กกท.ชวนออกกำลังกาย SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์”

ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” ยังคงรุนแรงในประเทศไทยส่งผลให้ประชาชต้องงดการเดินทาง และลดการพบปะผู้คน ตลอดจนรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) หลายคนจึงต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน (Stay at home) ปรับการดำเนินชีวิตปกติเป็นแบบวิถีใหม่ (New Normal) ทำให้ประชาชนที่รักการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายต้องห่างหายจากกิจกรรมกีฬา รวมถึงบุคลากรการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ปฎิบัติภารกิจอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและสภาวะจิตใจ


“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ กกท. มีแนวคิดจัดแคมเปญ SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์” ด้วยการเปิดให้ประชาชนทั่วไป และเจ้าหน้าที่ของ กกท. ทั่วประเทศเข้าร่วมสมัครแข่งขัน โดยมีกติกาง่ายๆ แค่อยู่บ้านออกกำลังกายชนิดใด ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ก็ได้ ที่เป็นตัวคุณหลังจากออกกำลังกาย และเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวันได้ครบตามกติกาที่กำหนดในแต่ละรุ่นการแข่งขัน บันทึกผลการเผาผลาญแคลอรี่ที่ทำได้ผ่านแอพลิเคชั่นที่กำหนด จากนั้นส่งผลการออกกำลังกายทางเว็บไซต์ เมื่อครบตามวันที่กำหนดในกติกา ก็จะได้ได้รับเหรียญรางวัล และมีสิทธิ์ร่วมชิงรางวัลใหญ่ด้วย โดยที่มาที่ไปแนวคิดแคมเปญดังกล่าวนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของ กกท. หันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพตามความถนัดของแต่ละบุคคล โดยสามารถออกกำลังกายอยู่ที่บ้านได้ ในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วยลดภาวะความเครียด ทำให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง และจิตใจที่เข้มแข็ง โดยกิจกรรมนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 4,000 คน

ดร.ก้องศักด กล่าวต่อไปว่า วัตถุประสงค์ของแคมเปญ SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์” เพื่อจัดกิจกรรมออกกำลังกาย ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์ลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม รวมถึงส่งเสริมผ่านชุมชนกีฬาในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการรณรงค์ให้ประชาชนเกิดกระแสความนิยมการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายตามแนววิถีปฎิบัติใหม่ (New Normal) อยู่ที่บ้านหรือในสถานที่ส่วนตัวอย่างต่อเนื่องและยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร กกท. ให้มีความพร้อมทางด้าน ร่างกายให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ บรรเทาความเครียดทางด้านจิตใจ เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันที่ดี ที่สำคัญยังจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานที่ให้ความใส่ใจกับสุขภาพทางร่างกายและจิตใจของประชาชน และบุคลากร กกท.


ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อไปอีกว่า บุคคลทั่วไป เจ้าหน้าที่ กกท. สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่จำกัดเพศ และอายุ ได้ที่ www.thai.fit/c/satcal เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 20-27 กันยายน เพียง 4,000 คน ทุกคนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับเสื้อแคมเปญ SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์” ที่ออกแบบพิเศษฟรีคนละ 1 ตัว โดยเมื่อลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย สามารถเข้าร่วมการออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2564 พร้อมกับส่งผลการสะสมแคลอรี่มาทาง www.thai.fit/c/satcal ภายในระยะเวลาการจัดกิจกรรมที่กำหนด 31 วัน โดยใช้สมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทวอทช์ ในการบันทึกการออกกำลังกายแต่ละครั้ง ผู้สมัครทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับใบประกาศนียบัตร เหรียญรางวัล และผู้ร่วมกิจกรรมที่สามารถทำผลสะสมแคลอรี่ได้มากที่สุดในแต่ละเลเวล จะได้รับรางวัลใหญ่เป็นสมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทวอทช์ ตามรุ่นที่กำหนดไว้

ดร.ก้องศักด กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเลือกเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย ได้ทุกประเภท ตามความถนัด ความชอบของแต่ละคน และสะสมแคลอรี่ตามรุ่น ที่เลือกไว้ 3 เลเวล ประกอบด้วย เลเวลที่ 1 CAN CAL สะสมแคลอรี่เพื่อความสนุกสนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ สะสมแคลอรี่ขั้นต่ำวันละ 200 แคลอรี่ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน ภายในระยะเวลากิจกรรม 31 วัน เลเวลที่ 2 CARE CAL สะสมแคลอรี่เพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ สะสมแคลอรี่ ขั้นต่ำวันละ 400 แคลอรี่ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 20 วัน ภายในระยะเวลากิจกรรม 31 วัน และเลเวลที่ 3 COOL CAL สะสมแคลอรี่เพื่อรูปร่างที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือเล่นกีฬาสำหรับแข่งขันอื่นๆ สะสมแคลอรี่ขั้นต่ำวันละ 600 แคลอรี่ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 20 วัน ภายในระยะเวลากิจกรรม 31 วัน

“กกท.เล็งเห็นให้ทุกท่านได้ต่อสู้กับโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง เราคาดหวังที่จะได้รับความร่วมมือ และร่วมสนุกจากพี่น้องประชาชนทุกคน โครงการเบื้องต้นเราจะรับสมัคร 4 พันกว่าคน ที่ผ่านมาเราเคยทำโครงการในลักษณะนี้ ซึ่งเราต้องขอโทษที่เบื้องต้นเรายังรับสมัครได้ไม่มากนัก แต่ความตั้งใจของ กกท. จะทำโครงการในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และจะมีโครงการที่เปิดรับสมัครให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมสนุกกับเราได้มากขึ้น” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว


ด้าน “บิ๊กน้อย” พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา กล่าวว่า ขอสนับสนุนและร่วมรณรงค์กิจกรรม SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์” เป็นกิจกรรมที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งของ กกท. การทำงานของ กมธ.กีฬา วุฒิสภา เพราะมีความสอดคล้องกับในการทำงานเชื่อมโยงตามนโยบายของ กมธ.กีฬา วุฒิสภา ซึ่งรณรงค์อยู่เสมอว่า หมั่นออกกำลังกาย สุขใจไร้โรคา พาชาติไทยเจริญ

ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม SAT – CAL CHALLENGE “เอสเอที-แคล ชาลเลนจ์” สามารถติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจของโครงการ SAT- CAL CHALLENGE

และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=1NLFHwfr-QA

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย