ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิด-19 ทำให้หนูคลอดลูกเป็นออทิสติก จริงหรือ?

12 เมษายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างงานวิจัยที่พบว่า ลูกหนูที่เกิดจากแม่หนูที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech มีความเสี่ยงเป็นออทิสติกมากกว่าลูกหนูที่เกิดจากแม่ที่ไม่ฉีดวัคซีน นำไปสู่การอ้างอย่างผิด ๆ ว่าวัคซีนโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงเป็นออทิสติกหากมีการฉีดในสตรีมีครรภ์เช่นเดียวกัน


บทสรุป :

  1. เป็นการวิจัยในหนูทดลอง ผู้วิจัยย้ำว่าไม่อาจนำผลมาเปรียบเทียบกับการฉีดวัคซีนในมนุษย์ได้
  2. เป็นการวิจัยที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ให้ปริมาณวัคซีนกับหนูทดลองเท่ากับปริมาณที่ใช้กับมนุษย์

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ที่มาของงานวิจัย


งานวิจัยที่กล่าวอ้าง เป็นผลงานของนักวิจัยจากประเทศตุรกี ตีพิมพ์ทางวารสาร Neurochemical Research เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2024

ทีมวิจัยตั้งสมมติฐานว่า โปรตีนหนามจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อาจส่งผลต่อการอักเสบในร่างกาย นำไปสู่ผลกระทบต่อการพัฒนาระบบประสาท โดยเฉพาะในช่วงการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีอาการออทิสติกได้

ทีมวิจัยนำหนูทดลองเพศเมียจำนวน 15 ตัวไปผสมพันธุ์หนูเพศผู้จำนวน 5 ตัว

หลังจากหนูตั้งท้องได้ 13 วัน จึงแบ่งหนูเป็น 2 กลุ่ม ครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ส่วนครึ่งหนึ่งได้รับน้ำเกลือเป็นยาหลอก

หลังจากลูกหนู 41 ตัวเกิดมาได้ 21 วัน จึงแยกหนูออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ หนูเพศผู้ที่ได้รับวัคซีน หนูเพศผู้ที่ได้รับยาหลอก หนูเพศเมียที่ได้รับวัคซีน หนูเพศเมียที่ได้รับยาหลอก

ผ่านไป 50 วัน จึงนำหนูทั้ง 4 กลุ่มมาทดสอบพฤติกรรมต่าง ๆ อาทิ พฤติกรรมทางสังคม ความกระตือรือร้นต่อสิ่งแปลกใหม่ และทักษะการพัฒนากล้ามเนื้อ

เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้นลง ลูกหนูทดลองทั้ง 41 ตัวจะถูกการุณยฆาต ก่อนนำสมองออกมาตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อสำรวจปริมาณของไซโตไคน์ชนิดต่าง ๆ (Cytokine) ซึ่งเป็นกลุ่มโปรตีนในระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อและการอักเสบ

การสำรวจไม่พบว่าหนูกลุ่มที่แม่ได้รับวัคซีนและหนูกลุ่มที่แม่ได้รัยยาหลอก มีปริมาณไซโตไคน์ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

การตรวจสอบเซลล์ประสาทในสมองพบว่า หนูทดลองเพศผู้ที่แม่ได้รับวัคซีน มีเซลล์ประสาทน้อยกว่าหนูทดลองเพศผู้ที่แม่ได้รับยาหลอก อย่างไรก็ดี ไม่พบความแตกต่างในหนูทดลองเพศเมียทั้งกลุ่มที่แม่ได้รับวัคซีนหรือยาหลอก

ทีมวิจัยยังพบว่า หนูทดลองเพศผู้ที่แม่ได้รับวัคซีน ขาดทักษะในการเข้าสังคม และไม่มีความกระตือรือร้นเมื่อเจอหนูจากครอกอื่น ซึ่งผู้วิจัยเปรียบเทียบได้กับพฤติกรรมของเด็กที่เป็นออทิสติก

อย่างไรก็ดี ไม่พบความแตกต่างด้านพฤติกรรมในหนูทดลองเพศเมีย ทั้งกลุ่มที่แม่ได้รับวัคซีนหรือยาหลอก

ผลจากการทดลอง ทีมวิจัยจึงสรุปว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ส่งผลให้หนูทดลองเพศผู้ซึ่งเกิดจากแม่หนูที่ได้รับวัคซีน จะมีอาการคล้ายออทิสติก แต่ย้ำว่าผลวิจัยกับสัตว์ทดลอง ไม่สามารถอ้างอิงกับผลที่จะเกิดกับมนุษย์ได้

มูมิน อัลเปอร์ เออร์โดกัน รองศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยอิซเมียร์ คาทิป เซเลบี หนึ่งในทีมวิจัยชี้แจงต่อเว็บไซต์ Health Feedback ว่า จุดประสงค์ของงานวิจัย ไม่ได้ต้องการต่อต้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 การนำผลวิจัยไปเผยแพร่เพื่อสนับสนุนความคิดส่วนตัวหรือเพื่อการใส่ร้ายทางออนไลน์ สำหรับเขาคือสิ่งไม่ถูกต้อง

ข้อจำกัดของงานวิจัย

นอกจากนี้ เมื่อนำเนื้อหาการวิจัยไปสอบถามความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่างานวิจัยชิ้นนี้เต็มไปด้วยข้อจำกัดที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือหลายประการ

  1. ปริมาณวัคซีนที่ใช้กับหนูเท่ากับฉีดในมนุษย์

ทีมวิจัยใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ปริมาณ 30 ไมโครกรัมต่อหนูทดลองหนึ่งตัว ซึ่งเป็นปริมาณเทียบเท่ากับที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ 1 คน เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวแล้ว เท่ากับว่าหนูทดลองได้รับปริมาณวัคซีนโควิด-19 มากกว่าที่มนุษย์ได้รับประมาณ 300 เท่า

นอกจากนี้ ข้อจำกัดเรื่องปริมาณวัคซีนในการทดลอง ยังไม่ถูกกล่าวไว้ในงานวิจัยอีกด้วย

มูมิน อัลเปอร์ เออร์โดกัน หนึ่งในทีมวิจัยอ้างว่า เหตุผลที่ใช้ปริมาณวัคซีนเท่ากับมนุษย์ เพราะไม่มีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับปริมาณวัคซีน mRNA ที่ใช้ในหนูทดลอง นอกจากนี้ ปริมาณวัคซีนทั่วไปสำหรับใช้สร้างภูมิคุ้มกันในสัตว์หลาย ๆ ชนิด เช่น ไก่ สุกร อูฐ ก็อยู่ที่ปริมาณ 30-40 ไมโครกรัม ไม่ว่าสัตว์จะมีน้ำหนักตัวเท่าใด

สเตซี บิลโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบภูมิคุ้มกันทางระบบประสาท มหาวิทยาลัยดุ๊ก สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ปริมาณวัคซีนแต่ละชนิดต้องผ่านการคำนวณมาอย่างละเอียด เพื่อให้ใช้วัคซีนในปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนในปริมาณที่มากกว่าปกติถึง 300 เท่า การพบการเปลี่ยนแปลงในการทดลองจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

เจฟฟรีย์ มอร์ริส ผู้อำนวยการศูนย์ชีวสถิติ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา อธิบายต่อ FactCheck.org ว่า ปริมาณโดสของวัคซีนในหนูทดลองที่สูงถึง 300 เท่าเมื่อเทียบกับน้ำหนักของมนุษย์ ทำให้ผลวิจัยไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกับผลที่จะเกิดกับมนุษย์ได้ หากเขาเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของงานวิจัย เขาจะบอกให้ผู้วิจัยเน้นถึงปริมาณวัคซีนเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณที่ใช้กับมนุษย์ และย้ำว่าสิ่งนี้คือเหตุผลสำคัญที่ไม่อาจนำผลวิจัยมาเปลี่ยนเทียบกับสิ่งที่จะเกิดกับคนที่ได้รับวัคซีนเช่นกัน

  1. กลุ่มตัวอย่างน้อยเกินไป

การทดลองครั้งนี้ ใช้หนูในการทดสอบปฏิกิริยาชีวเคมีเพียงแค่ 7 ตัว คือหนูเพศผู้ที่ได้รับยาหลอก 3 ตัว และหนูเพศผู้ที่ได้รับวัคซีน 4 ตัว ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

  1. ไม่ใช่การทดลองแบบ Blind Test

ในงานวิจัยไม่ได้ระบุว่า การทดลองเป็นแบบ Blind Test ทำให้ผู้วิจัยรู้ว่าหนูทดลองแต่ละกลุ่มได้รับวัคซีนหรือไม่ อาจนำมาซึ่งความลำเอียงระหว่างการสังเกตพฤติกรรมหนูทดลอง

การไม่ระบุตัวแปรของการทดลอง

เทเรซา เรเยส ศาสตราจารย์ภาควิชาเภสัชวิทยาและสรีรวิทยาระบบ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซินซินแนติ สหรัฐอเมริกา ชี้แจงว่า ยังมีตัวแปรสำคัญ 3 อย่างที่ไม่ได้รับคำอธิบายจากงานวิจัยครั้งนี้ ได้แก่

  1. ระยะเวลาตั้งครรภ์ของแม่หนูทดลอง

หากระยะเวลาตั้งครรภ์มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ หนูที่มีความผิดปกติจากการคลอดก่อนกำหนด อาจมีปัจจัยจากอายุครรภ์ของแม่หนูมากกว่าการฉีดวัคซีน

  1. น้ำหนักตัวของแม่หนูทดลอง

หากน้ำหนักตัวของแม่หนูทดลองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ อาจบ่งบอกถึงการป่วยหนักของแม่หนูที่ได้รับวัคซีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการทดลองเช่นกัน

  1. Litter Effects พฤติกรรมคล้ายกันของสัตว์จากครอกเดียวกัน

สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือการที่หนูทดลองในกลุ่มเดียวกันมีพฤติกรรมคล้ายกัน อาจมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Litter Effects หรือพฤติกรรมคล้ายกันของสัตว์จากครอกเดียวกัน มากกว่าอิทธิพลจากวัคซีน

คริสโตเฟอร์ โค ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตประสาทภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ผู้มีผลงานศึกษาผลกระทบจากการติดเชื้อและการอักเสบระหว่างการตั้งครรภ์ต่อตัวอ่อน ยอมรับว่า หากเขาร่วมทดลองในงานวิจัยครั้งนี้ เขาจะเพิ่มกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับวัคซีนโดสต่ำ เพื่อดูว่าปริมาณของวัคซีนมีผลต่อหนูทดลองแค่ไหน

คริสโตเฟอร์ โค ย้ำว่า ผู้วิจัยและนักวิชาการที่ตรวจสอบงานวิจัย ควรจะทำการทดลองซ้ำเพื่อยืนยันผลวิจัย แทนที่จะรีบตีพิมพ์งานวิจัยที่ไม่สมบูรณ์จากการทดลองเพียงแค่ครั้งเดียว

ผลประโยชน์ทับซ้อน

นอกจากนี้ Health Feedback ยังพบว่า ทีมวิจัยไม่ได้ระบุผลประโยชน์ทับซ้อนในงานวิจัย ทั้ง ๆ ที่มีการใช้ซอฟต์แวร์และระบบวิเคราะห์พฤติกรรมด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่ร่วมพัฒนาโดย มูมิน อัลเปอร์ เออร์โดกัน หนึ่งในผู้วิจัย มาใช้เพื่อศึกษาพฤติกรรมของหนู

ซึ่งผู้วิจัยยอมรับว่าจะระบุผลประโยชน์ทับซ้อนส่งในงานวิจัยฉบับแก้ไขต่อไป

ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก

ความเสี่ยงการป่วยเป็นโรคออทิสติกมาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจากพันธุกรรมและตัวแปรอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดจากพ่อแม่สูงวัย การคลอดก่อนกำหนดชนิด Extreme Prematurity หรืออายุครรภ์ไม่ถึง 28 สัปดาห์ รวมถึงทารกที่เกิดมาด้วยน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติ เป็นต้น

วัคซีนไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงออทิสติก

แม้จะมีการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดว่าการฉีดวัคซีนในแม่และเด็ก เพิ่มความเสี่ยงการป่วยเป็นออทิสติก แต่การศึกษาวิจัยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สามารถยืนยันได้ว่าการฉีดวัคซีนไม่มีความสัมพันธ์ต่อการป่วยเป็นโรคออทิสติกในเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือการฉีดวัคซีนรวมโรคคอตีบ โรคไอกรน และบาดทะยักระหว่างตั้งครรภ์ของมารดา

ในส่วนของวัคซีนโควิด-19 นอกจากจะไม่พบผลเสียของการฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์แล้ว การฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังมีส่วนช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดและการแท้งบุตรอีกด้วย

โฆษกของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่า ข้อมูลความปลอดภัยจากการใช้วัคซีนในสหรัฐอเมริกายืนยันว่า วัคซีนชนิดไหน ๆ รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ไม่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคออทิสติก

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/rat-study-alleged-link-covid-vaccines-autism-cannot-generalized-humans-important-limitations/
https://www.factcheck.org/2024/01/scicheck-viral-posts-misuse-rat-study-to-make-unfounded-claims-about-covid-19-vaccines-and-autism/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]