Thousands rally for women's rights in Washington ahead of presidential election

ชุมนุมเรียกร้องสิทธิสตรีในเมืองหลวงสหรัฐก่อนเลือกตั้ง

วอชิงตัน 3 พ.ย.- สตรีจำนวนมากรวมตัวกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น แล้วเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องเรื่องสิทธิสตรีก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ตามเวลาท้องถิ่น สตรีจากเมืองต่าง ๆ เดินทางมารวมตัวกันโดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงและความเสมอภาค พร้อมกับโบกธงและถือป้ายระหว่างตะโกนคำขวัญว่า จะไม่ยอมกลับหลัง จนกระทั่งขบวนไปสิ้นสุดที่ทำเนียบขาวช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ เดิมผู้จัดการชุมนุมคาดหมายว่า จะมีคนเข้าร่วมประมาณ 5,000 คน แต่ปรากฏว่ามีคนมารวมตัวกันที่ลานฟรีดอมพลาซามากถึง 10,000 คน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอ้างผลงานการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาหลายคนที่ทำให้เกิดการพิพากษาในปี 2565 ยกเลิกคำตัดสินคดีระหว่างโรกับเวด (Roe v. Wade) ปี 2516 ที่ระบุว่าการทำแท้งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้การทำแท้งกลายเป็นการตัดสินใจในระดับรัฐ ขณะที่รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐชูนโยบายคืนสิทธิการทำแท้งให้แก่สตรีอีกครั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย

US First Lady, in panda costume, welcome Halloween trick-or-treaters

สตรีหมายเลข 1 สหรัฐแต่งชุดแพนด้ารับฮาโลวีน

วอชิงตัน 31 ต.ค.- ผู้นำสหรัฐเปิดทำเนียบขาวต้อนรับเด็ก ๆ เนื่องในวันฮาโลวีน โดยมีสตรีหมายเลขหนึ่งลงทุนแต่งกายเป็นแพนด้าสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็ก ๆ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 จัดกิจกรรมต้อนรับวันฮาโลวันที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ มีการตกแต่งหน้าทำเนียบขาวอย่างสวยงามในธีมฮาโลวีน  ประธานาธิบดีไบเดนได้นำลูกอมมาแจกให้แก่เด็ก ๆ อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง เด็กหลายคนแต่งกายด้วยชุดแฟนซีเข้ากับบรรยากาศของงาน  ขณะที่สตรีหมายเลข 1 สร้างความประหลาดใจด้วยการปรากฎตัวในชุดแพนด้า ก้าวเดินออกมาจากประตูทำเนียบขาวเคียงข้างผู้นำสหรัฐ และนำหนังสือมาแจกให้แก่เด็ก ๆ เพื่อส่งเสริมการอ่าน สาเหตุที่แจกหนังสือเพราะเธอเคยทำงานเป็นนักการศึกษามาอย่างยาวนาน  งานนี้สร้างความประทับใจและสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นการจัดงานวันฮาโลวีนที่ทำเนียบขาวครั้งสุดท้ายของประธานาธิบดีไบเดนที่จะต้องส่งต่อตำแหน่งให้แก่ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ตามเวลาสหรัฐ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” จะพบกับ ปธน. เวียดนามในวันพุธ

ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าววันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีกำหนดจะพบกับประธานาธิบดีโต เลิม ของเวียดนาม ในวันพุธ

ยังไม่รู้เหตุจูงใจยิง “ทรัมป์”

วอชิงตัน 16 ก.ค.- โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจของมือปืนที่พยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แครีน ฌ็อง ปิแยร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ยังไม่ทราบความคิดเห็นใดๆ และยังไม่รู้ว่ามีใครมีส่วนร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ขณะที่นายอเลฮันโดร มายอร์คัส รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแถลงว่า การตรวจสอบของคณะทำงานอิสระในกรณีลอบยิงนายทรัมป์กำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดี (Secret Service) จะให้การดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่สำหรับนายเจ.ดี.แวนซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดีของนายทรัมป์ รวมทั้งนายโรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี จูเนียร์ ผู้สมัครอิสระซึ่งลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ด้วย ด้านคิมเบอร์ลี ชีเทิล ผู้อำนวยการสำนักงานอารักขาประธานาธิบดีที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลความปลอดภัยประธานาธิบดีและอดีตประธานาธิบดี เผยเพียงว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติการได้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และยืนยันว่าทางสำนักงานฯ กำลังเสริมมาตรการต่าง ๆ เพื่อรับประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก และจะให้ความร่วมมือในการสืบสวนกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดกับทรัมป์อย่างเต็มที่.-815,816(814).-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวยืนยัน “ไบเดน” ไม่ได้รักษาพาร์กินสัน

วอชิงตัน 9 ก.ค.- ทำเนียบขาวยืนยันว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้อยู่ระหว่างรับการรักษาโรคพาร์กินสัน ตามที่มีรายงานข่าวว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคนี้เข้าทำเนียบขาวหลายครั้ง แครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้รับการรักษาโรคพาร์กินสัน หรืออยู่ระหว่างรับการรักษา แต่ไม่ขอยืนยันหรือให้รายละเอียดต่อรายงานข่าวเรื่อง นพ. เควิน แคนนาร์ด นักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนไหวผิดปกติของศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอเตอร์รีดเข้าทำเนียบขาวอย่างน้อย 8 ครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ถึงมีนาคม 2567 โดยกล่าวว่า ต้องการเคารพความเป็นส่วนตัวของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่เมื่อถูกสื่อมวลชนซักถามซ้ำ ๆ เธอตอบว่า ไบเดนพบนักประสาทวิทยาคนหนึ่งทั้งหมด 3 ครั้ง โดยเกี่ยวข้องกับการตรวจสุขภาพประจำปี ส่วนเรื่องที่ นพ. แคนนาร์ดเข้าทำเนียบขาวอาจเข้ามารักษาบุคลากรทางทหารที่ทำงานในทำเนียบขาว ซึ่งมีอยู่หลายพันนาย กระแสข่าวเรื่องไบเดนอาจป่วยด้วยโรคที่ไม่เปิดเผยกลายเป็นประเด็นตั้งแต่เขาแสดงท่าทางตะกุกตะกัก ดูอ่อนแอ และพูดแล้วลืมเป็นครั้งคราวระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตกับโดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน กระแสนี้ถูกตอกย้ำเมื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์รายงานเป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ตามด้วยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม อ้างบันทึกการเข้าทำเนียบขาวว่า นพ. แคนนาร์ดเข้าทำเนียบขาวอย่างน้อย 8 ครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 […]

สหรัฐรอฮามาสตอบรับข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอล

วอชิงตัน 5 มิ.ย.- ทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า สหรัฐกำลังรอคำตอบของฮามาสเรื่องข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอลที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเผยกับสื่อเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐกำลังรอคอยคำตอบจากฮามาส ผ่านคณะเจรจากาตาร์ที่เป็นคนกลางเจรจาเรื่องกาซาระหว่างอิสราเอลกับฮามาส นายวิลเลียม เบิร์น ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ของสหรัฐจะเดินทางไปกรุงโดฮาเพื่อหารือเรื่องนี้กับคณะเจรจากาตาร์ กาตาร์แถลงเมื่อวานนี้ว่า ได้นำข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอลไปแจ้งแก่ฮามาสแล้ว เป็นข้อเสนอ 3 ระยะที่ประธานาธิบดีไบเดนเป็นผู้เปิดเผย และเป็นข้อเสนอที่เข้าใกล้จุดยืนของทั้งอิสราเอลและฮามาสมากกว่าเดิม ขณะที่โฆษกฮามาสย้ำในวันเดียวกันว่า จะไม่ยอมรับข้อตกลงใด ๆ จนกว่าอิสราเอลจะให้คำมั่นชัดเจนเรื่องพักรบถาวร และถอนกำลังพลทั้งหมดออกจากกาซา ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลย้ำมาโดยตลอดว่า จะไม่มีสันติภาพถาวร ตราบใดที่ฮามาสยังไม่ถูกกำจัด ผู้นำอิสราเอลกำลังเผชิญกับความแตกแยกทางการเมืองในประเทศเรื่องที่ยื่นข้อเสนอหยุดยิงดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” เหน็บ “ทรัมป์” ในงานเลี้ยงนักข่าวทำเนียบขาว

วอชิงตัน 28 เม.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐใช้การกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงประจำปีของสมาคมผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว พูดเหน็บนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ด้านนอกมีผู้ชุมนุมต่อต้านเขาที่สนับสนุนอิสราเอลในการทำสงครามกาซา ประธานาธิบดีไบเดนวัย 81 ปี นำเรื่องอายุมากล่าวติดตลกว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นสำหรับการเลือกตั้งในปีนี้ เขาเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังสู้กับเด็กวัย 6 ขวบ อายุเป็นเรื่องเดียวที่เขาและทรัมป์วัย 77 ปี มีร่วมกัน เขาได้ยืดแข้งยืดขาพักผ่อนเต็มที่นับจากการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาหรือสเตทออฟเดอะยูเนียนเมื่อต้นเดือนมีนาคม ขณะที่ทรัมป์เจอแต่เรื่องเวลาแย่ ๆ ในช่วงนี้ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มาร่วมงานเลี้ยงว่า ไม่ได้ขอให้เลือกข้าง แต่ขอให้จริงจังอย่างยิ่งกับช่วงเวลานี้ ขอให้ก้าวข้ามสิ่งต่าง ๆ ที่มาครอบงำและสร้างกระแสให้แก่การเมืองของสหรัฐ แล้วมุ่งความสนใจไปที่เดิมพันที่แท้จริงของการเลือกตั้งครั้งนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวตั้งขึ้นในปี 2457 และได้จัดงานเลี้ยงประจำปีเกือบทุกปีมาตั้งแต่ปี 2464 สำหรับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวและเพื่อระดมทุนการศึกษา เป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่มีผู้สื่อข่าว นักการเมือง และบุคคลมีชื่อเสียงจำนวนมากมาร่วมงานกันแบบใกล้ชิด ประธานาธิบดีไบเดนเข้างานเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นด้วยการเข้าประตูด้านหลังของโรงแรม เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มผู้ประท้วงขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าโรงแรม แต่ก็ยังหนีไม่พ้นกลุ่มผู้ประท้วงขนาดเล็กที่เรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา กลุ่มโค้ดพิงก์ (CODEPINK) ที่เดินขบวนจากสวนสาธารณะใกล้ ๆ ไปยังหน้าโรงแรมโพสต์ในเว็บไซต์ว่า สื่อในสหรัฐปลุกกระแสต่อต้านปาเลสไตน์และเพิกเฉยต่อการก่ออาชญากรรมสงครามของอิสราเอล.-814.-สำนักข่าวไทย

เปิดเมนูอาหารค่ำที่ “ไบเดน” จัดเลี้ยงนายกฯ ญี่ปุ่น

วอชิงตัน 10 เม.ย.- ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเมนูอาหารค่ำที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภริยาจะจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการให้แก่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นและภริยาที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ ซึ่งจะเต็มไปด้วยสีสันแห่งความเป็นญี่ปุ่น ทำเนียบขาวแถลงเมื่อเย็นวานนี้ว่า งานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการจะมีสเต็กเนื้อริบอายดรายเอจราดซอสงาซาบายอน เป็นจานหลัก โดยมีพอล ไซมอน นักร้องชายชาวอเมริกันระดับตำนานวัย 82 ปี คอยขับกล่อมเพลงดังประจำตัวในห้องจัดเลี้ยงตกแต่งด้วยพัดจำนวนมาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นการมีชีวิต ส่วนของหวานสำหรับแขกที่มีมากกว่า 200 คนจะเป็นเค้กพิสตาชิโอเคลือบกานาชรสมัทฉะ ไอศรีมเชอร์รีและหยดซอสราสเบอรี โดยมีคาราเมลมิโซะเป็นรสชาติซ่อนอยู่ภายใน นางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐกล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมการจัดเตรียมงานเลี้ยงว่า ห้องจัดเลี้ยงจะได้รับการตกแต่งให้เป็นบรรยากาศแห่งฤดูใบไม้ผลิที่มีชีวิตชีวา แขกผู้มีเกียรติจะนั่งรับประทานอาหารท่ามกลางสวนดอกไม้ และหลังจากเสร็จสิ้นมื้ออาหาร แขกผู้มีเกียรติจะเข้าสู่ห้องโถงเพื่อดื่มด่ำกับแม่น้ำแห่งฤดูใบไม้ผลิที่มีปลาคาร์ฟแหวกว่ายอยู่ในสายน้ำ เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมิตรภาพ สันติภาพ ความโชคดี และความอุตสาหะ.-814.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวตำหนิ “ทรัมป์” พูดเรื่องนาโต-รัสเซีย

วอชิงตัน 11 ก.พ.- ทำเนียบขาวของสหรัฐตำหนินายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวว่า จะไม่ปกป้องพันธมิตรนาโตหากถูกรัสเซียรุกรานว่า เป็นคำกล่าวที่น่าตกใจและบ้าคลั่ง ทรัมป์เล่าระหว่างหาเสียงที่รัฐแคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า เคยคุยกับผู้นำสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต และมีประธานาธิบดีของประเทศใหญ่ประเทศหนึ่งถามว่า หากประเทศของเขาไม่จ่ายเงินสมทบนาโตแล้วถูกรัสเซียรุกราน ทรัมป์จะปกป้องประเทศของเขาหรือไม่ ทรัมป์จึงตอบไปว่า หากไม่จ่ายเงินสมทบ ค้างชำระ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป จะไม่ปกป้อง และจะบอกให้รัสเซียทำสิ่งที่อยากทำเสียด้วยซ้ำ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐตอบข้อถามเรื่องคำกล่าวของทรัมป์ว่า การสนับสนุนให้รัฐบาลฆาตกรรุกรานพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐเป็นเรื่องที่น่าตกใจและบ้าคลั่ง อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เสถียรภาพโลก และเศรษฐกิจสหรัฐ โฆษกกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีไบเดนที่จะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ได้กระชับความสัมพันธ์กับนาโตตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2564 เป็นการสร้างหลักประกันว่า นาโตมีความสำคัญมากที่สุดและเป็นองค์กรใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทรัมป์เคยขู่หลายครั้งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐว่า จะถอนสหรัฐออกจากนาโต โดยเฉพาะในการประชุมสุดยอดนาโตปี 2561 ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม แต่ยังไม่เกิดขึ้นจริง.-814.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบขาวระบุรัสเซียใช้ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือโจมตียูเครน

ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าววานนี้ อ้างรายงานข่าวกรองลับล่าสุดว่า เมื่อไม่นานมานี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยใกล้ หรือ เอสอาร์บีเอ็ม ที่มีแหล่งที่มาจากเกาหลีเหนือในการโจมตียูเครนหลายละลอก

“คิม จอง-อึน” ดูภาพถ่ายดาวเทียมทำเนียบขาว-กลาโหมสหรัฐ

เปียงยาง 28 พ.ย.- สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ตรวจดูภาพถ่ายดาวเทียมทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม และเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐที่ถ่ายจากดาวเทียมจารกรรมของเกาหลีเหนือ สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมได้รับภาพถ่ายดาวเทียมจากรายงานของศูนย์ควบคุมกลางเปียงยางแห่งสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติเมื่อเช้าวันจันทร์และเช้าตรู่วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น นายคิมได้ตรวจดูภาพถ่ายทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ถ่ายเมื่อเวลา 11:36 น.วันจันทร์ ภาพถ่ายฐานทัพเรือนอร์โฟลก์ อู่เรือนิวพอร์ตนิวส์ และสนามบินในรัฐเวอร์จิเนียที่ถ่ายเมื่อเวลา 11:35 น.วันจันทร์ นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ 4 ลำ และเรือบรรทุกเครื่องบินของอังกฤษ 1 ลำ เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมมันลียง-อิล (Malligyong-1) เข้าสู่วงโคจรเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน หลังจากล้มเหลวมา 2 ครั้งในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม หลังจากนั้นได้อ้างว่าดาวเทียมจารกรรมดวงนี้สามารถบันทึกภาพที่ตั้งทางทหารสำคัญในเกาหลีใต้ เกาะกวมและเกาะฮาวายของสหรัฐ แต่ยังไม่เคยเผยแพร่ภาพตามที่กล่าวอ้าง เกาหลีเหนือเผยเมื่อวานนี้ กำลังมีกระบวนการปรับแต่งดาวเทียมที่จะเสร็จเร็วกว่ากำหนด 1-2 วัน หลังจากที่เคยประกาศว่า ดาวเทียมจะเริ่มภารกิจอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม.-สำนักข่าวไทย

ย้ายสุนัขออกจากทำเนียบขาวหลังกัดไปหลายคน

วอชิงตัน 5 ต.ค.- “คอมแมนเดอร์ (Commander)” สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ถูกย้ายออกจากทำเนียบขาว หลังจากกัดเจ้าหน้าที่ไปหลายคน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐแถลงว่า ประธานาธิบดีและสตรีหมายเลข 1 มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ทำงานในทำเนียบขาวและผู้อารักขาความปลอดภัยให้พวกเขา และรู้สึกขอบคุณที่หน่วยอารักขาและทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความอดทนและช่วยเหลือด้วยการหาทางแก้ไข ขณะนี้คอมแมนเดอร์ไม่ได้อยู่ในทำเนียบขาวแล้ว และกำลังมีการประเมินว่าจะดำเนินการกับสุนัขอย่างไรต่อไป เอเอฟพีรายงานว่า ยังไม่มีรายละเอียดว่า สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดเพศผู้วัย 2 ปีตัวนี้ถูกย้ายไปอยู่ที่ใด และจะเป็นการย้ายถาวรหรือไม่ ผู้สื่อข่าวเห็นมันครั้งหลังสุดที่ระเบียงในบริเวณที่เป็นที่พักส่วนตัวของประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 30 กันยายน ซีเอ็นเอ็นและอาซิออสรายงานว่า คอมแมนเดอร์ที่เข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวขณะเป็นลูกสุนัขน่ารักในปี 2564 กัดคนมากกว่าที่หน่วยอารักขาแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ถูกกัด 11 คน ประธานาธิบดีและภริยาเคยโทษว่า สภาพแวดล้อมที่เครียดในทำเนียบขาวทำให้สุนัขมีพฤติกรรมเกเร เพราะก่อนหน้านี้ “เมเจอร์ (Major)” สุนัขเพศผู้พันธุ์เดียวกันที่เกิดในปี 2561 ก็เคยกัดเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวและถูกส่งไปอยู่กับเพื่อนของครอบครัวไบเดนที่รัฐเดลาแวร์เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ในเวลาเดียวกับที่คอมแมนเดอร์เข้ามาเป็นสุนัขตัวใหม่ในทำเนียบขาว.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 17
...