กลาสโกว์ 14 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษยกย่องความสำเร็จของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่ปิดการประชุมไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนตามเวลาอังกฤษ สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยแพร่วิดิทัศน์บันทึกการกล่าวสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันว่า หลังจากใช้เวลาเตรียมการหลายปีและใช้เวลาเจรจาหลายสัปดาห์ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอต์แลนด์ ในที่สุดการประชุม COP26 ก็เสร็จลุล่วง แน่นอนว่าหนทางยังอีกยาวไกลกว่าจะพูดได้ว่าสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้แล้ว แต่ข่าวดียิ่งคือ ทั้งโลกได้ร่วมกันทำให้เกิดความคืบหน้าสำคัญบางอย่าง ด้วยการรักษาความหวังเรื่องจะจำกัดอุณหภูมิไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่เรื่องถ่านหิน ยานยนต์ เงิน และต้นไม้ เพราะเป็นครั้งแรกที่กว่า 190 ประเทศตกลงร่วมกันที่จะทำให้การใช้พลังงานจากถ่านหินถึงกาลอวสาน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวต่อไปว่า ในที่สุดโลกพัฒนาแล้วก็ยอมรับว่าจำเป็นต้องช่วยประเทศยากจนและเปราะบางรับมือกับความสูญเสียและเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทุกคนเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องเข้มงวดเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงทศวรรษหน้า และต้องเร่งบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ให้เร็วขึ้น ตอนที่สหราชอาณาจักรรับช่วงเป็นเจ้าภาพ COP มีเพียงร้อยละ 30 ของโลกที่ลงนามจะปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ แต่ขณะนี้เกือบทั้งโลกได้ร่วมลงนามแล้ว รวมถึงประเทศที่ก่อมลภาวะรายใหญ่ที่สุดทุกประเทศด้วย ขณะเดียวกันป่าซึ่งเป็นปอดของโลกจะได้รับการปกป้องถึงร้อยละ 90 ด้วยความริเริ่มฉบับใหม่ที่นำสหราชอาณาจักร ผู้นำอังกฤษกล่าวปิดท้ายว่า โลกไม่สามารถหลอกตัวเองว่าสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้แล้ว และจะเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งหากคิดเช่นนั้น เพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก แต่สิ่งที่มีแล้วในขณะนี้คือ แผนกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริง หากบรรดาประเทศ ผู้นำ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนทั่วโลกร่วมกันทำตามสิ่งที่รับปากไว้ที่กลาสโกว์ก็จะไปถึงจุดนั้นได้ และในอีกหลายปีข้างหน้านักประวัติศาสตร์จะหันกลับมามอง COP26 ว่าเป็นช่วงเวลาที่ในที่สุดแล้วมนุษยชาติได้ลงมือทำอย่างแท้จริงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ […]