ชัวร์ก่อนแชร์: 90% ของเหตุกราดยิงเกิดในเขตปลอดอาวุธ จริงหรือ?

19 ตุลาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างที่กลุ่มสนับสนุนเสรีภาพการพกพาปืนในสหรัฐฯ นำมาจากงานวิจัยที่ให้คำจำกัดความเขตปลอดอาวุธอย่างไม่ถูกต้อง
  2. งานวิจัยจากกลุ่มสนับสนุนการควบคุมการพกพาปืนในสหรัฐฯ พบว่ามีเหตุกราดยิงเกิดในเขตปลอดอาวุธเพียง 10%

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา ที่อ้างว่า 92-98% ของเหตุกราดยิงเกิดขึ้นในเขตปลอดอาวุธหรือ Gun-Free Zone แสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ที่ห้ามประชาชนพกปืน มีความเสี่ยงที่ประชาชนจะตกเป็นเหยื่อของมือปืนกราดยิงหรือ Active Shooter พร้อมกับโทษว่าเป็นความผิดของ โจ ไบเดน ที่กำหนดให้มีเขตปลอดอาวุธในโรงเรียน จนเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาบ่อยครั้ง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

Gun Free School Zones Act เป็นกฎหมายที่ประกาศใช้ในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1990 ในรัฐบาลของ จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช จากการผลักดันโดย โจ ไบเดน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐเดลาแวร์


สถิติที่กล่าวอ้างนำมาจากงานวิจัยปี 2018 โดยศูนย์วิจัย Crime Prevention Research Center กลุ่มสนับสนุนเสรีภาพด้านการพกอาวุธปืน ที่สำรวจเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1950 และพบว่าเหตุกราดยิง 94% เกิดในเขตปลอดอาวุธ พร้อมสรุปว่าเขตปลอดอาวุธกลายเป็นสถานที่เชื้อเชิญให้มือปืนกราดยิงเข้ามาก่อเหตุมากกว่าพื้นที่ที่อนุญาตให้ประชาชนพกปืน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนของสหรัฐอเมริกา ต่างคัดค้านตัวเลขที่งานวิจัยชิ้นนี้กล่าวอ้าง เนื่องจากมีการนับรวมเหตุกราดยิงในสถานที่ที่มีการอนุญาตให้พกปืนได้

การที่งานวิจัยสำรวจเหตุกราดยิงตั้งแต่ปี 1950 ทั้ง ๆ ที่เขตปลอดอาวุธเพิ่งถูกกำหนดขึ้นในปี 1990 ดังนั้นเหตุกราดยิงในสถานที่สาธารณะก่อนทศวรรษที่ 1990 หลายแห่งจึงถูกเหมารวมว่าเป็นการกราดยิงในเขตปลอดอาวุธ ส่งผลให้จำนวนเหตุกราดยิงในเขตปลอดอาวุธสูงกว่าความเป็นจริง

งานวิจัยยังกำหนดให้สถานที่บางแห่งเป็นเขตปลอดอาวุธ ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการฝึกการใช้อาวุธประจำการอยู่ เช่น ค่ายทหาร

เช่นเดียวกับวิทยาลัยอัมควา คอมมูนิตี้ คอลเลจ ในรัฐยูทาห์ ที่เคยเกิดเหตุกราดยิงในวิทยาลัยเมื่อปี 2015 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ก็ถูกรวมให้เป็นเหตุกราดยิงในเขตปลอดอาวุธ ทั้ง ๆ ที่สถาบันดังกล่าวอนุญาตการพกพาอาวุธปืนภายในวิทยาลัยก็ตาม

ด้าน Everytown for Gun Safety กลุ่มสนับสนุนการควบคุมการพกพาอาวุธปืน ได้ทำงานวิจัยพบว่า ระหว่างปี 2009-2016 มีเหตุกราดยิงในเขตปลอดอาวุธเพียง 10% เท่านั้น โดยเหตุกราดยิงส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสถานที่ส่วนบุคคล และไม่เข้าข่ายเป็นเขตปลอดอาวุธ

สาเหตุที่ข้อมูลเหตุกราดยิงในเขตปลอดอาวุธระหว่างกลุ่มสนับสนุนเสรีภาพด้านการพกอาวุธปืนและกลุ่มสนับสนุนการควบคุมการพกพาอาวุธปืนมีความแตกต่างกันอย่างมาก มีปัจจัยมาจากการนิยามความหมายของเขตปลอดอาวุธและเหตุกราดยิงที่แตกต่างกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://apnews.com/article/fact-check-gun-violence-mass-shootings-nashville-712807001259
https://www.reuters.com/article/factcheck-biden-guns-idUSL1N2M72B0
https://www.politifact.com/factchecks/2017/feb/21/richard-corcoran/do-most-mass-shootings-happen-gun-free-zones/
https://www.washingtonpost.com/news/fact-checker/wp/2018/05/10/do-98-percent-of-mass-public-shootings-happen-in-gun-free-zones/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย