บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ 10 สาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร ตั้งแต่กินอาหารไม่ตรงเวลา การกินยาบางชนิด ความเครียด ไปจนถึงติดเชื้อแบคทีเรีย จริงหรือ ?
🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.นพ.ปิยะพันธ์ พฤกษพานิช สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“กระเพาะอาหาร” ทำหน้าที่ย่อยอาหาร ผลิตน้ำย่อย (กรดย่อยอาหาร) แต่กระเพาะอาหารไม่ถูกย่อย เพราะมีกลไกสร้างเมือกเคลือบผิวกระเพาะอาหารไว้
“โรคกระเพาะอาหาร” ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ทำให้ทรมาน รบกวนการใช้ชีวิต เพราะแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ มีท้องอืดแน่นหลังกินอาหาร
สาเหตุโรคกระเพาะอาหารที่แชร์กัน 10 ข้อ มีดังต่อไปนี้
ข้อ 1. กินยาบางชนิดอย่างต่อเนื่อง
ยากลุ่มต้านการอักเสบ (Non-steroidal Anti-inflammatory drugs : NSAIDs) ยากลุ่มนี้ช่วยแก้อาการปวด บวม แดง ร้อน และลดการอักเสบโดยตรงของร่างกาย รวมทั้งมีฤทธิ์ลดไข้
ผลข้างเคียงของยากลุ่มต้านการอักเสบอย่างหนึ่งก็คือ ลดการป้องกันผิวกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะเกิดแผลและระคายเคืองได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องกินยากลุ่มนี้จะต้องกินหลังอาหารทันที และกินเมื่อจำเป็นในช่วงสั้นที่สุด
ข้อ 2. สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาเฟอีน และน้ำอัดลมเป็นประจำ
การสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารแน่นอนอยู่แล้ว
น้ำอัดลมมีกรดคาร์บอนิก (Carbonic acid) ที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ส่วนกาเฟอีน (ชา กาแฟ) เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารได้
ข้อ 3. กระเพาะอาหารติดเชื้อแบคทีเรีย
การติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori หรือ H. pylori) เป็นเชื้อชนิดพิเศษที่สามารถเจริญเติบโตในสภาวะเป็นกรดของกระเพาะอาหารได้
เชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่คู่กับมนุษยชาติมายาวนาน เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอักเสบเรื้อรัง โดยมักจะติดต่อจากการใช้ช้อนร่วมกัน กินอาหารหรือดื่มน้ำไม่สะอาดที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป
ข้อ 4. โรคที่เกิดจากน้ำดีในตับ
พบได้บ่อยในผู้ที่มีประวัติเคยรับการผ่าตัดหูรูดกระเพาะอาหาร ทำให้มีการนำลำไส้เล็กมาต่อกับกระเพาะอาหาร ในส่วนนี้จะมีน้ำดี ซึ่งควรจะอยู่เฉพาะในลำไส้เล็กไหลย้อนเข้ามาในกระเพาะได้ และน้ำดีทำให้กระเพาะอาหารอักเสบได้
ข้อ 5. เกิดจากความเครียด
ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งกรดมากขึ้น จึงมีส่วนทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้
“ความเครียด” นอกจากส่งผลต่อจิตใจแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพกายอีกด้วย
กระเพาะอาหารและลำไส้เป็นอวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากความเครียด มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น การบีบตัวและการรับความรู้สึกจากกระเพาะอาหารและลำไส้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีความเครียดอาจทำให้ระบบทางเดินอาหารมีอาการต่าง ๆ เช่น ปวดหรือแน่นจุกบริเวณลิ้นปี่ มักเป็นก่อนหรือหลังกินอาหาร แน่นท้อง ท้องอืด อิ่มเร็วกว่าปกติ เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกหรือท้องเสีย
ข้อ 6. เกิดจากการติดเชื้อราบางชนิด
การติดเชื้อราส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง มักเป็นการติดเชื้อราแคนดิดา (Candida) ซึ่งมักเกิดการติดเชื้อในช่องปากและหลอดอาหารมากกว่า แต่การติดเชื้อในกระเพาะอาหารน่าจะพบได้น้อย
ข้อ 7. เกิดจากอุบัติเหตุร้ายแรงบางอย่าง
อาจพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติ (Intensive Care Unit : ICU) ในห้องไอซียู หรือผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
ผู้ป่วยวิกฤตเหล่านี้มีการหลั่งกรดมากขึ้น และมีการซ่อมแซมผิวกระเพาะได้น้อยลง ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้บ่อย
ข้อ 8. ดื่มกรด หรือด่างเข้าไป
การดื่มกรดหรือด่าง ที่มีฤทธิ์รุนแรงจนกระทั่งสามารถกัดกร่อนกระเพาะอาหารได้มักจะเป็นสารเคมี
ที่ผ่านมาพบได้จากผู้ป่วยที่ดื่มสารกัดกร่อนเข้าไป ซึ่งอาจจะเป็นผู้ที่เข้าใจผิด และ/หรือ ตั้งใจดื่มสารเคมีเข้าไปด้วยวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง ทำให้สารกัดกร่อนในช่องปาก หลอดอาหาร และลงไปถึงกระเพาะได้
ข้อ 9. กินอาหารไม่ตรงเวลา
การกินอาหารไม่ตรงเวลาเป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร เพราะว่าร่างกายคนเรามีนาฬิกาชีวิต (นาฬิกาชีวภาพ) ทำให้มีการหลั่งกรดหรือน้ำย่อยออกมารอ เมื่อไม่ได้กินอาหารเข้าไป กรดที่ออกมาจะย่อยผิวกระเพาะ ทำให้ผิวกระเพาะเกิดการอักเสบ
ข้อ 10. พันธุกรรมอาจเป็นสาเหตุโรคกระเพาะอาหารได้
พันธุกรรมโรคกระเพาะอาหารมีส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่โรคกระเพาะอาหารเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสุขภาพ และปัจจัยสิ่งแวดล้อมอีกมากมาย
สาเหตุโรคกระเพาะอาหารทั้ง 10 ข้อส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง
สัมภาษณ์โดย อัครวุฒิ ตู้วชิรกุล
เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 สาเหตุโรคกระเพาะอาหารจริงหรือ ?
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter