“ไบเดน” เตรียมต้อนรับวง “BTS” ถกประเด็นเกลียดชังเอเชีย

วอชิงตัน 27 พ.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับ ‘บีทีเอส’ บอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลีใต้ ในสัปดาห์หน้าเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ทำเนียบขาวสหรัฐระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับวงบีทีเอสในวันอังคารหน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและการเป็นตัวแทนของชาวเอเชีย รวมถึงการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชีย ซึ่งทวีความรุนแรงในสหรัฐมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนและวงบีทีเอสยังเห็นพ้องต้องกันในการใช้แพลตฟอร์มของบีทีเอสให้เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ในการสื่อสารเกี่ยวกับความหวังและความคิดเชิงบวกไปทั่วโลก ในขณะเดียวกัน บิ๊ก ฮิต มิวสิค บริษัทต้นสังกัดของวงบีทีเอส ระบุว่า วงบีทีเอส ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้เข้าพบประธานาธิบดีไบเดนที่ทำเนียบขาว ในฐานะที่เป็นศิลปินเค-ป็อปจากเกาหลีใต้ วงบีทีเอสได้ตั้งใจที่จะพูดคุยกับผู้นำสหรัฐในหลายประเด็น เช่น การมีส่วนร่วม ความหลากหลาย ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย วัฒนธรรม และศิลปะ ก่อนหน้านี้ สหรัฐเพิ่งจับกุมมือปืนชายที่ก่อเหตุกราดยิงหญิงอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 3 คนที่ร้านทำผมแห่งหนึ่งในเมืองดัลลัสของรัฐเทกซัส ขณะนี้ตำรวจกำลังสืบสวนว่าเหตุดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

รอง ปธน. สหรัฐติดโควิด

วอชิงตัน 27 เม.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา เดวี แฮร์ริสของสหรัฐ มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นบวก แต่ไม่แสดงอาการ นับเป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายล่าสุดที่ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โฆษกส่วนตัวนางแฮร์ริสเผยว่า รองประธานาธิบดีไม่ได้ใกล้ชิดประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีตารางการเดินทางแยกกัน ขณะนี้กำลังรับประทานยาแพ็กซ์โลวิดตามแพทย์สั่งและกักตัวที่บ้าน โดยจะกลับมาทำงานที่ทำเนียบขาวเมื่อผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลเผยว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสตรวจพบเชื้อเมื่อมาทำงานที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร และเดินทางกลับไปโดยยังไม่ได้พบประธานาธิบดี ช่วงหลายสัปดาห์มานี้มีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกหลายคน รวมถึงนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็มีผลตรวจเป็นบวกหลายคน เช่น นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายแมร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุด นางจีนา รามอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐรับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิแล้ว 2 เข็ม และพบปะกับแขกกลุ่มใหญ่ที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยที่ทำเนียบขาวหลายครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า การที่ประธานาธิบดีพบปะกับคณะที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนอย่างสม่ำเสมอทำให้มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ แต่ทางการต้องการทำให้บรรยากาศเป็นปกติ เพราะชาวอเมริกันส่วนใหญ่กลับไปทำงานและใช้ชีวิตตามปกติแล้ว.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยังไม่ตัดสินใจเรื่องคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย

วอชิงตัน 3 มี.ค.- ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า อาจตัดสินใจคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียหากรัสเซียยังเดินหน้ารุกรานยูเครน แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ เพราะไม่อยากให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลงในช่วงที่น้ำมันแพงแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี เจน ซากี โฆษกหญิงของทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี (MSNBC) เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐอาจคว่ำบาตรน้ำมันส่งออกของรัสเซียหากรัสเซียยังเดินหน้ารุกรานยูเครน เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาแล้วแต่จะต้องคำนึงถึงผลกระทบทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น และว่าสหรัฐและพันธมิตรตกลงปล่อยน้ำมันสำรอง 60 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาดเพื่อลดผลกระทบเรื่องปริมาณและราคาน้ำมัน ต่อมาคารีน จีน-ปิแอร์ รองโฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลยังไม่คิดเรื่องทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง เพราะจะทำให้ราคาน้ำมันตามสถานีบริการในสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นด้วย นายภารัต รามามูร์ติ รองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเผยกับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่า ทำเนียบขาวยังไม่ต้องการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ เพราะการคว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซของรัสเซียในเวลานี้จะกระทบต่อผู้บริโภคในสหรัฐ และจะทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกปรับสูงขึ้น เท่ากับทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซียมีกำไรมากยิ่งขึ้นไปอีก ด้านนายดาลีบ ซิงห์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า รัฐบาลกำลังหาทางลดปริมาณการใช้น้ำมันรัสเซีย ควบคู่ไปกับการประคองปริมาณน้ำมันในตลาดโลก เพราะสามารถนำเข้าน้ำมันจากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ ด้าน สว.โจ แมนชิน พรรคเดโมแครต และ สว.ลิซา เมอร์เคาสกี พรรครีพับลิกัน ในคณะกรรมาธิการพลังงานในวุฒิสภาสหรัฐกำลังร่างกฎหมายห้ามนำเข้าน้ำมันดิบ เชื้อเพลิงเหลว และก๊าซธรรมชาติเหลวจากรัสเซีย หวังเพิ่มการกดดันรัสเซียหลังจากสหรัฐคว่ำบาตรโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียและห้ามการส่งออกเทคโนโลยีเฉพาะที่จะนำไปใช้ปรับปรุงโรงกลั่นเหล่านั้นแล้ว ปีที่แล้วสหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซียเดือนละไม่ต่ำกว่า 20.4 ล้านบาร์เรล และเชื้อเพลิงเหลวร้อยละ 8.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” เตือน “ปูติน” อย่ารุกรานยูเครน

วอชิงตัน 8 ธ.ค.- ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้แจ้งกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า สหรัฐเตรียมใช้มาตรการทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรง หากรัสเซียรุกรานยูเครน ส่งสัญญาณว่ามาตรการดังกล่าวจะรุนแรงกว่าที่สหรัฐเคยใช้ในปี 2557 แต่ไม่สามารถหยุดยั้งรัสเซียไม่ให้ผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนได้ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเผยกับสื่อ หลังจากประธานาธิบดีไบเดนสนทนากับประธานาธิบดีปูตินผ่านการโทรระบบวิดีโอทางไกลนาน 2 ชั่วโมงเมื่อบ่ายวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีไบเดนมองตาประธานาธิบดีปูตินแล้วพูดว่า สหรัฐเตรียมจะทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำในปี 2557 โดยได้แสดงความตรงไปตรงมา แต่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่มีการชี้นิ้วชี้หน้ากัน พร้อมกับย้ำต่อผู้นำรัสเซียว่า สหรัฐพร้อมเสริมสร้างศักยภาพทางทหารในภูมิภาคดังกล่าว นายซัลลิแวนเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าประธานาธิบดีปูตินยังไม่ตัดสินใจเรื่องบุกยูเครน และขณะนี้สหรัฐกำลังประสานกับพันธมิตรในยุโรปในประเด็นที่เฉพาะเจาะจง ทางด้านนายปูติน ได้เรียกร้องขอคำรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต จะไม่ขยายขอบเขตปฏิบัติการทางทหารไปยังทิศตะวันออกเพิ่มเติม แต่นายไบเดน ไม่ได้ให้คำรับประกันในเรื่องนี้ รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำทั้งสองไม่ได้บรรลุข้อตกลงใด ๆ แต่ตกลงที่จะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ความตึงเครียดน่าจะเริ่มลดลง เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแหล่งข่าวด้านข่าวกรองว่า ช่วงหลายเดือนมานี้รัสเซียได้สร้างเส้นทางลำเลียงเวชภัณฑ์และเชื้อเพลิงที่จะเอื้อให้การปะทะยืดเยื้อในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน ขณะที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐประเมินว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนได้ในอีกไม่กี่เดือน เพราะได้ระดมกำลังพลตามแนวชายแดนด้านยูเครนมากถึง 175,000 นาย.-สำนักข่าวไทย

ตั๋วบินไปสหรัฐคึกคักรับเปิดประเทศจันทร์ที่จะถึงนี้

ยอดจองตั๋วโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศไปสหรัฐเพิ่มขึ้นทันทีที่ทำเนียบขาวประกาศว่า จะเปิดประเทศรับผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสแล้ว เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ตามเวลาสหรัฐ

“ไบเดน” จะเปิดเผยแผน 6 ข้อรับมือโควิด-19

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะกล่าวปราศรัยชี้แจงเค้าโครงแนวทางใหม่ในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสหรัฐ ซึ่งยังคงระบาดแม้จะมีวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัส

ทำเนียบขาวไม่เผยยอดติดโควิดใน จนท.ฉีดวัคซีนแล้ว

ทำเนียบขาวสหรัฐไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หลังจากมีเจ้าหน้าที่มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อต้นสัปดาห์

“ไบเดน” จะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำเยอรมนีสัปดาห์หน้า

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ในวันพฤหัสบดีหน้า เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยืนยาวระหว่างสองประเทศและจะหารือเพื่อแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างกันในบางเรื่อง

“ไบเดน” ขอชาวอเมริกันช่วยยุติโควิดเนื่องในวันชาติสหรัฐ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ฉลองครบรอบ 245 ปีวันชาติสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นด้วยการเปิดทำเนียบขาวจัดงานเลี้ยงและเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพื่อยุติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

ปธน.อัฟกานิสถาน เข้าพบผู้นำสหรัฐ

ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว พร้อมยอมรับหลังสหรัฐถอนทหารไปแล้วคือความยุ่งยาก

สหรัฐ-เกาหลีใต้วางแผนกระชับความสัมพันธ์

สหรัฐและเกาหลีใต้ให้คำมั่นร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ผู้นำเกาหลีใต้จะเยือนทำเนียบขาวในวันที่ 21 พ.ค. นี้

ทำเนียบขาวของสหรัฐ เปิดเผยวานนี้ว่า ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ จะเดินทางไปเยือนทำเนียบขาวในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ เพื่อเจรจาหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยจะเน้นถึงความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ

1 2 3 4 5 6 16
...