ชัวร์ก่อนแชร์ : พายุไต้ฝุ่นจ่อถล่มไต้หวัน ก่อนเข้าไทย ทำกทม. น้ำท่วมหนักกว่าปี 54 จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความ “พายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่จ่อถล่มไต้หวัน ก่อนเคลื่อนเข้าไทย ทำให้กรุงเทพฯ น้ำท่วมหนักกว่าปี 54“ นั้น


บทสรุป ❌ ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌

  • กรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าเป็นข้อมูลจากบุคคลที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบที่แจ้งเตือนภัยธรรมชาติโดยตรง อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
  • ปัจจุบันมีพายุโซนร้อน “ชีมารอน” คาดว่าจะเคลื่อนไปทางญี่ปุ่นและอ่อนกำลังลง และมีโอกาสเกิดพายุลูกใหม่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ แต่อาจเคลื่อนไปทางไต้หวัน จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย

🎯 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยัน เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือและเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง และข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่จากบุคคลที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงานที่แจ้งเตือนภัยธรรมชาติโดยตรง อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
จากการติดตามและคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในขณะนี้มีพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ 1 ลูก เป็นพายุหมุนเขตร้อนมีความรุนแรงอยู่ในระดับพายุโซนร้อน ชื่อ “ชีมารอน” (CIMARON) คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับต่อไป และจะมีการก่อตัวของความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นและจะเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวัน ในขณะที่มี “ความกดอากาศสูง” หรือ “มวลอากาศเย็นกำลังแรง” จากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2567 และแผ่ลงมาต่อเนื่องทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะแรกๆ หลังจากนั้นอากาศเย็นลง
พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่ออากาศของประเทศไทยโดยตรง ถึงแม้ว่าความกดอากาศสูงจะอ่อนกำลังลง พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งสาธารณรัฐประชาชนจีนด้านตะวันออกมากขึ้น จะไม่เคลื่อนลงมาทางประเทศเวียดนาม และทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย หรือไม่พายุนี้ก็อาจจะอ่อนกำลังลงก่อนขึ้นฝั่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงถ่ายฤดูกาล อากาศอาจจะมีความแปรปรวนในบางวัน


ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้ายแรงเกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการต่อไป โดยหากมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ประเทศไทย หรือส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง) โทร. 02-3994012-3 Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา และ Application Thai weather และเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th


🎯 ด้าน คุณชวลิต จันทรรัตน์ จาก ทีมกรุ๊ป (TEAM GROUP) ภาคเอกชนที่ติดตามเรื่องสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการน้ำ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพายุ ดังนี้

“พายุซีมาโรน” พายุลูกที่ 16 ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้ญี่ปุ่น จะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกปานกลางถึงหนักบางแห่ง ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นตั้งแต่ โอซากา เกียวโต โตเกียว เซนได ฮอกไกโด และพื้นที่ใกล้เคียง ช่วงวันที่ 25-29 กันยายน พ.ศ. 2567 และคาดว่าจะมีการก่อตัวของพายุลูกที่ 17 ของปีนี้ ในทะเลทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ ทำให้วันที่ 30 ก.ย.ถึง 1 ต.ค. ทำให้ฝนตกหนักมากที่ไต้หวัน จากนั้นวันที่ 2 ถึง 4 ต.ค.ทำให้ฝนตกหนักมากที่ญี่ปุ่นตลอดแนวเกาะ ตั้งแต่ฟูกุโอกะ โอซากา เกียวโต โตเกียว เซนได ฮอกไกโด และพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม พายุซีมาโรน และพายุลูกที่ 17 นี้ไม่มีผลต่อไทย

🎯ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“พายุที่ไต้หวัน (ถ้าเกิดจริง) ไม่ได้จะมุ่งหน้ามาไทยครับ เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีพายุไต้ฝุ่นก่อตัวที่บริเวณเกาะไต้หวัน แต่มีกลุ่มหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่อาจจะพัฒนาขึ้นเป็นพายุโซนร้อนได้”

อาจารย์เจษฎายังกล่าวว่า ทาง “TyTech Taiwan” ระบุว่า พายุดีเปรสชั่นในน่านน้ำทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเกียวชู ประเทศญี่ปุ่น ได้ทวีกำลังแรงขึ้นกลายเป็นพายุโซนร้อน ชื่อพายุ “ซีมารอน : Cimaron” (ภาษาตากาล็อก แปลว่า สัตว์ป่าดุร้าย คุมไม่อยู่) ซึ่งจะเคลื่อนที่เข้าไปในหมู่เกาะญี่ปุ่น และส่งผลกระทบต่อผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นช่วงนี้ โดยพายุดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเกาะไต้หวัน คาดว่าในอีกไม่กี่วันนี้จะก่อตัวใหญ่ขึ้น และพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเส้นทางการเดินทางของพายุโซนร้อนลูกนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าจะไปทางใด โดยอาจจะมุ่งตรงไปทางเกาะไต้หวัน หรืออาจจะพุ่งขึ้นไปทางเหนือ ดังนั้นหากพายุโซนร้อนลูกนี้ เกิดขึ้นจริง (ยังไม่มีคำทำนายว่าจะพัฒนาขึ้นไปถึงระดับพายุไต้ฝุ่น) ก็จะอยู่บริเวณเกาะไต้หวัน ไม่ใช่มุ่งมาทางมาประเทศไทย และอาจารย์ยังคาดว่าข้อความที่แชร์กันมาจากแอปพลิเคชัน Windy.com โดยมีผู้โพสต์เป็นบุคคลที่มีความเชื่อส่วนบุคคลเกี่ยวทฤษฎีสมคบคิดและมนุษย์ต่างดาว

ดังนั้น ข้อความที่แชร์กันนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่ควรแชร์ต่อ


28 กันยายน 2567
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล และ เสาวภาคย์ รัตนพงศ์

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]