ชัวร์ก่อนแชร์ : Cyber Resilience สู้ภัยไซเบอร์ ด้วยการพร้อม “เจอ”

ในยุคที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา “การป้องกัน” เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Cyber Resilience ซึ่งเน้นการพร้อมเผชิญ รับมือ และฟื้นตัว จึงเป็นแนวทางสำคัญในการรับมือ เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่เพียงการหลีกเลี่ยง แต่คือความพร้อมในการรับมือเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยไซเบอร์

เหตุสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการรายใหญ่ในประเทศไทยขัดข้อง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องเป็นการถูกโจมตีโดยตรงเท่านั้น แต่การที่เราไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบภัยไซเบอร์ได้เช่นกัน

แนวคิดด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ จำแนกรูปแบบการดูแลความมั่นคงปลอดภัยไว้ 3 ด้าน รู้จักกันว่า “สามเหลี่ยม C-I-A” ซึ่งหมายถึง C-Confidentiality (การคงความลับ) I-Integrity (การคงความเที่ยงตรง) และ A-Availability (การคงความสามารถในการเข้าถึง) ดังนั้น การที่จู่ ๆ สัญญาณมือถือหายไป จึงนับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบภัยทางไซเบอร์ที่เราต้องเตรียมตัว “เจอ” ไว้เช่นกัน


แค่ Cyber Security อาจไม่พอ ต้องมี Cyber Resilience ร่วมด้วย
แนวคิด Cyber Resilience จึงเกิดขึ้น เพราะแนวโน้มภัยในโลกยุคนี้มีความรุนแรงและไม่แน่นอน เป้าหมายสำคัญ คือ เพื่อให้องค์กรสามารถรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจต่อไปได้ และรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ และ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอซิส โปรเฟสชันนัล จำกัด และ บริษัท ไซเบอร์ตรอน จำกัด ได้กล่าวถึงแนวคิด Cyber Resilience ในรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ ภัยไซเบอร์ ตอน “Cyber Resilience – สู้ภัยไซเบอร์ ฉบับผู้บริหาร” ในแนวทางการเตรียมตัวและป้องกันภัยไซเบอร์สำหรับผู้ประกอบการและผู้บริหารระดับสู

Cyber Security และ Cyber Resilience ไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่าย IT อีกต่อไป แต่เป็น “ปัญหาทางธุรกิจ” และ “การจัดการความเสี่ยง” ซึ่งเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบหลักของผู้บริหารในการรับมือสถานการณ์ภัยไซเบอร์ต่าง ๆ เช่น การรั่วไหลของข้อมูล ถูกโจมตี รวมถึงมีความเสียหายต่าง ๆ เกิดขึ้น

จากแนวคิดเดิมที่เน้นแค่เรื่อง Cyber Security ซึ่งเป็นเรื่องของการป้องกัน อาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะภัยคุกคามด้านไซเบอร์ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น Cyber Resilience หรือ ความสามารถในการรับมือกับการละเมิดความปลอดภัยทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการป้องกันการโจมตีที่เกิดขึ้น การตรวจจับการบุกรุก หรือการกู้คืนข้อมูลหลังจากเกิดภัยคุกคาม รวมถึงการสร้างความต้านทานในระบบเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อาจเป็นทางออกในการสร้างความทนทานต่อสิ่งที่เข้ามาได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้ “Business ต้อง Continue ได้” เมื่อเราอยู่ในโลกไซเบอร์ เราต้องมีแผน B เสมอ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า แฮกเกอร์จะเจาะข้อมูลของเราได้เมื่อไร 

ดังนั้น ในด้านขององค์กรก็ควรมีแผน B หรือแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่นเดียวกับการบินที่มีขั้นตอนการรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอยู่เสมอ

เมื่อเริ่มต้นสร้าง Cyber Resilience ในองค์กร สิ่งที่ผู้บริหารควรทำทันที ได้แก่


  • นำประเด็นภัยไซเบอร์เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการบริษัท (Board Meeting) 
  • สอบถามฝ่ายไอทีเกี่ยวกับมาตรฐานและ Framework ด้านไซเบอร์ที่องค์กรนำมาใช้ เช่น ISO 27001, NIST Cyber Security Framework 
  • ตรวจสอบ Checklist ตามประกาศของหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ธปท. และ คปภ. 
  • กำหนดงบประมาณและระยะเวลาในการดำเนินการด้านไซเบอร์
  • ฝ่ายบริหารมีหน้าที่กำกับดูแล (Direct) และติดตาม (Monitor) การดำเนินงานด้านไซเบอร์ ไม่ใช่ลงมือปฏิบัติเอง

Cyber Resilience ไม่ใช่แค่การป้องกัน (Cyber Security) แต่เป็นการเตรียมพร้อมรับมือเมื่อถูกโจมตีทางไซเบอร์ แต่การจะสร้าง  Cyber Resilience ให้สำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากระดับผู้บริหาร เพราะหากผู้บริหารขาดความเข้าใจและไม่เห็นความสำคัญ การดำเนินการในระดับปฏิบัติการก็จะไม่ราบรื่น

นอกจากนี้ Cyber Resilience ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในระดับองค์กร ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากภัยไซเบอร์ แต่ยังสร้างคุณค่าและความน่าเชื่อถือ เพราะเมื่อระบบมีความเสถียรและฟื้นตัวได้รวดเร็ว จะช่วยเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คู่แข่งเผชิญปัญหา แต่ธุรกิจของเรายังคงดำเนินได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

สิ่งสำคัญที่สุดของ Cyber Resilience คือ การเริ่มต้น แม้ภัยคุกคามทางไซเบอร์จะเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ และไม่มีทางรู้เลยว่าภัยคุกคามเหล่านั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่การพร้อมเจอปัญหา สามารถรับมือและฟื้นตัวได้ดี จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรในโลกไซเบอร์ยุคปัจจุบันได้

24 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
เรียบเรียง โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา

อ้างอิง
ชัวร์ก่อนแชร์ ภัยไซเบอร์ : Cyber Resilience – สู้ภัยไซเบอร์ ฉบับผู้บริหาร
https://youtu.be/F5DQaohbRzA?si=63TBP3eqtveQr_Z8


ยืดหยุ่นทางไซเบอร์ | เทรนด์ภัยไซเบอร์ ปี 2568 | ชัวร์ก่อนแชร์ PODCAST | THE CYBER MINDSET SPECIAL
https://youtu.be/pFPHttkxkls?si=lg7d1y3gvKhf5ziB

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย