9 เทคนิคโน้มน้าวเหยื่อข่าวปลอมทางการเมืองภายในครอบครัว

26 พฤษภาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ผลสำรวจของรัฐวิสคอนซินพบว่า มีผู้คนถึง 1 ใน 5 ที่ยุติความสัมพันธ์กับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว จากการโต้แย้งเกี่ยวกับการเลือกตั้งและประเด็นทางการเมือง บ่อยครั้งที่บทสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อเท็จจริง พัฒนาเป็นการโต้แย้งระหว่างคนในครอบครัว และนำไปสู่ความบาดหมางที่ยากจะเยียวยา

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ได้หารือผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแนะนำ 9 เทคนิคจำเป็นสำหรับการโน้มน้าวเหยื่อข่าวปลอมทางการเมือง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว


1.เริ่มอย่างเป็นมิตร ไม่ใช่จ้องหาคนผิด

ไมค์ วากเนอร์ ศาสตราจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ระบุว่า คนที่แชร์ข้อมูลเท็จ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คนเหล่านี้ไม่เชื่อทั้งสื่อกระแสหลักหรือข้อมูลจากพรรคการเมือง การจะชนะใจพวกเขา ควรเริ่มจากการพูดคุยทำความเข้าใจ ดีกว่าลงรายละเอียดเรื่องข้อเท็จจริง เพราะถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนใจคนเหล่านี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งคุยให้เสียเวลาตั้งแต่แรก

2.อย่าใช้อารมณ์


เลทริเซีย โบด ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ผู้ศึกษาการรับมือข้อมูลเท็จ แนะนำให้ผู้อธิบายใช้วิธีละมุนละม่อม เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ข่าวปลอมข้อมูลเท็จถูกสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นความรู้สึกของผู้ฟังอยู่แล้ว

เราต้องทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงเจตนาที่ดีของข้อมูลที่นำเสนอ และระลึกเสมอว่า เราทุกคนต่างตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมข้อมูลเท็จได้ทุกเมื่อ

3.อธิบายด้วยข้อความที่สั้นกระชับ

ในสถานการณ์ที่ต้องชี้แจงข้อมูลกับสมาชิกในครอบครัวทางห้องแชทออนไลน์ เลทริเซีย โบด แนะนำให้เขียนข้อความเท่าที่จำเป็น แล้วแนบลิงก์ที่น่าเชื่อถือเป็นตัวอธิบาย

4.”ไปฟังมาจากไหน”

จอห์น ซิลวา ผู้อำนวยการศูนย์ News Literacy Project ชี้แจงว่า แทนที่จะบอกคนฟังว่าเป็นฝ่ายผิด ควรถามว่าเค้าไปฟังเรื่องราวเหล่านั้นมาจากที่ไหน แล้วทำการแบ่งปันแหล่งข้อมูลที่เราได้รับ เพื่อเปรียบเทียบความถูกต้องของแหล่งข้อมูล

5.ชี้แจงผลประโยชน์เบื้องหลังข่าวปลอม

ไมค์ วากเนอร์ อธิบายว่า ควรระบุให้ผู้ฟังเข้าใจว่า ใครคือผู้ได้ประโยชน์ หากความเข้าใจผิดแบบเดียวกันนี้ถูกเผยแพร่ในวงกว้าง

ให้เปรียบเทียบกับข้อมูลที่เผยแพร่จากสื่อกระแสหลัก เช่นสำนักข่าว ซึ่งมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่สู่สาธารณชน และมีบทลงโทษที่ชัดเจนหากนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ต่างจากสื่อที่เผยแพร่ข่าวปลอม ซึ่งผู้เผยแพร่ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ หากพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลที่นำเสนอเป็นเรื่องไม่จริง

ดีน ฟรีลอน ศาสตราจารย์และนักวิจัยมหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลนา อธิบายว่า ประชาชนควรรู้ว่าข้อมูลเท็จคือเครื่องมือสร้างกำไร ทั้งแก่ผู้ที่แชร์ข้อมูล และสื่อที่ใช้แชร์ข้อมูล ข้อมูลเท็จเป็นประโยชน์สำหรับนักเก็งกำไร แต่ส่งผลเสียต่อสังคมและประชาธิปไตย

6.อย่าหักล้างข้อมูลบนโต๊ะอาหาร

ผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่า สถานที่รวมตัวของสมาชิกทั้งครอบครัว ไม่ใช่ที่ ๆ ควรมีการโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริง

จอห์น ซิลวา ผู้อำนวยการศูนย์ News Literacy Project แนะนำให้มีการนัดคุยกันตัวต่อตัวที่ร้านกาแฟ จะดียิ่งกว่าถ้ารอให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้เปิดประเด็นด้วยตนเอง เพราะไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิด การจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ตัวว่ากำลังถูกใช้ประโยชน์จากข้อมูลเท็จจำเป็นต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

7.ยืนยันความถูกต้องตั้งแต่ในห้องแชทของครอบครัว

เลทริเซีย โบด ศาสตราจารย์ ผู้ศึกษาการรับมือข้อมูลเท็จ ระบุว่าคนที่โน้มน้าวใจได้ยากที่สุด คือคนที่นำข้อมูลเท็จมาเผยแพร่เป็นคนแรกในครอบครัว วิธีแก้คือทำให้สมาชิกคนอื่น ๆ ในห้องแชทได้เห็นข้อมูลที่ได้รับการหักล้างข้อเท็จจริง เพราะมีหลักฐานพบว่า คนจะเชื่อข้อความเท็จลดลง หากเห็นว่าข้อมูลถูกนำเสนอโดยบุคคลที่มีประวัติเผยแพร่ข้อความที่ถูกหักล้างข้อเท็จจริงมาก่อน

เพื่อป้องกันการถูกมองว่ามุ่งแต่จับผิดทางออนไลน์ เลทริเซีย โบด แนะนำแนวทาง hybrid approach ด้วยการหักล้างข้อมูลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป เพื่อลดความตึงเครียดจากการหักล้างข้อมูลทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว

8.พร้อมที่จะถอย

จอห์น ซิลวา ผู้อำนวยการศูนย์ News Literacy Project แนะนำว่า หากการสนทนาเริ่มกลายเป็นโต้แย้ง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความเข้าใจเมื่อผู้สนทนาไม่พร้อมที่จะเปิดใจ

ไม่จำเป็นที่การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องจะสำเร็จในการสนทนาเพียงครั้งเดียว เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถโน้มน้าวใจได้ง่าย ๆ ต่อให้คำอธิบายสมบูรณ์แบบแค่ไหน ก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถโน้มน้าวใจได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร

9.การเปลี่ยนใจต้องใช้เวลา

ดีน ฟรีลอน ศาสตราจารย์และนักวิจัยมหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลนา ย้ำว่า การเปลี่ยนใจคนสามารถทำได้ แต่อาจจะไม่เกิดขึ้นจากการสนทนาเพียงรอบเดียว ทั้งหมดคือเกมที่ต้องใช้การวางแผนระยะยาว สำคัญที่สุดคือทำให้คู่สนทนามองเห็นว่า เรามีความจริงใจในการหักล้างความเข้าใจผิดของเขาอย่างแท้จริง

เมเดอลีน จาลเบิร์ต นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ผู้ศึกษาวิธีการตัดสินความถูกต้องของผู้รับสาร ชี้แจงว่า คนทุกคนล้วนมีจุดอ่อนต่อการหลงเชื่อความปลอมข้อมูลเท็จ เมื่อใครสักคนเริ่มเชื่อข้อมูลเท็จแล้ว การจะทำให้พวกเขาย้อนกลับไปยังจุดที่ไม่เคยเชื่อเรื่องเท็จเหล่านั้นเป็นเรื่องยากมาก มนุษย์แต่ละคนล้วนมีความเชื่อที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงเป็นทุนเดิม และเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนเหล่านั้นเปลี่ยนใจหันมามองความเป็นจริงได้ง่าย ๆ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.washingtonpost.com/wellness/2022/10/05/debunk-political-misinformation-advice/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย