อสมท ผนึกกำลัง กองทุนสื่อฯ สร้างภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ยุคใหม่ เปิดตัวโครงการนักสืบสายชัวร์ 404: “ถอดสลักกับดักไซเบอร์”

กรุงเทพฯ – 17 มกราคม 2568 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จับมือ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดตัวโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารปฏิบัติการวิทยุ-โทรทัศน์ บมจ. อสมท เดินหน้าเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เยาวชน ครู ผู้สูงวัย และประชาชนทั่วไป ให้พร้อมรับมือกับภัยออนไลน์รูปแบบใหม่


เพราะโลกไซเบอร์ที่ตื่นตาตื่นใจ มักแฝงไปด้วยภัยร้ายที่มองไม่เห็น เปรียบเสมือนทุ่งหญ้าสวยงามที่อาจมีกับดักและอันตรายซ่อนอยู่ โครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” นำโดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท จึงจัดกิจกรรมเพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะในการสังเกต ตรวจจับ และหลีกเลี่ยง “กับดักไซเบอร์” ให้แก่ผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบผสมผสาน ดังนี้

  • การอบรมเชิงปฏิบัติการแบบลงพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร ระยอง สิงห์บุรี และนครนายก ครอบคลุมเนื้อหา 5 หลักสูตร ได้แก่ การเงิน วิทยาศาสตร์ สุขภาพ เอไอ และไซเบอร์ ถ่ายทอดความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจากหลากหลายหน่วยงาน อาทิ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นักมายากล นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ และศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ. อสมท
  • ชุดนิทรรศการเคลื่อนที่ “Behind The Trap” ชำแหละเบื้องหลังกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพไซเบอร์ นำเสนอผ่านรูปแบบ Interactive Exhibition ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วม ใน 4 ห้องจัดแสดง เพื่อเรียนรู้ 4 มิติกับดักไซเบอร์ ได้แก่ ล่อลวง อำพราง จับงับ และกักขัง
  • Exclusive Workshop “ถอดสลักกับดักไซเบอร์” เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรสุดเข้มข้นและเจาะลึกในเนื้อหาทั้ง 5 ด้าน เพื่อรับมือกับดักไซเบอร์และภัยคุกคามที่มีอยู่รอบตัว โดยผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
  • กิจกรรมอบรมออนไลน์ FCDA 101 ฉบับปรับปรุง ภาพยนตร์เพื่อการเรียนรู้รางวัลนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (TMFMEDIA INNOVATION AWARDS 2021) สาขานวัตกรรมสื่อเพื่อสังคม ประเภทองค์กร คอร์สพื้นฐานการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เน้นพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อ ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จและความปลอดภัยทางไซเบอร์

นอกจากนี้ ยังมีการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาใหม่เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ผ่านสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ในเครือ อสมท ดังนี้


  • “พ่อมดเซ้นส์ พิชิตภัยโลกไซเบอร์” ซีซัน 2: จตุมนตร์ ผจญดินแดนปริศนา การ์ตูนเสริมสร้างความรู้เท่าทันภัยออนไลน์สำหรับเด็ก เผยแพร่ทางรายการช่อง 9 การ์ตูน
  • รายการ “รู้ทันมิจฯ คิด-ก่อน-เชื่อ” สรุปกลโกงเชิงเตือนภัย รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องบันเทิงใกล้ตัว ผ่านมุมมองของคนข่าวบันเทิงตัวจริงและสัมภาษณ์ผู้เสียหาย ให้เป็นอุทธาหรณ์ต่อสังคม เผยแพร่ผ่านทางรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน 
  • การผลิตเนื้อหาเสริมความรู้เท่าทันผ่าน พอดคาสต์ อินโฟกราฟิก และบทความ ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ รวมถึงประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการฯ ผ่านรายการ 9 ข่าวเที่ยง และวิทยุ ภูมิภาค เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ทราบถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสารประโยชน์

นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท กล่าวว่า “ความสำเร็จของโครงการ “นักสืบสายชัวร์” เริ่มต้นขึ้นในปี 2562 จากโครงการ “นักสืบสายชัวร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เยาวชน” ต่อยอดประสบการณ์สู่โครงการ “นักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” ในปี 2563 และเติบโตสู่โครงการ “นักสืบสายชัวร์ TRICK or TRUST” ในปี 2565 ซึ่งทุกโครงการต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนสามารถพัฒนามาเป็นโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” นี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ อสมท ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ในปีนี้ ซึ่ง อสมท มีนวัตกรรมสื่อหลายชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นเมื่องานนี้โดยเฉพาะ เชื่อมั่นว่าจะสำเร็จอีกครั้ง และนำสู่การนำพานิเวศสื่อไทยสู่การมี information integrity หรือความจริงแท้ทางสารสนเทศได้”

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวต่อว่า “เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างปลอดภัย ให้กับเยาวชน ครอบครัว และสังคมไทย”

ภายในงานแถลงข่าว มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงานร่วมเสริมทัพ นักสืบสายชัวร์ 404 อาทิ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย (บก.ปอท.), พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน (บช.สอท.), พ.ต.อ.ณัทกฤช พรหมจันทร์ (สกมช.), อ.ธีร์ ภวังคนันท์ (สพฐ.), คุณธีรศักดิ์ สูงลอย (ธปท.), ดร.ปริญญา หอมเอนก, คุณนวพล เชื่อมวราศาสตร์ (SaySci), ผศ.ดร.เจษฎา ศาลาทอง, คุณขจร พีรกิจ, คุณเบิ้ม ลูกโป่ง, อพวช., นพ.นคร เปรมศรี (สถาบันวัคซีนแห่งชาติ), สพธอ., บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) จำกัด, สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่ : เพจ facebook “นักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” หรือเพจ “ชัวร์ก่อนแชร์”


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]