เสียงระเบิดดังในกรุงเคียฟของยูเครนหลังเรือรบรัสเซียจม

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่องได้ยินมาจากกรุงเคียฟ นครหลวงของยูเครนเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ และเสียงไซเรนเตือนภัยจากการโจมตีทางอากาศดังขึ้นทั่วยูเครน ขณะที่ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีครั้งใหม่ของกองทัพรัสเซีย หลังเรือรบสำคัญในทะเลดำอัปปางและจมลงหลังจากเกิดเพลิงไหม้

เรือรบรัสเซียในทะเลดำเสียหายหนักจากเหตุระเบิด

รัสเซียเปิดเผยวันนี้ว่า เรือรบของรัสเซียในกองเรือในทะเลดำได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและลูกเรือต้องอพยพอออกจากเตรือหลังจากเกิดเหตุระเบิด

รัสเซียว่าทหารยูเครนยอมมอบตัวที่เมืองมารีอูปอล

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าววันนี้ว่า นาวิกโยธินของยูเครน 1,026 นาย ยอมแพ้และมอบตัวที่เมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางใต้ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลรัสเซียในแคว้นดอนบาส ซึ่งรัสเซียยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด

รัสเซียว่าสหรัฐเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องอาวุธเคมี

รัสเซียกล่าววันนี้ว่า คำกล่าวอ้างของสหรัฐและยูเครนที่ว่า รัสเซียอาจจะใช้อาวุธเคมีในยูเครนเป็นข้อมูลที่บิดเบือนเพราะว่า รัฐบาลมอสโกทำลายคลังอาวุธเคมีแห่งสุดท้ายไปแล้วในปี 2017

เผยทหารยูเครนกว่า 1,000 นายยอมจำนนที่เมืองมารีอูปอล

นายรัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชชเนีย สาธารณรัฐปกครองตนเอง ในรัสเซีย กล่าวว่า นาวิกโยธินในกองทัพยูเครนมากกว่า 1,000 นายยอมจำนนในเมืองท่ามารีอูปอล ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมอยู่ในขณะนี้ พร้อมกันนั้น เขาได้เรียกร้องให้กองกำลังที่เหลือและหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงงานอาซอฟสตัล ให้ออกมามอบตัว

“ไบเดน” ระบุรัสเซียกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวเป็นครั้งแรกว่า การที่ใช้รัสเซียใช้กำลังทหารบุกรุกรานยูเครนนั้นเทียบได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน

สงครามยูเครน : รัสเซียเตรียมเปิดฉากรบครั้งใหญ่ในดอนบาส

ในสงครามยูเครน ภูมิภาคดอนบาส กลายเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามว่าใครจะช่วงชิงความได้เปรียบ ขณะนี้รัสเซียกำลังมุ่งสรรพกำลังไปยังพื้นที่นี้ และเมืองสำคัญอย่างมาริอูโพล ซึ่งล่าสุดเกิดข้อกล่าวหาการใช้อาวุธเคมีด้วย

“ปูติน” ไปพบผู้นำเบลารุสในแคว้นตะวันออกไกลของรัสเซีย

มอสโก 12 เม.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปยังแคว้นอามูร์ ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ในวันนี้เพื่อหารือกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส โดยคาดว่ามีวาระสำคัญเกี่ยวกับสงครามยูเครนและความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเบลารุส สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีลูคาเชนโกจะเดินทางไปยังฐานปล่อยจรวดวอสโตชินี คอสโมโดรม (Vostochny Cosmodrome) ในแคว้นอามูร์ของรัสเซียเพื่อรำลึกถึงวันนักบินอวกาศ (Cosmonautics Day) ของรัสเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เมษายนของทุกปี โดยเป็นวันที่รัสเซียได้ส่ง ยูริ กาการิน นักบินอวกาศชาวรัสเซีย ขึ้นสู่อวกาศเป็นคนแรกของโลกในปี 2504 ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีลูคาเชนโกจะเดินเยี่ยมชมลานจอดยานอวกาศและพบปะกับเจ้าหน้าที่ของฐานปล่อยจรวด รวมถึงแถลงข่าวร่วมกันในเวลา 11.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 18.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของประธานาธิบดีปูตินที่กล่าวในงานดังกล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนจะบรรลุเป้าหมายสูงส่งอย่างไร้ข้อกังขา รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติและการปะทะกับกองกำลังต่อต้านรัสเซียในยูเครนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทหารในครั้งนี้คือการปกป้องประชาชนในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นดอเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน และการใช้คำสั่งปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเร่งสอบข้อกล่าวหารัสเซียใช้อาวุธเคมีในยูเครน

ลอนดอน 12 เม.ย. – นายเจมส์ ฮีปปีย์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ เผยวันนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังเร่งสอบสวนว่ากองทัพรัสเซียนำอาวุธเคมีมาใช้ในสงครามยูเครนหรือไม่ หลังจากที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษระบุเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า อังกฤษกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตรวจสอบรายงานที่ชี้ว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน นายฮีปปีย์เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า อังกฤษได้รับรายงานเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอลที่ถูกปิดล้อมผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของยูเครน แต่หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมอังกฤษและกระทรวงกลาโหมยูเครนยังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้อย่างอิสระ ขณะนี้ อังกฤษกำลังเร่งสอบสวนว่ารัสเซียนำอาวุธเคมีมาใช้ในยูเครนจริงหรือไม่ หากมีหลักฐานยืนยันว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีจริง นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และบรรดาผู้นำรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกก็พร้อมออกมาตรการตอบโต้ทุกวิถีทางต่อรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ต้องตระหนักถึงผลเสียจากการใช้อาวุธเคมี เนื่องจากอาวุธประเภทนี้ไม่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ระบุเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า อังกฤษกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตรวจสอบรายงานที่ชี้ว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมมานานเกือบ 7 สัปดาห์ จนทำให้คาดว่ามีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยในวันเดียวกันว่า รัสเซียอาจนำอาวุธเคมีมาใช้โจมตียูเครน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซียเพื่อขัดขวางการใช้อาวุธเหล่านี้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียกังวลการใช้อาวุธเคมี

รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กังวลเกี่ยวกับรายงานการใช้อาวุธเคมีของรัสเซีย หากข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติ

นายกเล็กเมืองมารีอูปอลเผยมีพลเรือนตายกว่า 10,000 ราย

มารีอูปอล 12 เม.ย. – นายกเทศมนตรีของเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อม เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอลนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะที่อังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า นายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล เผยกับสำนักข่าวเอพีเมื่อวันจันทร์จากพื้นที่นอกเมืองมารีอูปอลว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอล และยังคงมีพลเรือนราว 120,000 คนติดค้างอยู่ในเมืองดังกล่าว โดยที่ประชาชนเหล่านี้ต้องการอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคโดยด่วน เขายังได้รับรายงานว่า กองทัพรัสเซียกำลังเก็บศพพลเรือนและนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมือง รวมถึงการนำศพไปใส่ตู้คอนเทนเนอร์ท้ายรถบรรทุกแล้วจุดไฟเผา อย่างไรก็ดี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวหาดังกล่าวของนายบอยเชนโกได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของอังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า เนื่องจากรัสเซียยังคงตั้งเป้าบุกโจมตีพื้นที่ดังกล่าวต่อไป ขณะนี้ กองทัพรัสเซียได้มุ่งโจมตีพื้นที่ใกล้แคว้นโดเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงพื้นที่รอบเมืองเคอร์ซันและเมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังระบุเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียยังคงใช้เส้นทางเดินทัพผ่านเบลารุสเพื่อเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของอังกฤษเผยว่า รัสเซียยังตั้งเป้าโจมตีเมืองครามาตอร์สก์ ทางตะวันออกของยูเครน หลังมีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบรายจากการยิงจรวดถล่มสถานีรถไฟของเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

1 89 90 91 92 93 152
...