาประกาศว่า จะจัดการเลือกตั้งในปี 2566.-สำนักข่าวไทย

เผยชาวญี่ปุ่นถูกจับในเมียนมาเพราะบันทึกภาพประท้วง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค.- นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเผยว่า ชายชาวญี่ปุ่นถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมาควบคุมตัวเพราะบันทึกภาพการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาในนครย่างกุ้ง แกนนำกลุ่มเยาวชนประชาธิปไตยโต้กลับย่างกุ้ง ซึ่งจัดการประท้วงแบบฉับพลันในนครย่างกุ้งเมื่อวันเสาร์เผยว่า นายโทรุ คูโบตะ ผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบควบคุมตัวหลังการประท้วง นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุม 2 คนถูกจับกุมและควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจด้วย ส่วนภาพนายคูโบตะถือป้ายประท้วงที่บัญชีของกลุ่มสนับสนุนกองทัพเมียนมาโพสต์ในแอปพลิเคชันเทเลแกรมแล้วอ้างว่า ไม่ได้ถูกจับเพราะบันทึกภาพ แต่ถูกจับเพราะร่วมประท้วงนั้น แกนนำกลุ่มประท้วงชี้ว่า ภาพถ่ายหลังจากนายคูโบตะถูกจับกุมแล้ว บ่งชี้ว่าเป็นภาพบังคับจัดฉาก เจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นที่ขอสงวนนามเผยว่า มีข่าวชาวญี่ปุ่นถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำที่สถานีตำรวจในนครย่างกุ้ง ทางสถานทูตกำลังดำเนินการช่วยเหลืออยู่ ขณะที่รัฐบาลเมียนมายังไม่ประกาศเรื่องการจับกุมนายคูโบตะ และสื่อทางการเมียนมาที่มักรายงานข่าวการจับกุมผู้ประท้วงก็ไม่รายงานเรื่องนี้ ข้อมูลตามเว็บไซต์ประวัติการทำงานของคูโบตะระบุว่า งานของเขาเน้นประเด็นความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ คนเข้าเมือง และผู้อพยพ  โดยพยายามหยิบยกเรื่องสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนที่ถูกทำให้ไร้ความสำคัญและด้อยโอกาส เขาทำงานให้แก่บริษัทสื่ออย่างยาฮูนิวส์เจแปน ไวซ์เจแปน และอัลจาซีราห์ภาษาอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย” จะขยายสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 6 เดือน

เนปิดอว์ 1 ส.ค.- สื่อทางการเมียนมารายงานว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของเมียนมาจะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน โดยที่สภาความมั่นคงและกลาโหมได้ให้ความเห็นชอบแล้ว หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานว่า สมาชิกสภาความมั่นคงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อข้อเสนอขยายระยะเวลาของการใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน พร้อมกับอ้างคำกล่าวของ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายว่า เมียนมาต้องเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแบบหลายพรรคที่มีวินัย ซึ่งเป็นความปรารถนาของประชาชน รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งแรก หลังจากรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยอ้างเรื่องมีการโกงเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่พรรคของนางซู จีชนะเลือกตั้ง เมียนมาได้ตกอยู่ในความวุ่นวายตั้งแต่นั้น เนื่องจากกองทัพใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่ชุมนุมอย่างสันติ กองทัพเมียนมารับปากจะจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนสิงหาคม 2566.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาจับชาวญี่ปุ่นร่วมประท้วงในย่างกุ้ง

ย่างกุ้ง 31 ก.ค.- สื่อเมียนมารายงานว่า ตำรวจเมียนมาได้ควบคุมตัวชายชาวญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาในนครย่างกุ้ง เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์อ้างรายงานของสื่อเมียนมาว่า ชายคนนี้อยู่กับกลุ่มผู้ประท้วงในเขตดาโกงใต้ และถูกควบคุมตัวพร้อมกับชาวเมียนมา 2 คน ตำรวจได้ยึดข้าวของของพวกเขา รวมทั้งกล้องถ่ายรูป ด้านสถานทูตญี่ปุ่นในเมียนมาแจ้งว่า ได้ขอให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวชายคนนนี้ ซึ่งอยู่ในวัย 20 ปีเศษ และถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจในนครย่างกุ้ง แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเขาคือ นายโทรุ คูโบตะ ผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีตามที่มีรายงานระบุหรือไม่ เกียวโดนิวส์รายงานเพิ่มเติมว่า เมียนมาเคยควบคุมตัวผู้สื่อข่าวอิสระชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งในเดือนเมษายน 2564 และดำเนินคดีข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และฝ่าฝืนข้อกำหนดวีซ่า เขาได้รับการปล่อยตัวในเดือนต่อมาตามคำขอของรัฐบาลญี่ปุ่นและคนกลางหลายฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ประณามเมียนมาประหารชีวิตนักเคลื่อนไหว

ย่างกุ้ง 25 ก.ค.- หลายฝ่ายประณามรัฐบาลทหารเมียนมาที่เผยในวันนี้ว่า ได้ประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย 4 คนที่ถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือการก่อการร้าย รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมาหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมายประณามการประหารและเรียกร้องให้ประชาคมโลกลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาที่แสดงความโหดร้าย ขณะที่นายทอม แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมียนมาแถลงว่า ตกตะลึงและสิ้นหวังที่ทราบข่าวรัฐบาลทหารเมียนมาประหารชีวิตชาวเมียนมาที่รักชาติและเชิดชูสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสียและชาวเมียนมาทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อความโหดร้าย การกระทำที่ต่ำช้านี้จะต้องเป็นจุดเปลี่ยนให้แก่ประชาคมโลก โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงเมื่อเดือนก่อนว่า การลงโทษประหารชีวิตเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและใช้ในหลายประเทศ พลเรือนผู้บริสุทธิอย่างน้อย 50 คน ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ต้องเสียชีวิตเพราะคนเหล่านี้ และได้ตำหนิต่างชาติที่ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทั้ง 4 คนว่า ไร้ความยั้งคิดและแทรกแซงเมียนมา หลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาในฐานะประเทศประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนวาระปัจจุบัน ได้ส่งสารถึง พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของเมียนมาเมื่อเดือนมิถุนายนขอให้ระงับการประหารชีวิต แหล่งข่าวเผยว่า นักเคลื่อนไหวชายทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวในเรือนจำอินเส่ง ใกล้กรุงย่างกุ้ง ครอบครัวเดินทางมาเยี่ยมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แต่มีญาติเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยผ่านแพลตฟอร์มซูม สื่อทางการเมียนมารายงานในวันนี้ว่า มีการประหารชีวิต จากนั้นโฆษกรัฐบาลได้ยืนยันข่าวนี้กับวอยซ์ออฟเมียนมา แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่ามีการประหารเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย

“ซู จี” ถูกย้ายเข้าเรือนจำในเนปิดอว์แล้ว

เนปิดอว์ 23 มิ.ย.- นางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนเมียนมาที่ถูกรัฐประหารเมื่อปีก่อน ถูกย้ายจากการกักบริเวณในบ้านพัก ไปอยู่ห้องขังเดี่ยวในเรือนจำที่อยู่ในกรุงเนปิดอว์แล้ว โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงวันนี้ว่า นางซู จี ถูกนำตัวไปขังเดี่ยวตั้งแต่วันพุธ ตามข้อกำหนดในกฎหมายอาญา ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้รัฐบาลทหารเมียนมาได้สั่งการให้ย้ายกระบวนการทางกฎหมายทุกอย่าง รวมถึงการพิจารณาคดีนางซู จี จากห้องพิจารณาคดีในศาล ไปยังเรือนจำ โดยไม่ได้อธิบายเหตุผลใด ๆ ส่วนช่วงที่รัฐบาลทหารเมียนมาชุดก่อนที่นางซู จี จะชนะการเลือกตั้ง เธอถูกกักบริเวณในบ้านพักที่นครย่างกุ้งรวมเกือบ 15 ปี ในช่วงปี 2532-2553 แหล่งข่าวเผยว่า นางซู จี วัย 77 ปี ถูกกักบริเวณในบ้านพักซึ่งเป็นสถานที่ไม่มีการเปิดเผยในกรุงเนปิดอว์ตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่การทูตหลายคนและสุนัขของเธออาศัยอยู่ด้วย เธอได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านพักเพื่อขึ้นศาลเท่านั้น เธอถูกตั้งข้อหาหลายคดีซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดรวมกันไม่ต่ำกว่า 150 ปี โดยถูกตัดสินว่ามีความผิดไปแล้วในข้อหาทุจริต ข้อหายุยงให้ต่อต้านกองทัพ ข้อหาละเมิดมาตรการจำกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายโทรคมนาคม มีโทษจำคุกจนถึงขณะนี้แล้ว 11 ปี.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐชี้รัฐบาลทหารเมียนมาปราบกลุ่มต่อต้านไม่ได้

