ชัวร์ก่อนแชร์: ปลาตายเกลื่อนทะเลหลังญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี จริงหรือ?

20 กันยายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดกับสัตว์น้ำจากที่อื่น ๆ มาอ้างอย่างผิด ๆ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำบำบัดกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าพบสัตว์น้ำในทะเลแถบประเทศญี่ปุ่นและประเทศใกล้เคียงตายมากผิดปกติ หลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะตัดสินใจปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่ทะเลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


จากการตรวจสอบโดย Fact Checker ในต่างประเทศยืนยันว่า การเสียชีวิตของสัตว์น้ำทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นใกล้กับบริเวณที่มีการปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ และซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดก่อนการปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเช่นเดียวกัน

วิดีโอชิ้นแรกเป็นภาพซากปลาซาร์ดีนจำนวนมากถูกซัดมาที่ชายฝั่งในประเทศญี่ปุ่น

คลิปดังกล่าวถูกอัปโหลดครั้งแรกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ต้นปีที่ผ่านมา บริเวณที่พบซากปลาคือเมืองอิโตอิกาวะ จังหวัดนีงาตะ เมืองทางชายฝั่งตะวันตกของเกาะฮนชู ซึ่งอยู่คนละฟากกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ซึ่งตั้งอยู่แถบตะวันออกของเกาะฮนชูในประเทศญี่ปุ่น

ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลของญี่ปุ่นไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ปลาซาร์ดีนตายเป็นจำนวนมาก แต่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ 2 ประเด็นคือ 1.อุณหภูมิน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว 2. ฝูงปลาหนีการไล่ล่าจากผู้ล่าจนมาเกยตื้นบนฝั่ง

ภาพที่ 2 คือซากปลาซาร์ดีนจำนวนนับไม่ถ้วนถูกซัดมาตายบนชายหาด

ภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ทางเว็บไซต์สำนักข่าว BBC เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2016 เหตุเกิดที่หาดมาราไซออน เมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ

รายงานระบุว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรือประมงที่เลือกใช้อวนล้อมจับ (Ring Net) ซึ่งช่วยให้จับปลาได้คราวละมาก ๆ แต่มีโอกาสได้สัตว์น้ำที่ไม่พึงประสงค์จำนวนมากเช่นเดียวกัน คาดว่ามีการจับปลามากเกินความจำเป็น จนเสี่ยงที่น้ำหนักอวนจะดึงให้เรือจม จึงมีการปล่อยปลาที่อยู่ด้านล่างของอวนออกไป ซึ่งปลาส่วนใหญ่ตายแล้ว

ภาพที่ 3 คือซากวาฬเกยตื้นบนชายหาด

ภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ทางเว็บไซต์สำนักข่าว BBC เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2016 เหตุเกิดที่ชายหาดรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย

รายงานระบุว่ามีวาฬประมาณ 80 ตัวลอยมาเกยตื้น โดยพบวาฬ 45 ตัวตายลงจากความร้อน

ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลของอินเดียอธิบายว่าเป็นเรื่องยากที่จะผลักดันให้วาฬที่เกยตื้นกลับลงทะเล เพราะเมื่อบางตัวลงทะเลได้แล้ว พวกมันก็จะว่ายกลับมาเกยตื้นอีกครั้ง เนื่องจากวาฬเหล่านั้นยังคงส่งสัญญาณโซนาร์เพื่อสื่อสารกับวาฬส่วนใหญ่ที่ยังอยู่บนฝั่ง และโอกาสที่วาฬซึ่งกลับลงทะเลจะมีชีวิตรอดก็มีไม่มาก เนื่องจากอิดโรยจากความร้อนบนชายฝั่งเป็นเวลานาน

ภาพที่ 4 คือการพบซากปลาตายจำนวนมากบริเวณชายฝั่งรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย บริเวณน้ำทะเลรอบชายฝั่งยังพบคราบสีชมพูลอยเป็นจำนวนมาก

ภาพดังกล่าวนำจากคลิปวิดีโอของสำนักข่าว The Star ที่อัปโหลดช่วงปลายเดือนสิงหาคม รายงานการตายของสัตว์น้ำจำนวนมากจากปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่ง (Red Tide Bloom) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี เกิดจากการเพิ่มจำนวนของแพลงก์ตอนพืชหรือสาหร่ายเซลล์เดียวในทะเล แม้จะไม่เป็นพิษ แต่สาหร่ายสะพรั่งส่งผลให้น้ำบริเวณดังกล่าวขาดแคลนออกซิเจน ส่งผลให้สัตว์น้ำจำนวนมากเสียชีวิต

ภาพที่ 5 คือภาพฝูงปลาแอนโชวี่จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังดิ้นพล่านและกระโดดขึ้นมาอยู่บนบก

ภาพดังกล่าวนำมาจากคลิปวิดีโอที่อัปโหลดทาง Youtube เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถ่ายได้ที่เขตหลงก่าง เมืองเชินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ปรากฏการณ์ฝูงปลาแอนโชวี่กระโดดขึ้นฝั่งเป็นสิ่งที่พบได้บริเวณชายฝั่งของเขตหลงก่างในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปี

แม้จะไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลของจีนสันนิษฐานว่าฝูงปลาแอนโชวี่น่าจะกำลังหนีการล่าจากสัตว์ทะเลที่ตัวใหญ่กว่า จึงหนีขึ้นฝั่งพร้อมกันเป็นฝูง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9541
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9495
https://www.techarp.com/facts/fukushima-water-kill-fish-penang/
https://www.france24.com/en/live-news/20230905-afp-fact-check-fukushima-wastewater-release-spawns-misinformation

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น