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.- นักการทูตระดับสูงของสหรัฐชี้ว่า รัฐบาลทหารเมียนมาไม่น่าจะปราบปรามกลุ่มต่อต้านได้ และควรฟื้นฟูการปกครองระบอบประชาธิปไตย หลังจากยึดอำนาจไปเมื่อกว่า 1 ปีก่อน นายเดเร็ก โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวกับสื่อที่กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ว่า เป็นการยากมากที่รัฐบาลทหารเมียนจะคิดในแง่ความเป็นจริงว่าจะสามารถเอาชนะได้ เพราะกำลังสูญเสียดินแดน และสูญเสียอย่างร้ายแรง รัฐบาลทหารเมียนมาไม่เพียงแต่กำลังถูกโดดเดี่ยวในประชาคมโลก แต่ยังถูกโดดเดี่ยวในประเทศด้วย จึงควรยุติการสู้รบและกลับสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย นายโชเลต์ ซึ่งอยู่ระหว่างตระเวนเยือนไทย สิงคโปร์และบรูไน เพื่อติดตามผลการหารือระหว่างสหรัฐและสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนที่สหรัฐเมื่อเดือนก่อนเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับอาเซียนและสมาชิกอาเซียนอย่างสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียในเรื่องเกี่ยวกับเมียนมา และหวังว่าจีนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกเรื่องเมียนมาด้วย กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แล้วใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง รวมทั้งพลเรือนที่จับอาวุธขึ้นต่อสู้ตามการเรียกร้องของกลุ่มต่อต้าน โดยประกาศให้กลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย” ขอเจรจาแบบเจอหน้ากับกลุ่มชาติพันธุ์

ย่างกุ้ง 22 เม.ย.- พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเรียกร้องขอเปิดการเจรจาสันติภาพแบบพบหน้ากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายกล่าวสุนทรพจน์ผ่านสื่อทางการว่า ขอเชิญผู้นำกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เรื่องเปิดการเจรจา โดยขอให้ตัวแทนการเจรจาลงทะเบียนกับทางการภายในวันที่ 9 พฤษภาคม และเขาจะพบกับตัวแทนเหล่านั้นด้วยตนเอง ทุกคนจะหารือกันอย่างซื่อสัตย์และเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสันติภาพและการพัฒนา อย่างไรก็ดี ผู้นำเมียนมาไม่ได้ระบุวันเวลาในการเจรจาแต่อย่างใด เอเอฟพีระบุว่า เมียนมามีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ประมาณ 20 กลุ่ม ส่วนใหญ่ยึดครองดินแดนห่างไกลของประเทศ โดยได้ต่อสู้กันเองและต่อสู้กองทัพมาหลายทศวรรษ เพื่อแย่งชิงการค้ายาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ และอำนาจการปกครองตนเอง กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์บางกลุ่มกล่าวโทษรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีที่ถูกรัฐประหารเมื่อปี 2564 และเสนอให้ที่พักรวมทั้งฝึกอาวุธให้แก่กองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) ที่รวมตัวกันตามเมืองต่าง ๆ เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำเมียนมาเรียกร้องเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ในช่วงที่กองทัพเมียนมาปะทะกับพีดีเอฟรายวัน พีดีเอฟบางกลุ่มยังร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์รบตามชายแดนด้วย นอกจากนี้เขายังประกาศว่า “จะบดขยี้พีดีเอฟ” ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามวันกองทัพเมื่อเดือนก่อนที่มีตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มเข้าร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาจะนิรโทษกรรม 1,600 คนในวันขึ้นปีใหม่

ย่างกุ้ง 17 เม.ย.- ครอบครัวของผู้ต้องขังจำนวนมากรวมตัวกันหน้าเรือนจำอินเส่งใกล้นครย่างกุ้งของเมียนมา หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศว่า จะนิรโทษกรรมผู้ต้องขังประมาณ 1,600 คน ในวันนี้ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า หลายครอบครัวที่ดูกระวนกระวายถือป้ายเขียนชื่อผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิกในครอบครัว โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ ๆ สตรีคนหนึ่งที่บุตรชายวัย 22 ปี ถูกจับกุมขณะประท้วงเมื่อ 8 เดือนก่อนเผยว่า มารอหน้าเรือนจำเนื่องจากบุตรชายส่งจดหมายมาบอกว่าอาจได้รับนิรโทษกรรมในเดือนนี้ ส่วนสตรีอีกคนที่บุตรชายซึ่งเป็นตำรวจถูกจับกุมในเดือนมิถุนายนปีก่อนโทษฐานเข้าร่วมการดื้อแพ่งประท้วงรัฐบาลเผยว่า มารอหน้าเรือนจำทุกครั้งที่มีการนิรโทษกรรม หวังว่าบุตรชายจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ พล.ท.อ่อง ลิน เว เลขาธิการสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมาลงนามแถลงการณ์ที่ประกาศว่า ผู้ต้องขัง 1,619 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 42 คน จะได้รับการปล่อยตัวด้วยการนิรโทษกรรม เป็นส่วนหนึ่งของฉลองวันขึ้นปีใหม่ของเมียนมา เพื่อนำมาซึ่งความสุขให้แก่ประชาชนและแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรม รอยเตอร์ระบุว่า จำนวนผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่แล้วที่ปล่อยมากถึง 23,000 คน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีสมาชิกรัฐบาลพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 หรือไม่ ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า ตั้งแต่รัฐประหารรัฐบาลทหารเมียนมาได้จับกุมคนไปแล้ว 13,282 คน และสังหารผู้ต่อต้าน 1,756 คน.-สำนักข่าวไทย

จีนว่าจะสนับสนุนเมียนมาไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

จีนกล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งจะยังคงสนับสนุนเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งเป็นการแสดงท่าทีอย่างชัดเจนล่าสุดของจีนในการสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาที่มาจากการก่อรัฐประหารของกองทัพ

เมียนมาแจ้งทูตอาเซียนเรื่องไม่ให้พบซู จี

พนมเปญ 23 มี.ค.- ทูตพิเศษว่าด้วยเรื่องเมียนมาของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเผยว่า ได้ขอให้รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความอดกลั้น และได้รับแจ้งจากผู้นำทหารเมียนมาว่า จะไม่ได้พบกับนางออง ซาน ซู จี อดีตผู้นำพลเรือนในระหว่างที่เธอกำลังถูกไต่สวน นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาในฐานะทูตพิเศษอาเซียน เผยกับสื่อขณะเดินทางกลับมาถึงกัมพูชาในวันนี้ว่า เขาได้พยายามหาทางให้เมียนมาปล่อยตัวนักโทษหลายคน รวมถึงนายฌอน เทอร์เนลล์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลีย และได้รับคำตอบจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาว่า จะพิจารณาคำขอพบนางซู จี และนักโทษคนอื่น ๆ ในภายหลัง นายปรัก สุคน กล่าวว่า เข้าใจดีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า การที่เขาไปเยือนเมียนมาเท่ากับสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลทหารเมียนมา และรู้ว่ามีการคาดหวังว่าการเยือนนี้จะนำมาซึ่งการหยุดยิง หวังว่าเขาจะได้พบกับทุกฝ่ายในเมียนมา และหวังว่าเมียนมาจะกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตย เขามองว่าการเยือน 2 วันที่ผ่านมาถือเป็นก้าวที่ดีต่อการหาทางแก้ไขวิกฤตเมียนมา อย่างไรก็ดี ประเด็นเมียนมาเป็นเรื่องซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการแก้ไข และไม่สามารถลุล่วงได้ในช่วงเวลาที่กัมพูชาเป็นประธานอาเซียนในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6
...